ดราม่าท้ายเกม! เลสเตอร์เฉือนเชลซี 1-0 ซิวเอฟเอ คัพสมัยแรก

ทัพจิ้งจอกสยาม ได้ประตูชัยจากมิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียมพาทีมเฉือนสิงห์บลูส์ 1-0 คว้าแชมป์เอฟเอ คัพสมัยแรกของสโมสรไปครอง

โปรแกรมถ่ายทอดสด

TV station

beIN SPORTS 1

เช็คโปรแกรมถ่ายทอดสดทุกคู่ได้ทีนี่

วันและเวลาแข่งขัน

เกม	เชลซี - เลสเตอร์ ซิตี้
วันที่	วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม 2564
เวลา	23.15 น.
สนาม	เวมบลีย์

LIVE UPDATE เอฟเอ คัพ : เชลซี - เลสเตอร์ ซิตี้

ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบชิงชะเลิศ เชลซี เกมนี้ ได้ เอ็นโกโล ก็องเต้ กลับมายืนตัวจริงคู่ จอร์จินโญ สองแนวรุกใช้ เมสัน เมาท์ ทำเกมร่วมกับ ฮาคิม ซิเย็ค และ ติโม แวร์เนอร์ เป็นหน้าตัวเป้า

ทางฝั่ง เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ข่าวดีเมื่อ จอนนี อีแวนส์ กลับมาลงคุมแนวรับอีกครั้ง คู่มิดฟิลด์ ยูริ ตีเลอมันส์, วิลฟรีด เอ็นดิดี คู่กองหน้าคู่เดิม เคลิชี อิเฮียนาโช ประสานงาน เจมี วาร์ดี้

อ่านบทความต่อด้านล่าง

โอกาสของเชลซีนาที 22 ติอาโก้ ซิลวา เปิดบอลให้ เมสัน เมาท์ พลิกบอลหนี คักลาร์ โซยุนคู ก่อนได้ง้างยิงด้วยซ้าย บอลหลุดเสาแรกออกไป

หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง เลสเตอร์ เจอข่าวร้ายเมื่อ จอนนี อีแวนส์ มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องเปลี่ยน มาร์ค อัลไบรท์ตัน ลงสนามมาแทนแล้วขยับ ทิโมธี คาสตาญ ลงมายืนเป็นสามแนวรับ

นัดต่อไป

Goal! ทัพจิ้งจอกมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ อโยเซ เปเรซ ตัดบอลกลางสนามบอลเข้าทาง ยูริ ติเลอมันส์ กดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมสุดสวย เลสเตอร์ ขึ้นนำ 1-0

เชลซีเกือบได้ประตูตีเสมอนาที 77 เอ็นโกโล ก็องเต้ เปิดบอลให้ เบน ชิลเวลล์ ตัวสำรองลอยตัวได้โขก แคสเปอร์ ชไมเคิล พุ่งปัดปลายมือบอลชนเสาเด้งออกไป

ท้ายเกมนาที 87เชลซีเกือบได้ประตูตีเสมอจากลูกยิงจ่อ ๆ ในเขตโทษของ เมสัน เมาท์ แต่ทว่า แคสเปอร์ ชไมเคิล พุ่งปัดได้อย่างยอดเยี่ยม

เชลซีพลาดประตูตีเสมอนาที 89 จากจังหวะที่ ติอาโก้ ซิลวา วางบอลยาวให้ เบน ชิลเวลล์ หลุดเดี่ยวไปยิงติดบล็อค คักลาร์ โซยุนคู มาโดนตัว เวส มอร์แกน เข้าประตูตัวเอง แต่ VAR เช็กว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าทำให้ เลสสเตอร์ ยังนำ 1-0

จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ เชลซี 1-0 คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ สมัยแรกของสโมสร ขณะที่เชลซีอกหักรอบชิงฯสองปีติดต่อกัน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เชลซี (3-4-3) : เกปา อาร์ริซาบาลากา; เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์; รีซ เจมส์, เอ็นโกโล ก็องเต้, จอร์จินโญ, มาร์กอส อลอนโซ; เมสัน เมาท์, ติโม แวร์เนอร์, ฮาคิม ซิเย็ค

ตัวสำรอง : เอดูอาร์ เมนดี้, เบน ชิลเวลล์, เคิร์ต ซูมา, โอลิวิเยร์ ชิรูด์, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย, บิลลี กิลมอร์, ไค ฮาแวร์ตซ์, เอแมร์ซอน พัลมิเอรี, คริสเตียน พูลิซิช

เลสเตอร์ ซิตี้ (3-4-1-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิล, เวสลีย์ โฟฟานา, คักลาร์ โซยุนคู, จอนนี อีแวนส์, ทิโมธี คาสตาญ, ยูริ ตีเลอมันส์, วิลฟรีด เอ็นดิดี, ลุค โธมัส, อโยเซ เปเรซ, เคลิชี อิเฮียนาโช, เจมี วาร์ดี้

ตัวสำรอง : แดนนี วอร์ด, เวส มอร์แกน, ดาเนียล อาร์มาร์ตีย์, ริคาร์โด เปเรรา, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ฮัมซา เชาฮ์ดรี้, น็อมปาลิส เมนดี้, เดนนิส ปราต, เจมส์ แมดดิสัน

สภาพความพร้อมก่อนเกมของทั้งสองทีม

เชลซี เหลือเพียงรอเช็คความฟิตของ มาเตโอ โควาซิช และ คริสเตียน พูลิซิช ว่าจะพร้อมช่วยทีมหรือไม่ แนวรับคาดว่าจะใช้ อันเดรส คริสเตียนเซน, ติอาโก้ ซิลวา และ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ เป็นสามกองหลัง แดนกลางนำทัพโดย เอ็นโกโล ก็องเต้ ประสานงานกับ จอร์จินโญ แนวรุกใช้ เมสัน เมาท์, ติโม แวร์เนอร์ และ ไค ฮาแวร์ทซ์ เป็นสามประสาน

เลสเตอร์ เกมนี้จะยังไม่มี เวส มอร์แกน, เจมส์ จัสติน, เซนกิซ อุนแดร์ และ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่น่าจะได้ จอนนี อีแวนส์ ฟิตกลับมทันคุมแนวรับร่วมกับ เวสลีย์ โฟฟานา และ ชาลาร์ โซยุนจู ได้ทันเวลา แดนกลางนำทัพโดย ยูริ ตีเลอมันส์ ประสานงานกับ วิลฟรีด เอ็นดีดี้ โดยที่มี เจมส์ แม็ดดิสัน คอยปั้นเกมให้อยู่ด้านหลังคู่หัวหอก เคเลชี อิเฮียนาโช และ เจมี วาร์ดี้