Worst XI EURO2020Getty

WORST XI : ทีมยอดแย่ประจำศึกยูโร 2020 โดย Goal

  • Kylian Mbappe France Switzerland UEFA Euro 2020 28062021Getty

    1กองหน้า | คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส)

    ดาวยิงเด็กระเบิดของปารีส แซงต์-แชร์กแมง พกฟอร์มเทพมาลุยยูโร 2020 แบบเต็มเปี่ยม ด้วยสถิติยิงรวมทุกรายการ 42 ประตูในฤดูกาล 2020/21

    ทว่ายูโรครั้งนี้นับเป็นทัวร์นาเมนต์ที่น่าผิดหวังของดาวรุ่งวัย 22 ปีอย่างแท้จริง เพราะไม่สามารถทำประตูได้เลยแม้แต่ลูกเดียว 

    โดยเฉพาะในเกมพบกับสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งก็มีโอกาสยิงหลายครั้งมาก แต่ก็ไม่เด็ดขาดพอที่จะเปลี่ยนมาให้เป็นประตู แถมยังมาพลาดจุดโทษเป็นคนสุดท้าย ด้วยการยิงไปโดน ยานน์ ซอมเมอร์ พุ่งเซฟได้ ส่งผลให้ทีมแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 และรองแชมป์เก่าศึกยูโรครั้งก่อนเมื่อปี 2016 ต้องหยุดเส้นทางในยูโร 2020 เพียงแค่รอบ 16 ทีมเท่านั้น

  • โฆษณา
  • Eden Hazard, Bélgica vs. PortugalTwitter

    2กองหน้า | เอเด็น อาซาร์ (เบลเยียม)

    แนวรุกค่าตัวแพงของเรอัล มาดริด มีอาการบาดเจ็บรบกวนอย่างต่อเนื่องตลอดฤดูกาล 2020/21 แต่เขาก็ยังมาลุยยูโร 2020 กับเบลเยียม ในฐานะกัปตันทีม

    และด้วยสภาพร่างกายที่ยังไม่ฟิตเต็มที่ ทำให้ 2 นัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม ดาวเตะวัย 30 ปี จึงมีโอกาสเป็นซูเปอร์ซับเท่านั้น ก่อนที่จะได้เป็นตัวจริงในเกมที่สาม และเกมรอบ 16 ทีม สุดท้ายที่เจ้าตัวโชคร้ายได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง 

    ทำให้พลาดการลงสนามในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่เบลเยียมแพ้อิตาลี 1-2 อาจกล่าวได้ว่าทัวร์นาเมนต์ยูโรหนนี้ ธอร์กาน อาซาร์ ผู้น้องฉายแววโดดเด่นกว่าด้วยซ้ำ

  • Bernardo Silva PortugalGetty

    3กองกลาง | แบร์นาโด้ ซิลวา (โปรตุเกส)

    แนวรุกวัย 26 ปี ไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องในถิ่นแมนฯ ซิตี้ แต่เขาก็ยังคงเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมชาติโปรตุเกส

    โดยในยูโรหนนี้ เจ้าตัวรับบทบาทเป็นตัวจริงทางกราบขวาให้ทัพฝอยทองครบทั้ง 4 เกม แต่ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับบรูโน แฟร์นันด์ส เพราะเขาไม่สามารถสร้างความอันตรายในแนวรุกได้มากนัก ทำให้ไม่ได้ลงเล่นครบ 90 นาทีเลยแม้แต่นัดเดียว

  • ENJOYED THIS STORY?

    Add GOAL.com as a preferred source on Google to see more of our reporting

  • Thomas Muller Germany Euro 2020Getty

    4กองกลาง | โธมัส มุลเลอร์ (เยอรมนี)

    มิดฟิลด์ประสบการณ์สูงของบาเยิร์น มิวนิค ขึ้นแท่นเป็นจอมถวายพานเบอร์หนึ่งของยุโรป ด้วยการจัดไปถึง 21 แอสซิสต์ในฤดูกาล 2020/21 จนโยอาคิม เลิฟ เรียกตัวกลับมาติดทัพเยอรมนีอีกครั้ง

    ซึ่งฟอร์มโดยรวมของอินทรีเหล็กก็อยู่ในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม มุลเลอร์แทบจะไม่มีบทบาทกับทีมเลย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเพื่อนรวมทีมคนอื่น ๆ อย่างโรบิน โกเซนส์ หรือไค ฮาแวร์ตซ์ ฉายแววเด่นกว่า 

  • Bruno Fernandes Portugal Euro 2020Getty

    5กองกลาง | บรูโน แฟร์นันด์ส (โปรตุเกส)

    มิดฟิลด์ซูเปอร์สตาร์ของแมนฯ ยูไนเต็ด ถูกคาดหมายว่าจะสานต่อฟอร์มเก่งและพาโปรตุเกสป้องกันแชมป์ยูโรได้สำเร็จ

    ทว่าเมื่อทัวร์นาเมนต์เปิดฉากขึ้น มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะผู้นำในเกมรุกยังคงเป็นคริสเตียโน โรนัลโด้ ในขณะที่มิดฟิลด์วัย 26 ปี ไม่สามารถสร้างสรรค์เกมได้เลย ก่อนถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง และได้สงสนามเพียงช่วงท้ายเกมใน 2 นัดสุดท้าย ที่เสมอกับฝรั่งเศส 2-2 และแพ้เบลเยียม 0-1

  • Ezgjan Alioski North Macedonia Euro 2020Getty Images

    6แบ็คซ้าย | เอซยาน อลิออสกี้ (มาร์ซิโดเนียเหนือ)

    แบ็คซ้ายที่เพิ่งกลายเป็นแข้งไร้สังกัด คือกำลังหลักมานานหลายปีให้ทั้งสโมสรลีดส์ และทีมชาติมาร์ซิโดเนียเหนือ

    ซึ่งในยูโร 2020 เขาก็ยังคงเป็นสตาร์ของทีม ทว่าเขาแทบไม่ได้ใช้อาวุธถนัดคือการเติมเกมรุกเลยตลอด 3 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม

    โดยเฉพาะนัดสุดท้ายกับเนเธอร์แลนด์ เขาหลุดตำแหน่งจนโดนสองกองหน้าของอัศวินสีส้มอย่าง ดอนเยลล์ มาเลน และ เมมฟิส ผนึกกำลังกันโจมตีก่อนยิงประตูขึ้นนำ 1-0

  • Merih Demiral Turkey Euro 2020Getty Images

    7กองหลัง | เมริห์ เดมิรัล (ตุรกี)

    เช่นเดียวกับคู่หูอย่างโซยุนคู แนวรับวัย 23 ปี ฟอร์มบู่ตั้งแต่นัดแรก เพราะไม่สามารถต้านเกมรุกของอิตาลีที่กระหน่ำมาตลอดทั้งเกมได้เลย แถมยังสกัดเข้าประตูตัวเองเป็นประตูขึ้นนำของอิตาลี 

    ในขณะที่เกมกับเวลส์ และสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าตัวก็คุมตัวประกบค่อนข้างหละหลวมและไร้ความแน่นอน จนทำให้ตุรกีจบทัวร์นาเมนต์ด้วยการเสียไปถึง 8 ประตู จาก 3 นัด

  • Caglar Soyuncu - TurkiGetty Images

    8กองหลัง | คักลาร์ โซยุนคู (ตุรกี)

    โซยุนคู คือนักเตะที่ขึ้นมาแทนแฮร์รี แม็กไกวร์ ในถิ่นเลสเตอร์ได้อย่างไร้ที่ติ และสถาปนาตัวเองเป็นกองหลังคนสำคัญของทีม

    แต่ในยูโร 2020 แม้ว่าตุรกีจะได้ชื่อว่าเป็นทีมที่มีคู่กองหลังเบอร์ต้น ๆ ของทัวร์นาเมนต์ เพราะมีโซยุนคู จับคู่กับเมริห์ เดมิรัล จากยูเวนตุส แต่พวกเขาทั้งคู่ก็แทบจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในการหยุดยั้งเกมรุกฝ่ายตรงข้าม

    ทำให้ตุรกีปิดฉากตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ด้วยสถิติแพ้รวดทั้ง 3 นัด ต่ออิตาลี 0-3, เวลส์ 0-2 และสวิตเซอร์แลนด์ 3-1

  • De Ligt Netherlands Czech Euro 2020Getty

    9กองหลัง | มัทไธจ์ เดอ ลิกต์ (เนเธอร์แลนด์ส)

    ปราการหลังดาวโรจน์ของยูเวนตุส มีอาการบาดเจ็บติดตัว แต่ก็ถูกหนีบมาลุยยูโรหนนี้ด้วย ก่อนได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมที่ 2 ของรอบแบ่งกลุ่ม

    ผลงานโดยรวมในรอบแบ่งกลุ่มถือว่าไม่ได้ขี้เหร่เลย เพราะลงเล่นครบทุกนาทีตลอด 2 นัด และพาทีมเก็บคลีนชีทได้ทั้งหมด ด้วยการชนะออสเตรีย 2-0 และ มาร์ซิโดเนียเหนือ 3-0 

    แต่ฝันร้ายของดาวเตะวัย 21 ปีมาเกิดในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับเช็ค ที่แม้ว่าจะมีจังหวะสกัดบอลสำคัญเข้าตาอยู่บ้าง แต่ก็มีเสียท่าแนวรุกเช็กเป็นครั้งคราวในครึ่งแรก ก่อนที่ต้นครึ่งหลังเขาต้องทำให้เพื่อนร่วมทีมตกที่นั่งลำบากเมื่อพลาดเสียหลักแล้วเอามือไปคว้าบอลในจังหวะที่เป็นกองหลังตัวสุดท้ายทำให้ผู้ตัดสินย้อนดู VAR แล้วแจกใบแดงไล่ออกจากสนาม

  • france-pavard-euro2020-202106160900(C)Getty Images

    10แบ็คขวา | แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ (ฝรั่งเศส)

    แบ็คขวาวัย 25 ปี จากบาเยิร์น มิวนิค โชว์ฟอร์มในเกมแรกได้ค่อนข้างน่าประทับใจ แม้จะมีบทบาทน้อยกว่าแนวรับคนอื่น ๆ แต่ด้วยการแพ็คเกมรับแบบสุดแน่น ทำให้ทัพตราไก่จัดการเกมรุกของเยอรมันได้อย่างอยู่หมัดตลอดทั้งเกมจน อูโก้ ยอริส แทบจะไม่ต้องออกแรงเซฟเลย 

    แต่ในเกมถัดมากับฮังการี เจ้าตัวคือบ่อน้ำมันที่โดนอัตติลา ฟิโอลาเจาะเข้ามายิงประตูขึ้นนำ หลังจากนั้นก็โดนแนวรุกฮังการีปั่นป่วนทั้งเกม แต่โชคยังดีที่อองตวน กรีซมันน์ซัดประตูตีเสมอพาทีมเข้ารอบได้สำเร็จ

    และในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับสวิตเซอร์แลนด์ ผู้คนอาจจับจ้องไปที่เคลมองต์ ล็องเลต์ ที่มีส่วนทำให้ทีมเสียประตูตั้งแต่ 15 นาทีแรก แต่ฟอร์มโดยรวมของปาวาร์ที่นัดนี้ได้เล่นเกมรุกมากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถสร้างความลื่นไหลให้ทีมได้ จนสุดท้ายฝรั่งเศสต้องตกรอบในที่สุด

  • Martin Dubravka Newcastle 2018-19Getty Images

    11ผู้รักษาประตู | มาร์ติน ดูบราฟก้า (สโลวาเกีย)

    จอมหนึบจากนิวคาสเซิล สลัดอาการบาดเจ็บ ก่อนยึดมือหนึ่งกลับคืนมาจากคาร์ล ดาร์โลว ได้ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2020/21 และโชว์ฟอร์มเซฟกระจายจนสาลิกาดงแพ้เพียง 3 เกม จาก 13 เกมสุดท้าย

    ด้วยฟอร์มหรูขนาดนี้ ทำให้เขาเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงของสโลวาเกียได้อย่างสบาย ซึ่งสองนัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม เขาก็ยังคงช่วยทีมได้ดีพอสมควร ชนะโปแลนด์ 2-1 และแพ้สวีเดน 1-0 ทว่าในนัดสุดท้ายกับสเปน เขาไม่สามารถพาทีมเข้ารอบต่อไปได้ 

    แม้ว่าจะเซฟจุดโทษของ อัลบาโร โมราต้า ได้ยอดเยี่ยม ทว่าความผิดพลาดที่ดันไปปัดลูกยิงชนคานของ ปาโบล ซาราเบีย ปลิ้นเข้าประตูตัวเอง จนกลายเป็นลูกขึ้นนำ 1-0 ของสเปน ถือเป็นจุดเปลี่ยนของเกมนี้อย่างแท้จริง ที่ทำให้ประตูของสเปนไหลมาเทมา จนกลายเป็นฝันร้ายของนายทวารจากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่ต้องโดนเจาะตาข่ายไปถึง 5 ลูก

0