UEFA Super Cup : 10 เรื่องน่ารู้ก่อนดูหงส์แดงดวลสิงห์บลู

ลิเวอร์พูล กำลังจะลงแข่งรายการนี้เป็นครั้งที่ 6 และคว้าแชมป์มาแล้ว 3 สมัย ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2005 ที่พวกเขาเอาชนะ ซีเอสเคเอ มอสโก ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-1

เชลซี เคยลงเล่นนัดชิงชนะเลิศรายการนี้มาแล้วสามครั้ง คว้าแชมป์ไป 1 สมัย แต่ในสองครั้งล่าสุดพวกเขาแพ้รวด หนึ่งในนั้นคือการแพ้ แอตเลติโก มาดริด ขาดลอย 1-4 

แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือของเชลซีคนปัจจุบัน เป็นหนึ่งในนักเตะชุดที่พ่ายต่อ แอตเลติโก มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค ในการลงเล่นนัดชิงชนะเลิศรายการนี้สองครั้งหลังสุด โดยเป็นกัปตันทีมในเกมกับตราหมีด้วย

เชลซี ไม่แพ้ในเกมยุโรปเลยฤดูกาลที่แล้ว ด้วยสถิติชนะ 12 เสมอ 3 โดยการแพ้ครั้งล่าสุดในถ้วยยุโรปของพวกเขาคือพ่ายต่อ บาร์เซโลนา ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกปี 2018

สมัยเป็นนักเตะ แฟรงค์ แลมพาร์ด ลงสนามพบกับ ลิเวอร์พูล ไปทั้งสิ้น 39 นัด ทำไป 7 ประตู สถิติของเขาในการพบหงส์แดงคือ ชนะ 18 เสมอ 8 แพ้ 13

ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ปี 2013, เชลซีพ่ายในการดวลจุดโทษต่อ บาเยิร์น มิวนิค 4-5 โดยคนเดียวของสิงห์บลูที่ยิงพลาดคือ โรเมอู ลูกากู

เซซาร์ อัธปิลิกวยต้า คือนักเตะ เชลซี เพียงเดียวจากเกมนัดชิงชนะเลิศปี 2013 ที่ยังค้าแข้งอยู่กับสโมสรในเวลานี้

ศึกแรกของ ลิเวอร์พูล และ เชลซี ในถ้วยยุโรปคือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองนะเลิศ ฤดูกาล 2004/05 ซึ่ง หลุยส์ การ์เซีย ยิงประตูโทนในเกมเลกสองที่ แอนฟิลด์ และปีดังกล่าวหงส์แดงคว้าแชมป์ไปครองด้วยชัยชนะสุดดราม่าเหนือ เอซี มิลาน ในรอบชิงชนะเลิศ 

ทั้งสองทีมพบกันมาแล้วทั้งหมด 181 นัดรวมทุกรายการ ลิเวอร์พูล ชนะ 77 ครั้ง, เชลซี ชนะ 63 ครั้ง และเสมอกัน 41 ครั้ง