World Cup 2018 Stadiums: ส่อง 12 สนามฟุตบอลโลกที่รัสเซีย

เมือง : มอสโก
ความจุ : 81,000 คน

สนามที่ใหญ่ที่สุดของ รัสเซีย เวลานี้ เคยใช้เป็นสนามนัดชิงชนะเลศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ 2008 ระหว่าง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายในมีการรื้อและปรับปรุ่งใหม่ให้ทันสมัยขึ้นเมื่อปี 2013 โดยมีการนำลู่วิ่งออกเพื่อบรรยากาศการเชียร์ที่เข้มข้นขึ้น

ใช้งาน  

รอบแบ่งกลุ่ม : รัสเซีย พบ ซาอุดิอาระเบีย, เยอรมัน พบ เม็กซิโก, โปรตุเกส พบ โมร็อคโค, เดนมาร์ก พบ ฝรั่งเศส
รอบน็อคเอาท์ : รอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบรองชนะเลิศ, รอบชิงชนะเลิศ

เมือง : มอสโก
ความจุ : 45,360 คน

สปาร์ตัก สเตเดี้ยม หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า โอตกริตี อารีนา สนามเหย้าของ สปาร์ตัก มอสโก เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี 2014 เป็นหนึ่งในสี่สนามที่ใช้จัด ฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชั่น คัพ เมื่อปี 2017 เอกลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของสนามแห่งนี้คือมีรูปปั้นของพี่น้อง สตารอสสติน ผู้ก่อตั้งสโมสรอยู่ด้านหลังของประตูฝั่งหนึ่ง

ใช้งาน  

รอบแบ่งกลุ่ม : อาร์เจนตินา พบ ไอซ์แลนด์, โปแลนด์ พบ เซเนกัล, เบลเยียม พบ ตูนิเซีย, เซอร์เบีย พบ บราซิล
รอบน็อคเอาท์ : รอบ 16 ทีมสุดท้าย

เมือง : คาซาน
ความจุ : 45,379 คน

สนามเหย้าแห่งใหม่ของสโมสร รูบิน คาซาน เริ่มใช้งานเมื่อปี 2013 เป็นสนามที่มีป้ายไฟวิ่งรอบสนามที่ใหญ่สุดของยุโรป และเป็นอีกหนึ่งสนามที่เคยถูกใช้ในศึก ฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชั่น คัพ 2017

ใช้งาน  

รอบแบ่งกลุ่ม : ฝรั่งเศส พบ ออสเตรเลีย, อิหร่าน พบ สเปน, โปแลนด์ พบ โคลอมเบีย, เกาหลีใต้ พบ เยอรมัน
รอบน็อคเอาท์ : รอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบ 8 ทีมสุดท้าย

เมือง : ซามารา
ความจุ : 45,568 คน

ซามารา สเตเดี้ยม หรือที่หลายคนเรียกว่าสนามอวกาศ เพิ่งถูกสร้างเสร็จในปี 2018 เพื่อรองรับศึกฟุตบอลโลกและต่อไปจะกลายเป็นสนามเหย้าของ คริลยา โซเวตอฟ ภายนอกสนามถูกสร้างให้ดูเป็นโดมแก้วแบบในอวกาศ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อโครงการสำรวจอวกาศของโซเวียตที่เคยมาตั้งศูนย์การวิจัยในเมืองนี้

ใช้งาน

รอบแบ่งกลุ่ม : คอสตาริกา พบ เซอร์เบีย, เดนมาร์ก พบ ออสเตรเลีย, อุรุกวัย พบ รัสเซีย, เซเนกัล พบ โคลอมเบีย
รอบน็อคเอาท์ : รอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบ 8 ทีมสุดท้าย

เมือง : ซารานสค์
ความจุ : 44,442 คน

มอร์โดเนีย เป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 800,000 คน ตั้งอยู่ห่างออกไป 500 กิโลเมตรจาก มอสโก นี่คือสนามเหย้าแห่งใหม่ของ เอฟซี มอร์โดเนีย ซารานสค์ ปัจจุบันมีความจุราว 40,000 คน แต่หลังจากจบฟุตบอลโลกจะลดเหลือ 28,000 คน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เช่าที่คิดว่ามากพอ เพราะทีมอยู่เพียงระดับดิวิชั่น 3   

ใช้งาน  

รอบแบ่งกลุ่ม : เปรู พบ เดนมาร์ก, โคลอมเบีย พบ ญี่ปุ่น, อิหร่าน พบ โปรตุเกส, ปานามา พบ ตูนิเซีย
รอบน็อคเอาท์ : -

เมือง : รอสตอฟ
ความจุ : 45,000 คน

รอสตอฟ อารีนา เป็นหนึ่งในโครงการจัดการพื้นที่ริมแม่น้ำดอน และจะกลายเป็นสนามเหย้าของ เอฟซี รอสตอฟ โดยความพิเศษของสนามอยู่ที่เป็นการตั้งอยู่ร่วมกันของสนามกีฬาและสวนสาธารณะ รวมถึงมีเลนให้ปั่นจักรยานและวิ่งกว่า 7 กิโลเมตรรอบสนาม และอยู่ในโซนพื้นที่สีเขียวของเมือง

ใช้งาน  

รอบแบ่งกลุ่ม : บราซิล พบ สวิตเซอร์แลนด์, อุรุกวัย พบ ซาอุดิ อาระเบีย, เกาหลีใต้ พบ เม็กซิโก, ไอซ์แลนด์ พบ โครเอเชีย
รอบน็อคเอาท์ : รอบ 16 ทีมสุดท้าย

เมือง : โซชิ
ความจุ : 47,659 คน

ฟิชต์ สเตเดี้ยม เป็นหนึ่งในสนามที่น่าสนใจสุดของ รัสเซีย เดิมทีถูกสร้างมาเพื่อใช้ในกีฬาโอลิมปิค และ พาราริมปิค เมื่อปี 2014 เป็นสนามกีฬาแบบปิดและใช้สำหรับกีฬาในร่ม แต่ถูกดัดแปลงเป็นสนามฟุตบอลในภายหลังและเป็นสมบัติของรัฐบาลรัสเซียไม่มีสโมสรใดเป็นเจ้าของ 

ใช้งาน  

รอบแบ่งกลุ่ม : โปรตุเกส พบ สเปน, เบลเยียม พบ ปานามา, เยอรมัน พบ สวีเดน, ออสเตรเลีย พบ เปรู
รอบน็อคเอาท์ : รอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบ 8 ทีมสุดท้าย

เมือง : เยคาเทรินเบิร์ก
ความจุ : 35,696 คน

นี่คือสนามที่แปลกสุดที่รัสเซียสร้างสำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้ โดยสิ่งที่น่าสนใจคืออัฒจันทร์ฝั่งหลังประตูด้านหนึ่งของสนามอยู่สูงกว่าหลังคา ซึ่งเรายังไม่ทราบสาเหตุว่าเพราะอะไร

ใช้งาน  

รอบแบ่งกลุ่ม : อียิปต์ พบ อุรุกวัย, ฝรั่งเศส พบ เปรู, ญี่ปุ่น พบ เซเนกัล, เม็กซิโก พบ สวีเดน
รอบน็อคเอาท์ : -

เมือง : วอลโกกราด
ความจุ : 45,568 คน

นี่คือสนามที่มีดีไซน์สมัยใหม่ที่สุดและถูกสร้างมาเฉพาะสำหรับศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ ก่อนที่จะกลายเป็นสนามเหย้าของ เอฟซี รอเตอร์ วอลโกกราด ในฤดูกาลหน้า โดยสนามแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นบนสนามเดิมที่ถูกทุบทิ้งเมื่อปี 2014 และออกแบบมาให้เป็นรูปตาข่ายขนาดใหญ่

ใช้งาน 

รอบแบ่งกลุ่ม : ตูนิเซีย พบ อังกฤษ, ไนจิเรีย พบ ไอซ์แลนด์, ซาอุดิ อาระเบีย พบ อียิปต์, ญี่ปุ่น พบ โปแลนด์
รอบน็อคเอาท์ : -

เมือง : นิชนีย์ นอฟโกรอด
ความจุ : 44,899 คน

อีกหนึ่งสนามของฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำและมีบรรยากาศที่สวยงามที่สุด ซึ่งหลังจบฟุตบอลโลกจะกลายเป็นสนามเหย้าของ เอฟซี โอลิมปิเยตส์ นิชนีย์ นอฟโกรอด โดยภายในสนามติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยเอาไว้มากมาย นอกจากใช้ในการแข่งฟุตบอลแล้วยังจะถูกใช้ในการแข่งขันกีฬาพื้นเมืองด้วย 

ใช้งาน  

รอบแบ่งกลุ่ม : สวีเดน พบ เกาหลีใต้, อาร์เจนตินา พบ โครเอเชีย, อังกฤษ พบ ปานามา, สวิตเซอร์แลนด์ พบ คอสตาริกา
รอบน็อคเอาท์ : รอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบ 8 ทีมสุดท้าย

เมือง : คาลินินกราด
ความจุ : 35,212 คน

คาลินินกราด เป็นสนามที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่อื่นคือไม่ได้ตั้งอยู่ในแผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย แต่อยู่ในเขตปลอดทหารระหว่าง โปแลนด์ และ ลิธัวเนีย ที่อยู่ห่างกรุง สตอกโฮล์ม และ วอร์ซอว์ เพียงเล็กน้อย โดยถือว่าเป็นสนามที่ใหม่มากเพราะเพิ่งเปิดใช้งานเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ใช้งาน  

รอบแบ่งกลุ่ม : โครเอเชีย พบ ไนจิเรีย, เซอร์เบีย พบ สวิตเซอร์แลนด์, สเปน พบ โมร็อคโค, อังกฤษ พบ เบลเยียม
รอบน็อคเอาท์ : -

เมือง : เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก
ความจุ : 68,134 คน

ถ้าคุณคิดว่าการสร้างสนามใหม่ที่รัสเซียทำได้โดยง่ายและเป็นไปอย่างราบรื่นไม่เหมือนกับ บราซิล เมื่อปี 2014 แสดงว่าคุณยังไม่รู้จักสนามแห่งนี้ อย่างที่ทุกคนทราบว่านี่คือสนามของทีม เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก และเป็นสนามที่สวยงามมาก ซึ่งก็ควรเป็นอย่างนั้นเพราะมันสร้างล่าช้ากว่ากำหนดถึง 9 ปี

ใช้งาน  

รอบแบ่งกลุ่ม : โมร็อคโค พบ อิหร่าน, รัสเซีย พบ อียิปต์, บราซิล พบ คอสตาริกา, ไนจิเรีย พบ อาร์เจนตินา
รอบน็อคเอาท์ : รอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบรองชนะเลิศ, รอบชิงที่สาม