Goal ThailandGoal
Toyota Thai League Match of The Week 7 : ทรู แบงค็อกฯ 0-2 บีจี ปทุมฯ

1ขจรยศ โชคธนเศรษฐ์ (คอลัมนิสต์ฟุตบอลอิสระ, เจ้าของเพจ "จอน")
"เป็นบิ๊กแมตช์ประจำสุดสัปดาห์ที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในช่วงครึ่งแรก และครึ่งหลัง
เกมครึ่งแรก เป็นเกมที่น่าเบื่อสำหรับแฟนบอลอย่างยิ่ง เพราะมีการหยุดเกมบ่อยมาก ถึงมากที่สุด จากการทำฟาวล์ตัดเกม และการเข้าบอลหนัก จนทำให้นักเตะทั้งสองฝ่าย บาดเจ็บ โดย บียู พยายามลำเลียงบอลกับพื้นขึ้นไปข้างหน้าตั้งแต่แนวรับ ส่วน บีจี ก็ใช้วิธีการเพรสซิ่งเร็วตั้งแต่แดนหน้า เพื่อเอาบอลคืน และโต้กลับ ซึ่งบ่อยครั้ง การเพรสซิ่งก็จบลงที่การทำฟาวล์"
"แต่เกมครึ่งหลัง เปลี่ยนไปจากหลังมือเป็นหน้ามือ เพราะมีประตูแรกตั้งแต่ไม่ถึง 15 นาทีแรกของครึ่งหลัง และทำให้ทั้งสองทีมมีเกมที่เปิดมากขึ้น และเป็น บีจี ที่คมกว่าในเกมรุก แน่นกว่าในแดนกลาง และมีแนวรับที่ยอดเยี่ยมมากๆ"
"เกมนี้ต้องชื่นชมบีจีสองอย่าง อย่างแรก แนวรับที่แข็งแกร่งของพวกเขา อย่าง ตูเญซ, คาร์โดโซ่ และ อิรฟาน ซึ่งปัจจุบันยังไม่เสียประตูจากลูกโอเพ่นเพลย์เลย ตลอด 6 นัดที่ผ่านมา"
"อย่างต่อมา คือ การวิ่งสู้ฟัดตามแทคติกของนักเตะไทย ที่ช่วยกันไล่ บีบพื้นที่ เพรสซิ่งตั้งแต่แดนบน ทั้ง ฐิติพันธ์, สุมัญญา, เจนรบ, สุรชาติ, สันติภาพ ซึ่งทำให้ บียู เจองานที่ยาก และขึ้นเกมได้ยากขึ้น"
"นับแต่นี้ คงเป็นโจทย์มหาหินของทุกทีมที่เจอกับ บีจี เพราะนี่คือทีมชุดที่แข็งแกร่งที่สุดครั้งหนึ่งเลยที่ไทยลีกเคยมีมา โดยเฉพาะเกมรับ"
Goal Thailand2นาวาอากาศเอก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน - ตำนานนักฟุตบอลทีมชาติไทย, โตโยต้า ฟุตบอล แอมบาสเดอร์
แฟนบอลต่างหวังให้เป็นคู่บิ๊กแมตช์ที่สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ โดยมีบัลลังก์จ่าฝูงเป็นเดิมพัน ซึ่ง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อบรรเลงเพลงฟาดแข้งระดับ 5 ดาว ใส่ความเข้มข้นกันตั้งแต่นาทีแรกของเกม ก่อนจบเสมอในครึ่งแรก
เข้าสู่ครึ่งหลังความเข้มข้น และรายละเอียดของเกมมีมากขึ้น เมื่อ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 โดยจากการเข้าทำที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นชัดเจนว่า คุณภาพของแดนกลางทีมเยือน เล่นได้ละเอียดกว่าในทุกจังหวะ แต่ที่น่าชื่นชมคือ 3 กำแพงยักษ์ ของทีม อย่าง อันเดรส ตูเญซ , วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ และ อิรฟาน ฟานดี้ ที่ป้องกันเกมรับได้สุดแข็งแกร่ง
การสอดซ้อนของ 3 กองหลัง บลูแมชชีน ยังทำได้ยอดเยี่ยม ส่วนแดนกลางรวมถึงกองหน้าต่างใช้วิธีการเพรสซิงเพื่อแย่งบอลกลับมา และสร้างสรรค์เกมรุกเพื่อเจาะแนวรับคู่แข่ง กระทั่งได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 ขยับขึ้นไปรั้งจ่างฝูงได้สำเร็จ
เกมดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นว่า ทุกทีมที่ต้องเจอกับ บีจี ต่างต้องทำการบ้านอย่างหนักที่จะต่อกรกับเพรสซิงฟุตบอล และแผงหลังสุดแกร่งของพวกเขาเพื่อหาวิธีทำลายกำแพงยักษ์ให้ลง
ส่วน แข้งเทพ ยังคงต้องทำการบ้านกันต่อไปในเรื่องของความเด็ดขาด การครองบอล และการแก้เพรสซิง หากในปีนี้พวกเขายังคงมุ่งมั่นก้าวสู่บัลลังก์แชมป์ไทยลีก ที่รอมาอย่างยาวนาน
โฆษณา

