
Goal
Top/Flop of the Day : เด่น - ดับ ประจำวันในเวิลด์คัพ 2018 (วันที่ 9)
Getty Images1ดับ - เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช
ห้องเครื่องจากลาซิโอได้รับการคาดหวังว่าจะขับเคลื่อนเกมรุกให้เซอร์เบียอย่างลื่นไหล แต่เอาเข้าจริงเขาแทบไม่มีบทบาทโดดเด่นในเกมรุกร่วมกับทีมมากเท่าที่ควร แถมยังต้องระมัดระวังในการเล่นจากการโดนใบเหลืองตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก มิหนำซ้ำ พอเข้าสู่ 45 นาทีหลังก็แทบจะไม่ได้ยินชื่อของแข้งหมายเลข 20 สร้างโอกาสสวยๆให้ทีมได้เลย
Getty2เด่น - เซอร์ดาน ชากิรี
แม้บทบาทในครึ่งแรกของสตาร์เบอร์ 23 จะมีส่วนกับทีมน้อย ทว่าพอเข้าช่วง 45 นาทีหลัง เจ้าตัวกลับงัดศักยภาพวิ่งขึ้นลงช่วยเกมรุกรับแบบไม่มีเหนื่อย ทั้งยังมีโอกาสผ่านบอลสวยๆให้เพื่อนเข้าทำอยู่ไม่น้อย กระทั่งกลายเป็นฮีโร่ลากบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปซัดประตูชัยช่วงท้ายเกม
Getty Images3ดับ - กิลฟี ซิเกิร์ดสสัน
ซิเกิร์ดสสัน คือกัปตันทีมและความหวังของคนไอซ์แลนด์ทั้งชาติ แม้ตลอด 80 นาทีเขาจะช่วยทีมได้มากมาย แต่การพลาดจุดโทษที่อาจจะเป็นประตูจุดประกายให้บ้านเกิดไม่ต้องพบกับความปราชัยในเกมนี้ ก็สามารถทำให้มิดฟิลด์เอฟเวอร์ตันกลายเป็นดาวดับได้ทันที
Getty4เด่น - อาเหม็ด มุซา
ดาวยิงวัยเบญจเพสดูเหมือนจะไร้ความอันตรายในช่วงแรก แต่กลายเป็นว่าเขาใช้ความสามารถเฉพาะตัวเหมาสองประตูสุดสวยเป็นฮีโร่ของอินทรีมรกตและทำสถิติร้อนแรงยิงได้ใน 4 เกมล่าสุดในฟุตบอลโลกของไนจีเรียด้วย
Getty Images5ดับ - ไบรอัน รุยซ์
ซูเปอร์สตาร์ของคอสตาริก้าในฟุตบอลโลก 2014 ยังคงโชว์ฟอร์มไม่ออกอีกหนึ่งนัดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกมสวนกลับของคอสตาริก้าไม่อันตรายเหมือนอย่างเมื่อ 4 ปีที่แล้ว บางทีด้วยวัย 32 ปี เขาอาจจะอายุมากเกินไปสำหรับการเป็นความหวังของทัพกล้วยหอมแล้วก็เป็นได้
6เด่น - ฟิลิปป์ คูตินโญ
ตัวรุกจากบาร์เซโลนาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาคือนักเตะที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของทัพแซมบ้าชุดปัจจุบัน โดยเฉพาะในยามที่เนย์มาร์ สตาร์เบอร์หนึ่งของทีมถูกเล่นงานอย่างหนัก เขาทั้งสร้างโอกาสและพยายามยิงด้วยตัวเองตลอดทั้งเกม จนกระทั่งมาสำเร็จในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ก่อนที่เนย์มาร์จะเป็นคนทำประตูที่สองปิดกล่องให้บราซิลชนะคอสตาริก้าไปอย่างไม่ยากเย็น
โฆษณา