บีจีเอฟซี 7-4 ชลบุรีGoal Thailand

Toyota Thai League Match of The Week 21 : บีจีเอฟซี 7-4 ชลบุรี

  • อลงกต เดือนคล้อย

    1อลงกต เดือนคล้อย (ผู้สื่อข่าวฟุตบอลไทย โกล ประเทศไทย)

    "สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าจำนวนประตูที่ยิงระเบิดระเบ้อ 11 ลูก คือปัญหาในเรื่องเกมรับของทั้งสองทีม แมตช์นี้ บีจี ไม่ได้ชนะ ชลบุรี เพราะเกมรับที่ดีกว่า แต่ชนะเพราะเกมรุก และจังหวะสุดท้ายที่เด็ดขาด เท่านั้นเอง

    5 ประตูรวมในครึ่งแรก เกิดจากความผิดพลาดของแนวรับ ทั้งสองฝ่าย บีจี ปรับมาเล่นหลัง 3 ก็จริง แต่การยืนตำแหน่ง การสื่อสาร ยังดูไม่ลงตัวเสียที แม้ว่ากองหลังชุดนี้ จะเล่นมาด้วยกันนาน ส่วนฝั่งชลบุรีฯ ดูเหมือนปัญหา จะมีมากกว่าแค่ กองหลัง เพราะนัดนี้ ผู้รักษาประตู ก็แสดงความผิดพลาดส่วนตัวออกมาไม่น้อย

    เกมในครึ่งหลัง จึงเปิดใส่กันมากขึ้น เพราะต่างฝ่ายต่างมั่นใจว่า สามารถทำประตุเพิ่มใส่คุ่แข่งได้ จนทำให้พื้นที่ แนวป้องกันของ บีจี และ ชลบุรี ลอยสูง โชคดีที่ บีจีเอฟซี มีออปชั่นแนวรุกเปลี่ยนเกมที่หลากหลายกว่า รวมถึงแท็คติกการเข้าทำ ที่ชัดเจนกว่า แต่ถ้ามองแค่เรื่องเกมรับเพียวๆ ก็ไม่ได้แปลว่า บีจี มีแผงหลังที่ดีกว่า ชลบุรี 

    นั้นเป็นโจทย์ที่่ ชลบุรี และ บีจีเอฟซี ต้องนำกลับไปแก้ไข อย่างที่ โค้ชอนุรักษ์ ศรีเกิด พูดไว้หลังเกม เมื่อไหร่ก็ตามที่ยิงได้เยอะ ก็มีโอกาสชนะ ถ้าแต่เกมไหน ยิงประตูได้น้อย แล้วเกมรับยังหละหลวมแบบนี้ พวกเขาก็มีสิทธิ์จะพ่ายแพ้เช่นกัน 

    เช่นเดียวกับ ชลบุรี คงกลับไปทบทวนแท็กติกใหม่ ว่าในสถานการณ์ต่างๆ ควรเล่นยังไง โดยเฉพาะตอนที่ตีเสมอ 3-3 แต่กลับรักษาโมเมนตั้มไม่ได้ จนเสีย 3 ประตูในช่วงเวลาแค่ไม่กี่สิบนาทีนั้น มีส่วนสำคัญที่ทำให้ ชลบุรี กลับมาสู่เกมได้ยาก

    เหนือสิ่งอื่นใด ต้องชม นักฟุตบอลทั้งสองทีม ที่ต่อสู้กันแบบยิบตา และมีส่วนร่วมการทำให้เกมนี้ ดูสนุกชนิดไม่อยากลุกไปจากเก้าอี้เลยทีเดียว"
  • โฆษณา
  • ปัญชลี เดชะชัย

    2ปัญชลี เดชะชัย (ผู้สื่อข่าว Football Tribe Thailand)

    คู่นี้ในเลกแรกที่เจอกันนั้นเป็นบีจีที่ห้าวหาญบุกไปเก็บชัยถึงรังฉลาม 2-0 แต่สถานการณ์ในเกมนี้ จะเห็นได้ว่าเจ้าบ้านอาการแทบจะโคม่าหลังจมอยู่ในโซนแดง ทำให้คิดว่ายังไงชลบุรีก็สามารถบุกเอาถอนแค้นได้แน่นอน

    กลายเป็นว่าเกมนี้สนุกตั้งแต่เริ่มเกม ทัพบลูแมชชีนเครื่องฟิตสตาร์ทติดง่ายซัดประตูตั้งแต่นาทีที่สอง แถมฉลามชลก็ไม่ยอมแพ้ สามารถเอาคืนจากผลผลิตแข้งในอะคาเดมีตัวเองอย่างเกริกฤทธิ์ และวรชิต รวมไปถึงแข้งใหม่อย่างมัทเธอุสที่ประเดิมสกอร์แรกให้กับทีมใหม่ได้สำเร็จ แต่สุดท้ายก็เป็นฝั่งเจ้าบ้านที่เอาชนะไป 7-4 เก็บสามแต้มได้สำเร็จ 

    ซึ่งบีจีในเกมนี้ตำแหน่งแนวรุกทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม รวมไปถึงอานนท์ ที่เพิ่งจะย้ายมาใหม่แต่ก็สร้างโอกาสให้กับทีม รวมไปถึงสุรชาติ และอาเรียล ที่สร้างมิติเกมรุกได้ดีขึ้น จนยิงไปถึง 7 ประตู

    ส่วนชลบุรีก็เริ่มทำให้เห็นว่าผลผลิตที่บ่มเพาะมาตลอดหลายปี เริ่มจรัสแสงมากขึ้น ถึงแม้ในเกมนี้อาจจะช็อตเนื่องจากเสียประตูเร็ว แต่ก็พยายามสู้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่สองทีมต้องแก้ไขหลังคงหนีไม่พ้นเรื่องแนวรับที่ยัง ขืนปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป ไม่เป็นผลดีในอนาคตแน่

    ท้ายสุดคนที่น่าสงสารมากสุดในเกมนี้คงหนีไม่พ้นชนินทร์ แซ่เอียะ นายด่านฉลามชล ที่เลกแรกเจ้าตัวก็เล่นไม่จบโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ส่วนเลกสองเจ็บต้องเย็บ 9 เข็มบริเวณหน้าผาก ถูกเปลี่ยนออกในช่วงครึ่งหลัง กลายเป็นของแสลงเจ้าตัวในฤดูกาลนี้ไปโดยปริยาย

  • ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน

    3นาวาอากาศโท ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน (ตำนานนักฟุตบอลทีมชาติไทย, โตโยต้า ฟุตบอล แอมบาสเดอร์)

    "น่าจะเป็นอีกหนึ่งแมตช์แห่งฤดูกาล 2018 ก็ว่าได้ จากการต่อสู้แบบไม่มีใครยอมใคร เปิดหน้าแลกหมัดตลอดทั้งเกม จนมีประตูถึง 11 ลูกเกิดขึ้น

    บีจีเอฟซี แสดงให้เห็นถึง ความมุ่งมั่นที่อยากเอาชนะให้ได้เสียที หลังผิดหวังมาแพ้ตลอด 3 เกมที่ผ่านมา จุดเปลี่ยนของเกมนี้ มาจากการเล่นเกมรุกที่เฉียบคมกว่า และความเก๋าเกมของ บีจี ที่สามารถคุมสถานการณ์ไว้หมด แม้ในช่วงที่เป๋ จนถูกตามตีเสมอ 3-3 แต่ก็ยังรักษาทรงเกม และหาจังหวะโจมตีชลบุรี จนสมาธิแตกกระเจิง

    ขณะที่ ชลบุรีฯ แมตช์นี้พวกเขาก็ไม่สมควรแพ้ด้วยสกอร์ที่ขาดลอยมากขนาดนี้ ในวันที่นักบอลยังคงวิ่งลืมตาย และพยายามทำประตูตีตื้น แต่ก็ถือเป็นบทเรียนที่ดี เพราะนักเตะชลบุรีฯ หลายคนก็ยังเป็นดาวรุ่งอายุน้อย และน่าจะได้รับประสบการณ์ล้ำค่า จากเกมที่ดุดันเลือดพล่านเช่นนี้

    ส่วนคนดู แมตช์นี้ไม่ว่าจะแฟนบอลทีมไหน การต่อสู้ของสองทีมนี้ คือกำไรล้วนๆ และทำให้ฟุตบอลไทย ยังดูสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ไม่ลดน้อยลงไป"

  • ENJOYED THIS STORY?

    Add GOAL.com as a preferred source on Google to see more of our reporting

0