ส่องขุมกำลังโตโยต้า ไทยลีก 2019 : นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี มักถูกยกให้เป็นหนึ่งในทีมเต็งตกชั้น แต่ 4 ฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ทัพลูกหนังแห่งเมือง ‘ย่าโม’ ดีพออยู่บนลีงสูงสุดตลอด โดยเฉพาะซีซั่น 2018 ที่ทะยานขึ้นมาจบถึงอันดับ 7 ของตาราง ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุด ในประวัติศาสตร์สโมสร และ ทำให้บอร์ดบริหาร ‘สวาทแคท’ วางใจ มิลอส โจซิค เทรนเนอร์เลือดเซิร์บ คุมทัพต่อไป

นอกจากนี้ ‘สวาทแคท’ ยังมัดใจเหล่าแข้งหลักชุดเดิม ไว้ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะผู้เล่นเกมรับ อันเป็นจุดแข็งของทีม พร้อมเสริมด้วย ผู้เล่นแนวรุก ที่ดูน่ากลัวมากขึ้น และ ภายใต้สโลแกน ‘สวาทแคท เลือดนักสู้’ พวกเขาจะทำผลงานได้ดี กว่าฤดูกาลที่ผ่านมา หรือไม่ รวมถึง ในฟุตบอลถ้วย จะไปได้ไกลแค่ไหน

นี่คือขุมกำลังกองทัพลูกหนังเมืองย่าโม่ เวอร์ชั่น 2019 ที่แม้ดูจะไม่หวือหวา แต่ก็เป็นทีมที่เคี่ยว และ เล่นด้วยยากมากที่สุด

"สาวกแมวตลอดไป" : เทวัญ ลิปตพัลลภ ไม่ได้นั่ง ปธ.สโมสร เพราะต้องลงสนามการเมือง แต่เมื่อมีเวลาว่างจะไปเชียร์อยู่เสมอ

ผู้รักษาประตู

สวาทแคท ปล่อย ทศพร ศรีเรือง ไปอยู่กับ ตราด เอฟซี แต่ก็ไม่ใช่จุดที่น่ากังวล เมื่อพวกเขายังมี แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม ที่โชว์ฟอร์มได้ดีและต่อสัญญาฉบับใหม่ไปแล้ว จองสัมปทานมือหนึ่ง โดยมี ชัยณรงค์ บุญเกิด และ ประภาส กอบแก้ว เป็นสำรอง มือสองและสาม ตามลำดับ

"ตำนานแมว" เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว กัปตันแมวดีกรีทีมชาติไทย จรดปากกาต่อสัญญาฉบับใหม่อยู่ยาวจนแขวนสตั๊ดที่นี่

กองหลัง

แนวรับถือว่า มิลอส โจซิค แทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อยังมีทั้ง อี วอน แจ และ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว กัปตันดีกรีทีมชาติไทย ยืนเป็นแกนหลักในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาร์ฟ นอกจากนี้ยังได้ ราชัน ประสิทธิ์ทอง จากโปลิศ เทโร เอฟซี เข้ามาหมุนเวียนเพิ่มอีกราย ต่อจากแข้งเก่า ณัฐพงษ์ สายริยา , วราดร อุ่นอาจ และ นพพล เกิดแก้ว น้องชายสุดที่รักของ ‘กัปตันเหลิม’ ที่พร้อมขึ้นมาเบียดแย่งตัวจริงเช่นกัน

ขณะที่ แบ็คขวา ถือว่าแย่งชิงกันสนุก เมื่อยังมีทั้ง เอกณัฐฐ์ คงเกตุ และ เดชา สร้างดี อยู่กับทีม แต่คาดว่า รายหลัง ที่ดูมีสมดุล เกมรุก และ เกมรับ ที่ดีกว่า จะได้รับโอกาสก่อน ด้านแบ็คซ้าย ประลอง สาวันดี ยืนเป็นตัวเลือกแรก โดยมี กันตภณ สมพิทยานุรักษ์ คอยสลับสับเปลี่ยนยามคับขัน

"เกมรับคือเกมรุก" โจซิค วางรากฐานให้แมวรู้จักความอดทน เล่นเกมรับให้แน่น รอจังหวะสวนกลับ จนทีมจบอันดับ 7 เมื่อปีก่อน

กองกลาง

ต่อกันที่แผงมิดฟิลด์หากว่าต้องการเน้นเกมรับเป็นพิเศษจะเป็นหน้าที่ของ กฤษดา เหมวิพัฒน์ จับคู่กับ เมธี ทวีกุลกาญจน์ แต่หาก ต้องการเปลี่ยนแทคติก เน้นรุกมากขึ้น ก็ยังมีทั้ง นฤพล อารมณ์สวะ และ อรรถพงศ์ หนูพรหม เป็นตัวสแปร์ชั้นดี รวมถึงดาวรุ่งอย่าง กิตติภัทร์ วงศ์สมบัติ และ นนทวัฒน์ กลิ่นจำปาศรี ก็สามารถลงมาทำหน้าที่ได้

ส่วนริมเส้นสองฝั่ง ถือว่าตอบโจทย์ มิลอส โจซิค ที่เน้นโต้กลับทั้งคู่ โดยทางซ้ายเป็น อมาดู อ็อตตารา ที่ย้ายมาจาก ราชนาวี เอฟซี และ ยาย่า คูนาธ ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ประจำการทางขวา แถมยังมีตัวสแตนด์บายที่มีคุณภาพอย่าง ชนัตพล สิกขะมณฑล , กิตติกร ปังขุนทด , จักรกฤษ นิยมสุข และ ชิตชนก ไชยเสนสุรินธร ที่อยู่ระหว่างเรียกความฟิต จากอาการบาดเจ็บ

Swat Cat"อาวุธใหม่" : นครราชสีมา เปลี่ยนแนวรุกแทบยกแผง นำโดย เฮนรี ดุมเบีย , อมาดู สองต่างชาติที่เล่นไทยลีกมานาน และ ชิตชนก ที่ย้ายกลับมาค้าแข้งที่ไทยอีกครั้ง

กองหน้า

ปิดท้ายกันที่แดนหน้า สวาทแคท ดูน่ากลัวมากขึ้น เมื่อได้ เบอร์นาร์ด เฮนรี ดุมเบีย ที่ยิงไป 15 ประตู และ 10 แอสซิสต์ จากชัยนาท ฮอร์นบิล เข้ามาประสานร่วมกับ เลอันโดร อัสซัมเซา กองหน้าชาวบราซิล อีกทั้งสองแข้งสดอย่าง วีรพงษ์ ครยก และ จักรกฤษ นิยมสุข ก็พร้อมลงมาเป็นทีเด็ด

11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาด (4-4-2)

แซมมวล (GK)

เดชา , อี ,เฉลิมพงษ์ (C) , ประลอง

ยายาร์ , เมธี , กฤษดา , อมาดู

เบอร์นาร์ด , เลอันโดร

ผู้เล่น เข้า-ออก (อัพเดตวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2019)

เข้า

อมาดู อ็อตตารา (ราชนาวี)
เฮนรี ดุมเบีย (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
ชิตชนก ไชยเสนสุรินธร (คิอัสโซ)
ราชัน ประสิทธิ์ทอง (โปลิศ เทโร เอฟซี)
นนทวัฒน์ กลิ่นจำปาศรี (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)

ออก

เนบอยซา มารินโควิช
ชาห์เรล ฟิกรี *หมดสัญญายืมตัว PKNP
วิทยา หมัดหลำ *หมดสัญญายืมตัวบีจี ปทุม ยูไนเต็ด
เอกชัย ฤทธิพันธุ์ (ชลบุรี เอฟซี)
ทศพร ศรีเรือง (ตราด เอฟซี)
อันโตนิโอ พีนา (โปลิศ เทโร เอฟซี)
นิพนธ์ คำทอง (อาร์มี่ ยูไนเต็ด)
ไพฑูรย์ นนทะดี (สุโขทัย เอฟซี)
กีรติ เขียวสมบัติ (โปลิศ เทโร เอฟซี)

Squad Focus : ส่องขุมกำลัง 16 ทีม โตโยต้า ไทยลีก 2019