ดุสิต เฉลิมแสน กุนซือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เผยว่า พยายามนำระบบการเล่นบางอย่างของ ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษล่าสุดมาปรับใช้กับทีมในการสร้างความแข็งแกร่งสู้ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020-21
หงส์แดง เพิ่งซิวแชมป์ลีกสุดยิ่งใหญ่เป็นหนแรกหลังรอคอยมายาวนาน 30 ปี ซึ่งเป็นสโมสรในดวงใจของเฮดโค้ช เดอะ บลูแมชชีน ทำให้มีการนำบางอย่างมาปรับใช้กับทีมเพื่อลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ด้วย
"รู้สึกดีใจครับที่ ลิเวอร์พูล กลับมาคว้าแชมป์ลีกได้อีกครั้ง" กุนซือวัย 50 ปี เริ่มกล่าวถึงการคว้าแชมป์ของยอดทีมในดวงใจ
"จริงๆมันเริ่มมีความหวังตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว ที่ได้ลุ้นแชมป์จนถึงช่วงท้ายฤดูกาล สุดท้ายก็พลาดไปแต่ก็ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปลอบใจแทน ที่สำคัญด้วยตัวผู้เล่น ฟอร์มการเล่นของทีม จากฤดูกาลที่แล้วผมก็มองว่าฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล น่าจะประสบความสำเร็จได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ได้แชมป์ลีกจริงๆ"
"หลังจากที่ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกได้ในฤดูกาล 1989-1990 แม้จะพลาดในปีต่อมาคือฤดูกาล 1990-1991 ด้วยการจบอันดับ 2 ผมก็ยังมั่นใจว่าจะกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้งแน่นอน"




"แต่พอเปลี่ยนจาก ดิวิชั่น 1 มาเป็น พรีเมียร์ลีก มันก็เหมือนเป็นการเปลี่ยนยุคเปลี่ยนสมัย ลิเวอร์พูล อันดับเริ่มตกลงมาเรื่อยๆ ปล่อยให้ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือว่า อาร์เซนอล ขึ้นมาประสบความสำเร็จ จนกลายเป็นทีมไม่มีลุ้นแชมป์อีกต่อไป"
BGPUขณะเดียวกันได้กล่าวถึงสไตล์การเล่นระหว่าง บีจี ปทุมฯ กับ ลิเวอร์พูล ว่า "สไตล์การเล่นของเรากับ ลิเวอร์พูล คงจะไม่เหมือนกัน เพราะ บีจี ปทุมฯ เล่นระบบ 3-4-3 หรือ 3-5-2"
"แต่ ลิเวอร์พูล เท่าที่ดูจะเล่นระบบ 4-3-3 แต่ก็มีบางอย่างในระบบของ ลิเวอร์พูล ที่เราพยายามจะนำมาปรับใช้กับทีม โดยเฉพาะการเปลี่ยนเกมจากรับเป็นรุกหรือรุกเป็นรับนั่นเป็นสิ่งที่เราจะพยายามฝึกและนำมาใช้กับทีมให้ดีที่สุด"
"ผมเชื่อมั่นอย่างนั้นนะ ปีนี้เราได้ผู้เล่นที่มีประสบการณ์ระดับชาติเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม ทำให้ผมมั่นใจว่าเรามีดีพอที่จะคว้าแชมป์ใดแชมป์หนึ่งได้"
"จริงๆผมก็ยังตอบไม่ได้ว่า บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะคว้าแชมป์ลีกได้เมื่อไร แต่ที่แน่ๆไม่ต้องรอนานถึง 30 ปี เหมือน ลิเวอร์พูล อย่างแน่นอน" โค้ชโอ่ง ปิดท้าย
สำหรับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ออกสตาร์ทศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020-21 ได้ยอดเยี่ยมกับผลงานไร้พ่ายชนะ 3 เสมอ 1 มี 10 คะแนน รั้งอันดับ 4 ของตารางในเวลานี้
