วิเคราะห์ 16 ทีมโตโยต้า ไทยลีก : สมุทรปราการซิตี้

สมุทรปราการซิตี้ เรียกเสียงฮือฮาตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาลเมื่อได้ มาซาทาดะ อิชิอิ อดีตเฮดโค้ช คาชิมา อันเลอร์ส เข้ามาคุมทัพ ขณะเดียวกันยังเริ่มต้นนัดแรกของฤดูกาลได้ยอดเยี่ยม

ทว่าท้ายที่สุดกลับต้องไร้ชัย 4 เกมติดต่อกัน ร่วงไปอยู่อันดับ 14 ของตารางคะแนน

อะไรคือจุดบกพร่องที่ทำให้ เขี้ยวสมุทร อยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ และสิ่งไหนเป็นจุดแข็งที่ยังพอมีอยู่ ติดตามได้จากบทวิเคราะห์นี้

จุดแข็ง

เขี้ยวสมุทร เริ่มต้นเกมแรกของฤดูกาลได้น่าสนใจในเกมเปิดบ้านรับมือ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ อดีตกุนซือคาชิมา อันเลอร์ส ที่นำระบบการเล่นตามสไตล์ฟุตบอลญี่ปุ่นมาปรับใช้

สิ่งที่ เขี้ยวสมุทร เปลี่ยนแปลงชัดเจนคือฟุตบอลเพรซซิงที่พวกเขามีคุณภาพมากขึ้นพยายามวิ่งบดบี้คู่แข่งตลอด 90 นาที ขณะที่เกมแดนกลางถือว่ายังลงตัว เมื่อไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก และยังคงใช้ผู้เล่นหลักชุดเดิมจากปี 2019 มีเพียง ยูโตะ โอโนะ ที่ขยับเข้ามาสอดแทรกในบางเกม ทำให้ยังค่อนข้างรักษาเชฟของทีมเอาไว้ได้เหมือนเดิม

นอกจากนี้จุดแข็งสำคัญของพวกเขาคือ เกมรุกริมเส้นที่ยังคงอันตราย และสร้างความกดดันต่อคู่แข่งเหมือนฤดูกาลที่ผ่านมา โดยปีกสองข้างอย่าง พิชา อุทรา และ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ มีความเร็ว และคล่องตัวช่วยสร้างสรรค์เกมรุกได้มาก ส่วน ศุภนันท์ บุรีรัตน์ แบ็คขวาตัวเก่งรวมถึง เออร์เนสโต ภูมิภา ที่เพิ่งย้ายมาใหม่ ก็คอยซัพพอร์ตได้ดี อีกทั้งยังมีส่วนร่วมกับประตูไปแล้ว

เปโดร จูเนียร์ สร้างสรรค์โอกาสให้ทีมมากมาย แต่ยังตอบโจทย์การยิงประตูได้ไม่ดีพอ

จุดอ่อน

ในส่วนของเกมรับยังมีปัญหาพอสมควรจากการประสานงานที่ไม่ลงตัวสักเท่าไหร่ โดยฌแพาะการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนจนหลายครั้งเกิดเป็นความผิดพลาดง่ายๆจนนำไปสู่การเสียประตู ฤดูกาลนี้พวกเขาเสียไปแล้ว 8 ประตู ซึ่งมากกว่าปีก่อนเป็นเท่าตัวที่เสียเพียง 4 ประตู จาก 4 เกม

ยิ่งไปกว่านั้นปัญหาหลักของ สมุทรปราการ คือ เรื่องจบสกอร์ พวกเขาสามารถสร้างโอกาสได้ต่อเนื่องในทุกๆเกม แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้สำเร็จ และกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้จนพลาดแต้มสำคัญในท้ายที่สุด

โดยทีมของ อิชิอิ แม้จะมีผู้เล่นที่สามารถสร้างสรรค์เกมรุกได้น่าสนใจรวมถึงความเร็วของผู้เล่นที่อาศัยจังหวะโต้กลับได้น่ากลัว แต่กลับขาดกองหน้าตัวจบสกอร์สไตล์โป้งเดียวจอด เนื่องจาก เปโดร จูเนียร์ ที่ถูกดึงเข้ามาแทน อิบสัน เมโล เป็นศูนย์หน้ากึ่งปีกที่คอยสร้างโอกาสมากกว่า ส่วน ชญาวัต ศรีนาวงษ์ ที่ยิงไปแล้ว 2 ประตู แต่อาจต้องเด็ดขาดกว่านี้

จุดนี้เอง มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือ เขี้ยวสมุทร รู้ถึงข้อบกพร่องของทีมดี เพียงแต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ใน 4 เกมที่ผ่านมา "ผมไม่มีความกดดันจากที่ทีมยังไม่ชนะใคร 4 เกม ผมรู้สึกเป็นห่วงนักเตะมากกว่า ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะกดดันกว่าผมจากผลงานที่ออกมา"

Goal Thailand

คุณภาพทีมคู่แข่งประกอบกับข้อบกพร่องของ เขี้ยวสมุทร ทำให้ มาซาทาดะ อิชิอิ ต้องพบงานหินตั้งแต่ 4 นัดแรกในไทยลีก

"จากสถานการณ์ของทีมในตอนนี้ในการลุ้นจบอันดับ 3 ค่อนข้างยากหน่อย ไทยลีกเป็นเกมที่ค่อนข้างดุเดือด แต่มีคุณภาพ ซึ่งผมไม่เคยเจอมาก่อน จากนี้เราต้องกลับไปทำงานให้หนักมากขึ้นโดยเฉพาะการจบสกอร์ที่ยังมีปัญหา"

จากผลงานไร้ชัย 4 เกม หากดูรูปเกมของ สมุทรปราการ พวกเขาสามารถสู้กับทีมอื่นได้ดี ซึ่งช่วงเวลาพักเบรกไทยลีด ทำให้เทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่นมีเวลาปรับจูนทีมใหม่ทั้งเกมรับที่ต้องให้รัดกุมขึ้น ส่วนเกมรุกก็ต้องใช้จังหวะสุดท้ายให้คุ้มค่า

แต่หากกลับมาแข่งขันยังทำไม่สำเร็จ โอกาสไต่อันดับสู่หัวตารางคงต้องลุ้นเหนื่อยกว่าเดิมหลายเท่า…

โปรแกรมต่อไป สมุทรปราการซิตี้ จะพบกับ ระยอง เอฟซี ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 เวลา 19.00 น. ที่ สมุทรปราการ สเตเดียม

ติดตามข่าว โตโยต้า ไทยลีก ที่นี่