รู้จัก ราฟาเอลา พิเมนต้า : ทายาทเอเยนต์ของ มิโน ไรโอลา

ต้องยอมรับว่า มิโน ไรโอลา ซูเปอร์เอเยนต์ผู้ล่วงลับ เป็นคนที่มีพรสวรรค์และความสามารถ ตลอดช่วงอายุ 54 ปีของเขา

ในอดีต เขาทำหน้าที่รับผิดชอบหน้าที่ในร้านอาหารของคนในครอบครัวของเขา ทำตั้งแต่เรื่องธุรการ การบริหาร รวมถึงให้ความบันเทิงแก่ลูกค้า

ลูกค้าขาประจำของร้านในเวลานั้นคือ อังเดร ฟาน เอร์เดน ประธานสโมสร เอชเอฟซี ฮาร์เลม ทีมในดิวิชันสองของลีกดัตช์ คนที่ ไรโอลา มักจะไม่สบอารมณ์กับเรื่องนโยบายสโมสรและมักจะบอกให้เขาทำเรื่องนี้ เรื่องนั้นให้เหมาะสม จนกระทั่ง ไรโอลา ถูกจ้างเป็นผู้อำนวยการสโมสรในวัย 20 ปีต้น ๆ เท่านั้น

และนั่นคือจุดเริ่มต้นอาชีพในวันหนุ่มของ ไรโอลา ก่อนที่จะกลายเป็นหนึ่งในผู้ที่มีอิทธิพลในวงการฟุตบอลยุคให้หลัง ที่ได้รับความสนใจจากทั่วทั้งโลก

ในช่วงที่เจรจาสัญญาให้ ปอล ป็อกบา ในปี 2012 เขาเคยปฏิเสธข้อเสนอของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พร้อมบอกเขาว่า “มันเป็นข้อเสนอที่ต่อให้หมาชิวาว่าของผมยังไม่เซ็นเลย”

แน่นอนว่ามันทำให้ บรมกุนซือปีศาจแดงโกรธจัด

ท่ามกลางเสียงด่าวิจารณ์ต่าง ๆ นานา ที่ถาโถมมาใส่ตัวเขาจากทั่วทุกสารทิศ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาเก็บมาใส่ใจแต่อย่างใด เพราะตราบใดที่มันทำให้นักเตะในความดูแลของเขาได้ผลประโยชน์สูงสุด เขาพร้อมที่จะยอมรับมันซึ่งเรื่องนี้มันทำให้สายสัมพันธ์ของเขากับนักเตะแนบแน่นเหลือเกิน

ฮาลันด์และคนอื่น ๆ สูญเสียที่ปรึกษาคู่ใจของพวกเขาไปแล้ว

สำหรับ ราฟาเอลา พิเมนต้า ผู้เป็นศาสตราจารย์ด้านกฎหมาย นั่นทำให้ เหล่าทนายความรู้ดีถึงความยากลำบากในโลกธุรกิจ ที่วัดกันตอนท้ายในสิ่งที่เขียนบนแผ่นกระดาษและลายเซ็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเรื่องเงินเข้ามาหมุนเวียนจำนวนมาก 

เธอเลือกเดินตามรอย ไรโอลา และทำงานร่วมกันมานานถึง 18 ปีในการสร้างอาณาจักรแห่งนี้ขึ้นมา

ไรโอลา ไม่ค่อยเปิดโอกาสให้ใครเข้ามาใกล้ชิดกับเขา มีเพียงญาติของเขาอย่าง วินเซนโซ ผู้เป็นทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร, แมวมอง และเลขาของเขา รวมถึง เลฟาเอลา ที่ทำงานในเอเจนซีของเขา ที่มีฐานที่ตั้งอยู่ใน โมนาโก

Prime Video

หลายปีที่ผ่านมา เหมือนกับว่า ไรโอลา เป็นคนจัดการทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมด ทำให้หลังการเสียชีวิตของเขาทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเหล่านักเตะจะทำอย่างไรเมื่อไม่มีเขาอีกแล้ว นักเตะอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ปอล ป็อกบา รวมถึง เออร์ลิง เบราท์​ ฮาลันด์ จะเป็นอย่างไรต่อไป

ทว่าทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย เพราะ ไรโอลา ไม่ได้ดูแลงานทุกอย่างแต่เพียงผู้เดียว เขายังมี ราฟาเอลา ที่ทำหน้าที่สำคัญและเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ใช่คนในครอบครัวของเขาที่ทำงานในเอเจนซี

ราฟาเอลา พิเมนต้า ลุยงานใหญ่ลุล่วงทันที

สำหรับ พิเมนต้า เธอไม่เคยลังเลเลยว่าเธอจะทำหน้าที่นี้ต่อไปไม่ได้ เริ่มแรกจัดการพา เออร์ลิง ฮาลนัด์ ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อด้วยการพา นุสแซร์ มาซราอุย และ ไรอัน กราเวนเบิร์ช จาก อาแย็กซ์ ไปร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิค และกำลังดำเนินการขั้นตอนสุดท้ายในการพา ปอล ป็อกบา กลับสู่ ยูเวนตุส

พิเมนต้า เป็นคนที่ ป็อกบา ให้ความเชื่อมั่น ซึ่งจากในสารคดี The Pogmentry จะเผยให้เห็นว่าเธอมีบทบาทสำคัญ และคงจะออกสู่สารณชนเป็นที่แรก

ในสารคดี ป็อกบา จะถามความเห็นของเธอหลายต่อหลายอย่าง รวมทั้งเรื่องนอกสนาม เธอคือ “คุณป้าราฟา” ของลูก ๆ ป็อกบา นั่นหมายถึงเธอสนิทสนมกับครอบครัวนักเตะ

มีรายงานของ The Athletic เผยว่า ผู้อำนวยการสโมสรจากทีมนิรนามในพรีเมียร์ลีก บรรยายคุณลักษณะของเธอว่า ไม่ใช่เพียง”บุคคลที่สำคัญที่สุดในวงการฟุตบอลที่ไม่มีใครรู้” แต่ยังเป็น “นักเจรจาต่อรองที่เขี้ยวที่สุด” อีกด้วย

ยามที่เธอนั่งลงเจรจา ความเป็นทนายความก็พุ่งออกมาจากตัวเธอ หลาย ๆ คนบอกว่า ไรโอลา เป็นคนนำพาลูกค้ามาพบกับสโมสร แต่ พิเมนต้า คือตัวหลักในการเจรจาสัญญาไปจนถึงรายละเอียดในข้อตกลงสุดท้าย

Reuters

เธอแทบไม่รู้จักความยากเย็นแสนเข็ญในการทำงาน ย้อนกลับไปตอนเรียนมหาวิทยาลัยเซา เปาโล เธอได้ทำงานกับ อดีตประธานสโมสรอย่าง เฟร์นานโด เฮนริเก้ คาร์โดโซ และได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญ ที่หล่อหลอมความเข้มงวดให้กับเธอ

ราฟาเอลา พิเมนต้า : จาก ริวัลโด้ สู่ ฟุตบอล

พิเมนต้า เข้าสู่วงการนี้ผ่านการติดต่อจาก ริวัลโด้ และ เซซาร์ แซมปาโญ ตั้งสโมสร Guaratingueta ขึ้นในปี 1998 เธอ ยืนหยัดเคียงข้างพวกเขา ก่อนที่จะมีแขกจากยุโรปมาเยือน “มิโน ไรโอลา” ก่อนทั้งสองคนจะทำความรู้จักและนับถือซึ่งกันและกัน นำมาสู่การทำงานร่วมกัน โดยมี ไรโอลา เป็นทัพหน้าเดินชนเปิดหน้าแลก ทำทุกอย่างเพื่อนักเตะของเขา

โดยมี พิเมนต้า ทำงานเบื้องหลัง ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของเธอแทบไม่เป็นที่พูดถึง ซึ่งเธอไม่จำเป็นต้องเพิ่งการประชาสัมพันธ์ใดๆ เพื่อทำหน้าที่ของเธอให้ดีขึ้น

ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า มาริโอ และ เกเบรียเล ลูกชายของ มิโน ไรโอลา อาจเข้ามามีบทบาทในอาณาจักรของเขา ซึ่งพวกเขาเผยว่าทั้งคู่ได้ทำการชิมลางธุรกิจนี้ และจะเรียนรู้ต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า

ซึ่งแน่นอนว่า คุณป้าราฟา ต้องคอยช่วยเหลือพวกเขาแน่นอน