Toyota Thai League Match of The Week 3 : ราชบุรี มิตรผล 4-3 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
1สุวิชา โคตะมี : กองบรรณาธิการ โกล ประเทศไทย
เป็นเกมกลางสัปดาห์ที่สนุกเร้าใจจริงๆ แน่นอนว่าหากใครพลาดชมเกมนี้ ต้องบอกว่าพลาดมากๆ เพราะตลอด 90 นาที สถานการณ์พลิกไปพลิกมาอยู่ตลอด เริ่มจาก บุรีรัมย์ นำก่อน 2-0 , ราชบุรี พลิกแซง 3-2 , บุรีรัมย์ ตีเสมอ 3-3 และ จบลงด้วยชัยชนะของ ราชบุรี ในช่วงทดเจ็บ 4-3
ในแง่รายละเอียดของเกม อย่างแรกต้องชื่นชมหัวจิตหัวใจของผู้เล่น ราชบุรี ที่ไม่ยอมแพ้ และ การกล้าได้กล้าเสียของ โค้ชเจี๊ยบ สมชาย ไม้วิลัย ที่สั่งลูกทีมเปิดเกมแลกมากขึ้น โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนแผน จากเล่นกองหน้าตัวเดียว มาเล่นกองหน้าสองคน และ ฮาเวียร์ ปาติญโญ ที่ลงมาเป็นสำรองในช่วงครึ่งหลัง ก็มีส่วนร่วมกับทั้ง 4 ประตู รวมถึงเป็นคนยิงประตูชัยในช่วงทดเจ็บ แน่นอนว่า นี่เป็นการออกสตาร์ที่ยอดเยี่ยมมากๆ ของ ราชบุรี เพราะเป็นครั้งแรกที่เก็บได้ถึง 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัด
ขณะที่ฝั่ง บุรีรัมย์ ต้องยอมรับว่านี่เป็นผลการแข่งขันที่น่าผิดหวัง เพราะ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขานำห่างคู่แข่งก่อนถึง 2 ประตู แต่กลับจบลงด้วยความพ่ายแพ้ ยิ่งไปกว่านั้น การแพ้ไปแล้ว 2 นัดจาก 3 นัดแรก ต้องบอกว่า เป็นอะไรที่น่าผิดหวังมากๆ และ ไม่เคยเกิดขึ้นกับทีมมาก่อ
หลายคนพุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาดส่วนบุคคลของนักเตะ แต่ส่วนตัวผู้เขียน จากที่มีโอกาสติดตามฟอร์มการเล่นของ บุรีรัมย์ ในปีนี้มาตลอด รวมถึง ยังมีโอกาสเข้าไปชมเกมนี้ด้วย ต้องบอกว่า บุรีรัมย์ ปีนี้มีหลายปัญหาที่เกิดขึ้นมากๆ และต้องมองเป็นภาพกว้างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นต่างชาติข้างหน้า ไม่ช่วยเกมรับ (ระบบฟุตบอลสมัยใหม่สำคัญมากๆ) , ผู้เล่นต่างชาติกองหน้า 2 คน ยังพึ่งพาไม่ได้ , ผู้เล่นสำรอง ไม่สามารถลงมาสร้างความแตกต่างได้เลย , รวมถึง แท็คติค และ การตัดสินใจเปลี่ยนตัวของ โบซิดาร์ บันโดวิช ที่ทำได้ไม่ดีพอ
เราคงไม่ต้องเจาะลึกรายละเอียดให้มากกว่านี้ , นี่ยังไม่ใช่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เรารู้จัก และ ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช รู้อยู่แล้วว่า ปัญหาคืออะไร
แต่ถ้าแก้ไม่ได้.. น่าคิดเหมือนกันว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดีพอกลับมาเป็นแชมป์โตโยต้า ไทยลีก ปีนี้หรือไม่ ?
2นาวาอากาศเอก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน - ตำนานนักฟุตบอลทีมชาติไทย, โตโยต้า ฟุตบอล แอมบาสเดอร์
เกมที่ มิตรผล สเตเดียม จบลงด้วยเสียงเฮเจ้าบ้านเมื่อพลิกกลับมาเป็นผู้กำชัยเหนือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ท่ามกลางความผิดหวังของผู้เล่นทีมเยือนที่ต้องมาสะดุดทำแต้มหล่นอีกครั้งแบบไม่น่าเชื่อ…
“ปราสาทสายฟ้า” ออกนำนำ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 2-0 จากสถานการณ์เวลานั้นไม่น่าพลาดที่พวกเขาจะเก็บ 3 คะแนนกลับบ้าน ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามคาดเมื่อเสียถึงสามประตูในครึ่งหลังที่ทำให้เจ้าบ้าน ราชันมังกร ขยับแซงนำ 3-2 แบบช็อคแฟนบอล แม้จะได้ประตูตีเสมอจากลูกยิงแฉลบกองหลังของ สุภโชค สารชาติ ทว่า บุรีรัมย์ เหมือนอยู่ในบทหนังที่ถูกเขียนไว้ให้พวกเขาต้องเผชิญอุปสรรคบนเส้นทางกลับสู่บัลลังก์แชมป์ เมื่อ ฮาเวียร์ ปาติญโญ ซัดประตูชัยใส่ทีมเก่าพา ยอดทีมเมืองโอ่งมังกร เก็บชัยชนะแบบล็อคถล่ม
สิ่งที่น่าชื่นชมคือ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เตรียมทีมมาดีสำหรับรับมือทีมแกร่งอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พวกเขารู้ว่าจะต้องต่อกรอย่างไร ที่แม้จะออกสตาร์ทแกร่งในครึ่งแรก แต่ก็กลับมาเล่นรัดกุม และกล้าที่จะเปิดเกมรุกเข้าแรก ก่อนนำมาซึ่งชัยชนะในที่สุด
ขณะเดียวกัน ปราสาทสายฟ้า ได้รับบทเรียนสำคัญที่จะต้องจำไม่มีลืม เพราะนี่คือครั้งแรกที่พวกเขาพ่ายแพ้ต่อคู่แข่งทั้งที่ทิ้งห่างอยู 2-0 การรักษาสกอร์ที่เหนียวแน่นในยามเป็นฝ่ายได้เปรียบไม่มีให้เห็นเหมือนเมื่อทุกครั้งที่ผ่านมา
ปัญหาที่เห็นชัดเจนคือการประสานงานแดนกลาง และหลังที่ยังไม่ลงตัวตลอดจนการบีบพื้นที่ที่คู่แข่งยังมีพื้นที่เล่นง่าย และมีโอกาสสร้างเกมรุกจนสามารถจบสกอร์ในแดนสุดท้ายสำเร็จ…
นี่คือปัญหาใหญ่ที่ โบซิดาร์ บันโดวิช ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน แม้จะผ่านมาเพียง 3 นัด แต่หากการเล่นของทีมยังไม่ลงตัวทุกอย่างจะเป็นงานยากไม่ว่าจะเจอทีมเล็กหรือใหญ่ในต่อจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องแก้ให้ถูกจุดเพื่อกลับมาให้เร็วที่สุด เพราะหากช้ากว่านี้อาจจะเป็นอีกฤดูกาลที่ต้องจบซีซั่นแบบมือเปล่า…
โฆษณา
