Toyota Thai League Match of The Week 11 : บุรีรัมย์ 2-3 เอสซีจี เมืองทองฯ

กิเลนผยอง ..ในวันที่เลือดข้นกว่าน้ำ

ก้มหัวสารภาพยอมรับตามจริง หากเป็นเมืองทองในช่วงต้นฤดูกาล ที่แม้ชื่อชั้นผู้เล่นแต่ละคน จะไม่ได้ขี้เหล่ แต่จิตวิญญาณ เหมือนไร้แรงกระตุ้น แพสชั่นนักสู้ที่เคยถกแขนเสื้อบู๊จนสิ้นเสียงนกหวีด มันหายไป

ยิ่งการโดนบุรีรัมย์ นำก่อนในเกมลีกนัดล่าสุด ถ้ายังไม่เปลี่ยนแปลงมาเป็น มาริโอ ยูรอฟสกี้ ก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าจะกลับมาหยิบ 3 แต้มในบ้านปราสาทสายฟ้าได้

อยากกระซิบถามโค้ชโอ้เหมือนกัน มีคาถาดีหรือยังไง ถึงเสกแข้งต่างชาติทั้ง โรช่า, แดร์เลย์ และ พอพพ์ ให้กลับมาคึกคัก มีชีวิตชีวา และมีความสุขในการลงเล่นอีกครั้ง ยิ่งกับแข้งไทยไม่ต้องพูดถึง ใจแลกใจ ถ้าซ้อมดีเอาตำแหน่ง 11 ตัวจริงไป

ทุกอย่างมันลงล็อคให้เมืองทอง ทำอะไรก็เป็นใจ ยิ่งเล่นยิ่งดี ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ จริงอยู่ที่ยูรอฟสกี้ ไม่มีไลเซนต์ ไม่มีดีกรี ยิ่งประสบการณ์ไม่ต้องพูดถึง จะไปเอามาจากไหน แต่ฟุตบอลบางทีมันก็แบบนี้ ต้องใช้ใจแลกใจ และใช้คนให้ถูกงาน

ยิ่งบทสัมภาษณ์หลังเกมที่บอกว่า เมืองทอง ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงโควต้าต่างชาติในตอนนี้ เชื่อว่าช็อตนี้ได้ใจลูกทีมไปเต็มๆ

เพราะฟุตบอลก็เหมือนการทำงาน ใครๆก็พร้อมสู้ และก้มห้วให้เจ้านายที่ได้ใจเท่านั้น

"บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ของ อเล็กซานเดร กาม่า เริ่มต้นเกมบิ๊กแมตช์ที่ต้องการสามแต้มในบ้านอย่างยิ่ง ด้วยความดุดัน พวกเขาบดใส่ เมืองทอง ก่อนได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากความผิดพลาดของ ศฤงคาร พรหมสุภะ"

"แต่ลูกยิงที่จับบอลพลาดอย่างแรง ของ เชโปวิช ที่จะทำให้ทีมออกนำ 2-0 กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะลูกทีมของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ไม่ยุบไปตามสถานการณ์ที่ตามหลัง กลับกัน พวกเขายังได้ทัศนคติไม่ยอมแพ้ของเฮ้ดโค้ชมาลงสนามด้วย"

"การตีเสมอได้ไวจาก โรชา ทำให้ เมืองทอง กลับคืนสู่เกมอีกครั้ง และลูกจุดโทษที่ต้องชื่นชมคำตัดสินอันเฉียบขาดของ ศิวกร ภูอุดม ได้ทำให้โมเมนตัมของเกมกลับไปอยู่กับฝั่งของกิเลนผยอง ก่อนจะออกนำห่าง 3-1 จากความยอดเยี่ยมของ วิลเลียม พ็อพพ์"

"นักเตะของ เมืองทอง ได้ดีเอ็นเอความสนุกกับเกม และกระหายชัยชนะของ มาริโอ ไปแบบเต็มๆ และต้องชื่นชมแนวรับของพวกเขาในช่วงท้ายเกมด้วยที่ยันอยู่ ทำให้คว้าสามแต้มสำคัญออกมาจาก ช้าง อารีน่า ได้ด้วยสกอร์ 3-2"

"นับเป็นเกมคุณภาพอีกนัดของไทยลีกในปีนี้ ที่ต้องชื่นชมการต่อสู้ของทั้งสองฝั่ง ที่โชว์ศักยภาพอย่างเต็มที่ออกมา"

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเปิดเกมบุกกดดันได้ดีกว่า เมืองทองฯ อย่างชัดเจนใน 20 นาทีแรก ลูกทีมของ อเล็กซานเดร กามา บุกโจมตีลูกทีมของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ได้มีมิติกว่า กระทั่งได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0

แต่ปัญหาเดิมคือ พวกเขากลับพลาดโอกาสยิงประตูเพิ่มในหลายจังหวะ เมื่อทำไม่ได้กลับถูกลงโทษจากลูกโขกของ ลูคัส โรชา หลังจากนั้นโมเมนตั้มของเกมกลับมาสู่ เมืองทองฯ เมื่อยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ มาริโอ ปลุกเร้าลูกทีมตลอดเวลาที่ข้างสนาม ช่วงครึ่งหลัง เมืองทองฯ ยังคงเล่นได้รัดกุม ใช้โอกาสไม่เปลือง จนได้เพิ่มอีกสองประตู ส่วน บุรีรัมย์ ตามจี้ 2-3 แต่ไม่ทัน ทำให้ เมืองทองฯ บุกมาเก็บชัยชนะได้อย่างสุดมัน นำอรรถรสความเป็นบิ๊กแมตช์ ปราสาทสายฟ้า - กิเลนผยอง กลับมาอีกครั้ง

ต้องชื่นชม มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่เกมนี้เป็นอีกครั้ง เมื่อเขาพิสูจน์ให้เห็นว่า มาริโอเวย์ มาถูกทางกับการปลุกชีพ กิเลนผยอง กับการใส่ความมั่นใจ กระตุ้นนักเตะเล่นฟุตบอลให้สนุก และสร้างความกระหายอยู่ตลอดเวลา โดยในช่วงท้ายเกม บุรีรัมย์ มีโอกาสบุกกดดันต่อเนื่อง แต่นักเตะ เมืองทองฯ กัดฟันสู้ ไม่ถอดใจ นำมาซึ่งชัยชนะในที่สุด

ในทางกลับกันฝั่ง กามา มีงานชิ้นใหญ่ที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะการจบสกอร์ที่แม้จะสร้างโอกาสเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายบ่อยครั้ง แต่กลับพลาดไปเองจนเป็นฝ่ายแพ้คาบ้าน ทำให้ 2 เกม ของ กามา ยังหาชัยชนะไม่ได้