ทำความรู้จัก คาวาซากิ ฟรอนทาเล ต้นสังกัดใหม่ ชนาธิป สรงกระสินธ์

คาวาซากิ ฟรอนทาเล เตรียมเดินหน้าสานต่อความยิ่งใหญ่บนลีกสูงสุดของญี่ปุ่นต่อไป หลังทำการเสริมทัพด้วย "บิ๊กดีล" คว้าตัว ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางตัวรุกจากคอนซาโดเล ซัปโปโร คู่แข่งร่วมลีก มาร่วมทีมในฤดูกาล 2022

GOAL ประเทศไทย ขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับต้นสังกัดใหม่ของชนาธิป สรงกระสินธ์ ให้มากขึ้น

- ที่มา "ฟรอนทาเล"

ประวัติศาสตร์ของ คาวาซากิ ฟรอนทาเล เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1997 แม้ในช่วงก่อนหน้านี้จะใช้ชื่อสโมสรฟุตบอลฟูจิตสึ ลงเล่นในฐานะทีมองค์กรนานกว่า 40 ปี

ชื่อทีม คาวาซากิ ฟรอนทาเล เกิดจากการนำชื่อเมือง (คาวาซากิ) มาผสมผสานกับคำว่า "frontal" ในภาษาอิตาลี ที่แปลความหมายว่า "แนวหน้า"

Getty

- สีประจำสโมสรฟ้า-ดำ

แฟนบอลชาวไทยที่ติดตามฟุตบอลญี่ปุ่นคงคุ้นเคยกันดีกับสีประจำสโมสรของคาวาซากิ ฟรอนทาเล นั่นคือ สีฟ้า-ดำ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสโมสรเกรมิโอ ทีมดังในลีกบราซิล ซึ่งทั้งสองทีมจับมือเป็นพันธมิตรกันมาตั้งแต่ปี 1997

- ดาวเด่นของทีม

หากจะพูดถึงนักเตะของคาวาซากิ ฟรอนทาเล ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น โดยยึดผลงานจากฤดูกาลที่แล้วเป็นที่ตั้ง เราคงต้องไล่เรียงชื่อกันตั้งแต่ผู้รักษาประตูไปจนถึงกองหน้า นั่นเป็นเพราะว่าทีมของพวกเขา "แกร่งทั่วแผ่น" ทุกตำแหน่งอย่างแท้จริง

Getty

แต่ถ้าหยิบยกชื่อแข้งดาวเด่นที่เป็นซูเปอร์สตาร์ของทีม แฟนบอลหลายคนคงรู้จัก เลอันโดร ดามิเยา อดีตกองหน้าทีมชาติบราซิล ที่คว้ารางวัลดาวซัลโวร่วมในศึกเจลีก 2021 ที่ผ่านมา

นอกจากนั้นยังมี โชโกะ ทานิกุจิ ปราการหลังกัปตันทีมวัย 30 ปี ที่เป็นตัวหลักในเกมรับของทีมมาอย่างยาวนาน, อากิฮิโร อิเอนากะ แนวรุกตัวริมเส้นมากประสบการณ์วัย 35 ปี ที่รอประสานงานกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในฤดูกาลหน้า รวมถึง ยู โคบายาชิ ดาวยิงตัวเก๋าดีกรีอดีตทีมชาติญี่ปุ่น วัย 34 ปี

- โทรุ โอนิกิ กุนซือจิตวิญญาณฟรอนทาเล

กุนซือวัย 47 ปี คือผู้อยู่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของฟรอนทาเลอย่างแท้จริง เขาเริ่มต้นเส้นทางโค้ชด้วยการคุมทีมเยาวชนของสโมสรตั้งแต่ปี 2007 จากนั้นไต่เต้าขึ้นมาเป็นผู้ช่วยโค้ชของทีมในระหว่างปี 2010-2016

หลังจากรับบทผู้ช่วยโค้ชของ ยาฮิโระ คาซามา เป็นเวลาเกือบ 7 ปี ในที่สุด โทรุ โอนิกิ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกุนซือคนใหม่ของคาวาซากิ ฟรอนทาเล ในฤดูกาล 2017 ก่อนพาทีมคว้าแชมป์เจลีกได้ทันทีตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาคุมทีม นั่นคือจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของฟรอนทาเล

Getty

- ฟุตบอลเกมรุก

ภาพจำของแฟนบอลชาวไทยที่มีต่อคาวาซากิ ฟรอนทาเล คือทีมที่ขับเคลื่อนลูกฟุตบอลไปข้างหน้าแบบไม่หยุดยั้ง นั่นหมายถึงฟุตบอลเกมรุกที่เน้นความแม่นยำในการต่อบอล ตั้งแต่แนวหลังไปจนถึงศูนย์หน้าตัวเป้า

ในศึกเจลีก 5 ฤดูกาลหลังสุด คาวาซากิ ฟรอนทาเล ภายใต้การคุมทีมของ โทรุ โอนิกิ เป็นทีมที่ยิงประตูมากที่สุดในลีกถึง 3 ฤดูกาล

ฤดูกาล 2017 : ยิง 71 ประตู

ฤดูกาล 2018 : ยิง 57 ประตู

ฤดูกาล 2019 : ยิง 57 ประตู (จบอันดับที่ 4 และยิงประตูรวมเป็นรอง โยโกฮามา เอฟ มารินอส และ วิสเซล โกเบ)

ฤดูกาล 2020 : ยิง 88 ประตู

ฤดูกาล 2021 : ยิง 81 ประตู (ยิงประตูรวมเป็นรอง โยโกฮามา เอฟ มารินอส ทีมเดียวเท่านั้น)

- สโมสรสานฝันนักเตะสู่ลีกยุโรป

นอกจากผลงานอันยอดเยี่ยมของทีมในแต่ละฤดูกาลแล้ว คาวาซากิ ฟรอนทาเล ยังเป็นสโมสรที่ได้รับความสนใจจากสเกาท์ (แมวมอง) ในสโมสรจากลีกยุโรป

Getty

ในแต่ละซีซั่นนักเตะญี่ปุ่นของฟรอนทาเลที่โชว์ฟอร์มได้ดี มักจะได้รับโอกาสย้ายไปสานฝันในยุโรป ซึ่งหากย้อนกลับไปใน 4 ปีหลังสุด คาวาซากิ ฟรอนทาเล ปล่อยนักเตะตัวหลักของทีมออกไปค้าแข้งในยุโรป ไล่ตั้งแต่ โค อิตาคุระ ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ฤดูกาล 2018/19), โคจิ มิโยชิ ไป รอยัล อันท์เวิร์ป (ฤดูกาล 2019/20), อาโอะ ทานากะ ไป ฟอร์ทูนา ดุสเซลดอร์ฟ (2021/22), คาโอรุ มิโตมะ ไป ไบร์ทตัน (2021/22) และ เรโอะ ฮาตาเตะ ไป เซลติก (2021/22)

- ครองความยิ่งใหญ่เจลีก

Getty

คาวาซากิ ฟรอนทาเล เริ่มต้นประวัติศาสตร์สโมสรด้วยการคว้าแชมป์เจลีกสมัยแรกของสโมสรในฤดูกาล 2017 จากนั้นป้องกันแชมป์ได้ทันทีในซีซั่นต่อมา (2018) โดยถูกคั่นกลางในปี 2019 โยโกฮามา เอฟ มารินอส ที่มี ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายทีมชาติไทย ก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ได้สำเร็จ

หลังจากนั้น คาวาซากิ ฟรอนทาเล กลับมาทวงแชมป์คืนได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์สองสมัยติดต่อกันในฤดูกาล 2020 และ 2021 ซึ่งถือว่าเป็นการคว้าแชมป์ได้ถึง 4 สมัย ใน 5 ปีหลังสุด

- เสื้อแข่งราคาเท่าไหร่?

การมาของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ย่อมส่งผลให้มูลค่าทางการตลาดในไทยของ คาวาซากิ ฟรอนทาเล เพิ่มขึ้นเหมือนที่ คอนซาโดเล ซัปโปโร เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว และ หนึ่งในสิ่งที่พวกเขาจะได้กำไรตอบแทนกลับไปนั่นคือการขายสินค้าที่ระลึกต่าง ๆ โดยเฉพาะเสื้อแข่งขัน ที่ปักชื่อของ ชนาธิป

เสื้อแข่งขันปีนี้ของทีมแชมป์เจลีก ยังใช้แบรนด์ พูม่า เหมือนเคย โดยปีนี้ได้แนวคิดในการออกแบบคือ ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน (FORWARD TOGETHER)

ชุดเหย้ายังคงเป็นโทนสีน้ำเงิน ลายกระเบื้อง ที่แขนเสื้อมีโลโก้พิเศษฉลองครบรอบ 26 ปี มีไอน้ำลอยขึ้นมา 3 ขีด สื่อถึง สโมสร , พันธมิตร และ แฟนบอล ที่จะเดินไปด้วยกัน ขณะที่ชุดเยือนปีนี้ เลือกใช้สีขาว , เสื้อผู้รักษาประตูจะเป็นสีเขียว และ สีแดง 

สนนราคาอยู่ที่ 16,500 เยน เฉพาะเสื้อเปล่า หรือ ประมาณ 4,800 บาท และ พร้อมจำหน่ายวันแรก 21 มกราคมนี้ ขณะที่ชุดเยือน และ ชุดอื่น ๆ จะมีการเปิดวางจำหน่ายในอนาคต