Goal ThailandGoal
Toyota Thai League Match of The Week 18 : การท่าเรือ 2-3 เมืองทอง

1อลงกต เดือนคล้อย (ผู้สื่อข่าวฟุตบอล โกล ประเทศไทย)
"สมกับเป็นเกมสุดมันประจำสัปดาห์ เพราะทำเอาแฟนบอลหายใจไม่ทั่วท้องตลอดทั้งเกม
การท่าเรือ เป็นฝ่ายที่ทำได้กว่าในครึ่งแรก ปิดบอลกลางอากาศของคู่แข่ง และรับมือสองกองหน้าต่างชาติของ เมืองทอง ได้ดี แถมแดนกลาง และริมเส้น ยังสามารถสร้างโอกาสได้ลุ้นประตูหลายหน
น่าเสียดายที่ไม่เป็นประตูเลยแม้แต่เดียว เท่ากับเปิดโอกาสให้ กิเลนผยอง มีเวลากลับไปได้แก้หมาก แก้เกม ในครึ่งหลัง พอถ้าครึ่งแรก อย่างน้อย ท่าเรือนำสัก 1-0 รูปเกมอาจไม่ออกมาแบบที่เห็นครึ่งหลัง
พอเข้าสู่ครึ่งหลัง กลับกลายเป็นว่า การท่าเรือ ไปหลุดสมาธิเอาเสียเอง ชะล่าใจและ เปิดพื้นที่ ผู้เล่นเมืองทองฯ ได้เซ็ทเกมรุกเพียงไม่กี่จังหวะ นำมาซึ่งบทลงโทษ ที่ต้องจ่ายด้วยการเสียถึง 3 ประตู ในห้วงเวลาแค่ไม่กี่นาที แม้จะเร่งเอาคืนมาได้อีก 2 ประตู และโหมบุกใส่จนสิ้นนกหวีด แต่ก็ไม่ทัน
สิ่งที่เห็นชัดเจนจากเกมนี้คือ เมืองทองฯ ที่ชนะติดกัน 4 นัดแล้ว มียุทธวิธีการเล่นที่เปลี่ยนไปและดูน่าสนใจ พวกเขาเน้นการแพ็กเกมรับให้เหนียวแน่นก่อน แล้วคอยหาอาศัยจังหวะที่แนวรับคู่แข่งเปิดพื้นที่
หรือมีช่อง ก็จัดการวางบอลสั้น ยาว โจมตีอย่างรวดเร็ว ต่างจากอดีตที่เน้นต่อบอลสวยงาม และมักเปิดเกมใส่คู่แข่งก่อน ตรงจุดนี้ ทำให้คู่แข่งที่เล่นกับ เมืองทอง คงต้องเหนื่อยแน่
ส่วน ท่าเรือ ถ้าไม่นับช่วง 6 นาทีแรกในครึ่งหลัง โดยรวมแล้ว เกมนี้พวกเขาก็ทำได้ดี ในแง่ของเปอร์เซนต์การครองบอล หรือการสร้างโอกาสยิงมากมายหลายหน แต่สิ่งเดียวที่ยังแก้ไม่ตกคือ ความเด็ดขาดในจังหวะสุดท้ายนั้นเอง และสมาธิที่เสียประตูแบบไม่น่าเสีย"

2ชนันธร ใจมูล (คอลัมนิสต์ โฟร์โฟร์ทู ประเทศไทย)
เป็นเกมที่ต้อนรับเลกที่ 2 ของไทยลีกได้อย่างประทับใจแฟนบอลทั่วประเทศ นี่คือเกมที่ทั้งสองทีมผลัดกันแลกหมัดอย่างไม่มีใครกลัวใคร
ท่าเรือฯ ดูจะเป็นทีมที่เล่นในเกมของตัวเองได้ตลอดโดยเฉพาะเรื่องการพาบอลไปยังพื้นที่สุดท้ายเพื่อลุ้นประตู ทว่า เมืองทองฯ มาดใหม่ของ ราโดวาน เคอร์ซิช ได้แสดงลายเซ็นของกุนซือชาวเซิร์บอย่างชัดเจน
พวกเขาเน้นไปที่การเล่นเกมรับและก็ทำได้ดีไม่มีขอผิดผลาดแบบไม่น่าให้อภัยเลย การขยับ อี โฮ ลงมาเป็นเซ็นเตอร์แบ็คช่วยได้มากโดยเฉพาะการอ่านจังหวะปะทะที่ถึงบอลก่อนเสมอ และในตำแหน่งของมิดฟิลด์ที่ใช้แข้งเชิงรับมากกว่าทำให้ดูจะเกะกะเกมรุกของท่าเรือได้เสมอ
ที่จะไม่ชมก็คงไม่ได้คือเกมสวนกลับที่เฉียบขาดจนสามารถรัว 3 เม็ดภายใน 6 นาที ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการย้ำที่เดิมรัวๆจนกองหลังของสิงห์เจ้าท่าตั้งขบวนรับไม่ทัน
ฝั่งท่าเรือเจ้าบ้าน มีแต่เพียงความเสียดายเท่านั้นที่จะเกิดขึ้นหลังเกมนี้ ทว่าพวกเขาไม่มีอะไรต้องเสียใจ นี่คือเกมที่แฟนๆอยากเห็นนั่นคือการใช้เกมรุกปลุกเร้าตลอดทั้งเกม
แก้ไขเรื่องความละเอียดในแต่ละจุดนิดหน่อยเชื่อเหลือเกินว่าสิงห์เจ้าท่าชุด 2018 กำลังเดินมาถูกทางตามโปรเจ็คต์ที่ มาดามเเป้ง ว่าพวกเขาจะต้องยกระดับขึ้นมาเป็นทีมหัวตารางให้ได้

3นาวาอากาศโท ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน (ตำนานนักฟุตบอลทีมชาติไทย,โตโยต้า ฟุตบอลแอมบาสเดอร์)
"เป็นอีกหนึ่งเกมที่แฟนบอลลูกหนังไทยรอคอย เพราะไม่ว่าจะเจอกันสถานการณ์ไหน สนามใด รายการอะไร คู่นี้เจอเมื่อไหร่ ก็ใส่เต็มตลอด
เจ้าบ้านดูน่าจะได้เปรียบกว่า เพราะได้เล่นในบ้านตัวเอง แถมไม่มีกองเชียร์ตามมาด้วย และเป็นฝ่ายคุมเกมได้เหนือกว่า แต่จังหวะสุดท้ายกลับทำได้ไม่ดีพอ ผิดกลับเมืองทองฯ ที่รวบรวมสมาธิ และเล่นงาน การท่าเรือ ในช่วงต้นครึ่งหลัง จนสกอร์ทิ้งห่างไป 3-0 ตั้งแต่ 6 นาทีแรกเท่านั้น
แน่นอนว่า นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ การท่าเรือ กลับมาได้ยาก เพราะต้องเร่งเกมมากกว่าเดิมขึ้นไป จนจังหวะฟุตบอลดูเกินไป และผิดพลาดไปหมด อีกส่วนหนึ่งที่ต้องชมคือ เมืองทองฯ เล่นได้นิ่งกว่า เล่นด้วยความอดทน และไม่ได้มาเปิดเกมรุกบ้าดีเดือดใส่ จนได้ 3 คะแนนที่ล้ำค่ากลับบ้านไป"
โฆษณา



