Toyota Thai League Match of The Week 2 : เอสซีจี เมืองทอง 1-2 ทรู แบงค็อก

คุณภาพระดับ 4 ดาวล้นๆในเกมบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ที่ 2 ของศึกโตโยต้า ไทยลีก ระหว่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในยุคถ่ายเลือดใหม่ กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นพระกาฬมากมาย โดยผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น แม้ว่าเจ้าบ้านจะเป็นฝ่ายพลาดท่าพ่ายคาบ้านต่อพลพรรค แข้งเทพ 1-2 แต่คาแรกเตอร์และรูปแบบการเล่นที่ อเล็กซานเดร กามา ถ่ายทอดสู่ กิเลนหนุ่มเหล่านี้ ก็ถือว่ามั่นคงและเช่นเจนไม่น้อย

โดยเกมดังกล่าวถือว่าทีมเยือนจากค่าย ทรู ก็ถือว่าโชคดีเหมือนกันที่ได้ VAR มาช่วยชีวิตเอาไว้ แถมยังได้ประตูผีจับยัดของศิษย์เก่าอย่าง ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร มาช่วยให้ ทรู แบงค็อก เก็บ 6 แต้มเต็มในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล 2020 ในขณะที่สถานการณ์ของ เอสซีจี เมืองทอง แม้จะพ่ายรวดทั้งสองนัด แต่แนวทางการเล่น และความกระหายที่แสดงออกมา ไม่ได้ส่งสัญญาณเข้าใกล้ความวิกฤตของทีมเลยแม้แต่น้อย และยังถือว่าดูดีมีอนาคตเลยทีเดียว

“เมืองทอง ยูไนเต็ด ในวันที่ดาวรุ่งต้องเร่งโตเต็มวัย “

ความพ่ายแพ้ต่อ แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-2 เป็นการออกสตาร์ทในลีก ฤดูกาล 2020 ด้วยการแพ้ 2 นัดติด มี 0 แต้ม จมอันดับ 14 แต่หากมองถึงรูปเกม และเลือดนักสู้ของดาวรุ่งชุดนี้ ถือว่ามีอนาคตที่ปลายทาง

การดวลแบงค็อก ของ มาโน่ โพลกิ้ง ที่ครบเครื่องเรื่องเกมรุก อเล็กซานเดอร์ กาม่า เฮดโค้ช วางระบบ 4-3-3 มี สารัช อยู่เย็น กับ วัฒนา พลายนุ่ม ที่เก๋าเกมคอยประคองน้องๆ ส่วน แบงค็อก ยังยึดโครงหลักชุดเดิม นำโดย ฮาจิเมะ โฮโซไก

เมืองทอง แม้ดาวรุ่งเต็มทีม แต่มีจุดเด่นที่ความกระหายที่อยากลงเล่น มีความสด พร้อมวิ่งบด ไล่เพรสซิ่งแบงค็อก ตั้งแต่กลางสนาม แต่น่าเสียดายหลายครั้งในจังหวะสุดท้าย ยังกั๊กๆ ไม่เฉียบคม และใช้โอกาสเปลือง จนเป็นที่มากับประตูแรกของแบงค็อก ที่อาศัยจังหวะโต้กลับเพียงหนเดียวทำประตูได้จาก อานนท์ อมรเลิศศักดิ์

ส่วนจังหวะพลาดโอกาสได้ประตูตีเสมอในช่วงท้ายครึ่งแรก เนื่องจากวีเออาร์ เช็คว่ามีการทำแฮนด์บอล จาก วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ถือว่าชัดเจน และถือเป็นบทเรียนที่ดีของดาวรุ่งกิเลน ในการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ

แม้จะแพ้ไป 1-2 แต่อยากปรบมือให้ความใจสู้ของแข้งดาวรุ่งกิเลนทั้ง วีระเทพ ป้อมพันธุ์, สรวิทย์ พานทอง, เพชรรัตน์ โชติปาละ รวมถึง ปรเมศย์ อาจวิไล กับ อติคุณ มีท้วม ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง เพราะแพสชั่นในการต่อสู้พวกเขามีสูง ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่อย่างหนัก แม้รายละเอียดเล็กน้อยจะทำให้ไม่มีแต้ม

น่าเสียดายที่ประสบการณ์ มีความสำคัญต่อเกมใหญ่ นั่นจึงทำให้ความเด็ดขาดเป็นสิ่งที่ กาม่า ต้องกระตุ้นลูกทีมให้เชิดหน้าสู้ต่อไป โดยมีเกมความหวังนัดหน้าที่จะบุกไปเยือน ระยอง เอฟซี น้องใหม่ ในวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 20 นาฬิกา

เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังไร้แต้มจาก 2 นัดในโตโยต้า ไทยลีก 2020

ความพ่ายแพ้ต่อ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่บุกยัดเยียดความปราชัยถึงในบ้านด้วยสกอร์ 1-2 แน่นอนว่าเป็นผลงานที่ไม่น่าพอใจสำหรับกับการออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ได้ย่ำแย่ อย่างไรก็ตามหากมองถึงตัวผู้เล่นของ เมืองทอง ในเวลานี้ กับการดวล แข้งเทพ ของ มาโน โพลกิ้ง ที่ครบเครื่องเกมรุก และรับบวกผู้เล่นฝีเท้าดี ก็ถือว่าสู้ได้ดี พวกเขากล้าที่จะใช้ดาวรุ่งลงประสานงานกับแข้งเก๋าในทีม โดยมี สารัช อยู่เย็น และ วัฒนา พลายนุ่ม คอยประคองเท่านั้น

สิ่งที่ได้เห็นจากเกมนี้คือความกระหาย และกล้าเล่นของนักเตะดาวรุ่ง กิเลนผยอง ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับทีมของ อเล็กซานเดร กามา ในการปลุกปั้นผู้เล่นใช้งานในระยะยาว ในเรื่องของความเข้าใจแทคติกทำได้ดี เพียงแต่ประสบการณ์คือสิ่งที่พวกเขาต้องเพิ่มเติมเพื่อขึ้นมาเป็นกำลังของทีมในอนาคต

ขณะที่ลูกทีมของ มาโน โพลกิ้ง ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้เหมือนเดิม แต่ยังมีความผิดพลาดส่วนบุคคลนำมาซึ่งประตูตีเสมอ 1-1 ของเจ้าบ้าน ก่อนจะได้ ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร โชว์ทีเด็ดลูกยิงไกลเซฟ 3 แต้ม นอกบ้านไว้ได้ โดยรวมถือเป็นอีกหนึ่งเกมคุณภาพที่มีครบทุกอารมณ์ยิ่งไปกว่านั้น และนี่คือหนึ่งในเกมที่ VAR ถูกนำมาใช้ ซึ่งมีผลต่อรูปเกมโดยตรงเมื่อลูกยิงของเจ้าบ้านถูกปฏิเสธจากการแฮนด์บอล

สิ่งที่น่าชื่นชมคือสปิริตของ สารัช อยู่เย็น กัปตันทีม เมืองทองฯ ที่แม้ทีมจะอยู่ในสถานการณ์เป็นรอง แต่เมื่อได้รับการชี้แจงถึงประตูที่ถูกปฏิเสธ ก็ยอมรับแต่โดยดี และไม่มีการโต้เถียงอย่างใด นับเป็นภาพที่น่าประทับใจที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในฟุตบอลไทย...