Toyota Thai League Match of The Week 2 : เมืองทอง 0-2 การท่าเรือ

“แน่นอนว่าเกมนี้เป้นที่จับตามองตั้งแต่ก่อนเกมการแข่งขันที่แฟนบอลสิงห์เจ้าท่าตัดสินใจที่จะไม่เดินทางเข้ามาเชียร์ในถิ่นเอสซีจี สเตเดียม เพราะกลัวหวั่นจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยแบบเมื่อสองปีที่แล้ว”

“เกมนี้เห็นได้ชัดว่ากิเลนได้รับผลกระทบแน่นอนแล้ว ในเกมนี้ที่ดูเหมือนว่าแนวรุกของเมืองทองนั้น เล่นแทบไม่ออกเลย แถมเซอร์เด็จยังงัดไม้ตายให้เจ้าบ้านเล่นยากเพิ่มอีกเท่าตัว แถมโค้ชแบนต้องมากุมขมับอีกจากที่นักเตะตัวหลักที่จะใช้ในฤดูกาลนี้เจ็บอีกด้วย ที่อาจจะต้องแก้ปัญหากันต่อไป”

“ส่วนท่าเรือของเซอร์เด็จนั้น จากปีที่แล้วอาวุธในการเลือกใช้แทบจะมีจำกัด ปีนี้มาดามแป้งเลยจัดเต็ม แถมผลการแข่งขันยังเป็นที่น่าพอใจจนยึดจ่าฝูงมา 2 วีคติดต่อกัน ถ้าสิงห์เจ้าท่ายังคงรักษาฟอร์มไว้อยู่อย่างนี้ จะเป็นทีมที่น่ากลัวเข้ามาท้าชิงโซนหัวตารางในซีซั่นนี้เลย”

"จริงๆก่อนเกมส์ ผมมองว่านัดนี้ควรจะออกมาในรูปแบบสู้กันสนุกสูสี ทั้ง 2 ทีมต้องเปิดเกมรุกแลกกันชนิดเอาให้ตายไปข้าง แต่สุดท้ายต้องผิดหวัง เมื่อรูปเกมส์ที่ออกมาตรงข้ามกับความคิดโดยสิ้นเชิง ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะประตูที่มันเกิดขึ้นเร็ว ตั้งแต่ยังไม่ถึง 10 นาทีแรก 

เป็นเวลาแค่เพียง 8 นาทีในสนามเท่านั้น ที่การท่าเรือ เจาะประตูเมืองทองได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ใช่แค่ประตูเท่านั้น แต่มันเปรียบเสมือนเป็นการทำลายแท็คติกที่ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน วางมาอย่างสิ้นเชิง กองกลางเมืองทองในชุดที่ไร้เงาของ วัฒนา พลายนุ่ม จากอาการบาดเจ็บ สะท้อนให้เห็นแล้วว่า สารัช อยู่เย็น เพียงแค่คนเดียว ไม่เพียงพอที่จะคุมเกมส์ได้ทั้งหมด เมื่อกองกลางการท่าเรือเกือบทุกคนเป็นพวกสไตล์ขยัน บ้าเลือด วิ่งพล่านทั้งสนาม ไม่ว่าจะเป็น ศิวกร จักขุประสาท หรือ คิม ซุง ฮวาน

ซึ่งการที่กองกลางของเมืองทอง คุมเกมส์ไม่ได้ ตลอด 90 นาที มันส่งผลกระทบโดยตรงต่อ 3 แนวรุกอย่าง เฮแบร์ตี้ เฟอร์นานเดส, จาจ้า รวมถึง เจนรบ สำเภาดี ที่นัดนี้เงียบเป็นเป่าสาก และไร้ไอเดีย เชื่อเลยว่าสาวกกิเลนผยองเริ่มคิดถึง "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ขึ้นมาจับใจ 

ผิดกับทางฝั่งการท่าเรือ ที่ยิ่งเล่นยิ่งดีวันดีคืน โดยเฉพาะในแนวรุก การเข้าทำในแต่ละจังหวะมีความหลากหลาย และไอเดียสร้างสรรค์ กราบซ้ายมี เควิน ดีรมรัมย์ กับ นูรูล ศรียานเก็ม ที่ผลัดกันเล่นงาน ทริสตอง โด ตลอดทั้งเกมส์ ส่วนทางขวา มี ปกรณ์ กับ นิติพงษ์ เสลานนท์ เล่นงาน พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ซึ่งพอโดนโหมมากๆก็เป็นบ่อเกิดประตูที่ 2 ที่การท่าเรือ ยิงได้จาก เซอร์คิโอ ซัวเรส .

แท็คติกของ จเด็ด มีลาภ ในเกมนี้ ไม่มีอะไรซับซ้อน บอลริมเส้นเป็นจุดเด่นของพวกเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผิดกับเมืองทอง ที่ยังต้องแก้ต่อไป และยังไม่มีทีท่าว่าจะลงตัวเมื่อไหร่กับทีมชุดนี้"

"ต้องบอกว่าเป็นเกมที่ การท่าเรือ เอฟซี เล่นได้สมบูรณ์แบบ ตามแผน และมีวินัยมากกว่าเจ้าบ้านอย่างเห็นได้ชัด

สองทีมมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นพอสมควร ก่อนเปิดฤดูกาล 2018 เมืองทองฯ เสียตัวหลักออกไป แต่ที่มีอยู่ก็ดีกรีไม่ธรรมดา ส่วนการท่าเรือได้แข้งฝีเท้าดีเข้ามาเสริมกับแกนเก่า จนทำให้ขุมกำลังแกร่งขึ้น ที่สำคัญต้องชม จเด็จ มีลาภ ที่วันนี้ใช้การเปิดบอล และจังหวะสวนกลับ การบีบพื้นที่แดนกลาง เล่นงานกิเลนผยองได้อีกครั้ง

ส่วนเมืองทองฯ ดูเหมือนว่า ทรัพยากรผู้เล่นที่สามารถใช้ได้จริง ตามแท็คติกของโค้ชแบน มีค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะแดนหน้า ที่มี เฮแบร์ตี้ คนเดียวที่พอพึ่งพาได้ รวมถึงเรื่องสภาพความฟิต สปีดบอลของฤดูกาลนี้ ก็ดูช้าลงไปกว่าปีก่อน เป็นการบ้านที่ โค้ชแบน ต้องแก้ไข หากจะนำทีมต่อสู้แย่งแชมป์ในปีนี้"