
Goal
Top/Flop of the Day : เด่น - ดับ ประจำวันในเวิลด์คัพ 2018 (วันที่ 6)
(C) Getty Imagesเด่น - ยูยะ โอซาโกะ
ถ้ามองหาตัวป่วนแนวรับโคลอมเบีย หัวหอกวัย 29 กะรัตนับว่าสร้างปัญหาได้เยอะทีเดียว ตั้งแต่จังหวะหลุดเดี่ยวไปดวลกับ ดาวิด ออสปินา ซึ่งมีส่วนให้ทีมได้ลูกจุดโทษจนนำมาสู่ประตูขึ้นนำ
จริงอยู่ที่ครึ่งหลังเขามีส่วนร่วมในเกมน้อย แต่โผล่มาอีกทีกองหน้าแวร์เดอร์ เบรเมนก็มาเป็นผู้พังประตูชัยให้ทัพซามูไรบลูเป็นทีมแรกจากเอเชียที่เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ
(C) Getty Imagesเด่น - ชินจิ คางาวะ
มิดฟิลด์ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยังคงเป็นหัวใจในแนวรุกของทัพซามูไรบลูอย่างแท้จริง โดยเขาเป็นผู้เรียกใบแดงให้แก่โคลอมเบียและรับหน้าที่สังหารจุดโทษให้ทีมขึ้นนำไปก่อน
ซึ่งก่อนเขาจะถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 70 เขาก็ยังสร้างสรรค์โอกาสได้หลายครั้ง
Getty Imagesดับ - คาร์ลอส ซานเชซ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้มือปัดบอลในเขตโทษซึ่งนำมาสู่การโดนใบแดงไล่ตัวเขาออกจะเป็นจุดเปลี่ยนของเกมนี้ แม้ช่วงครึ่งแรกโคลอมเบียจะสู้ได้ดี แต่การเหลือผู้เล่น 10 คนและต้องเล่นอีก 45 นาทีในช่วงครึ่งหลังทำให้พวกเขาเป็นรองอย่างเห็นได้ชัดและต้องปราชัยในที่สุด
ดับ - เกมรับของโปแลนด์
ทีมชาติโปแลนด์ประเดิมสนามด้วยความพ่ายแพ้ในฟุตบอลโลก และสาเหตุหลักไม่ใช่อื่นไกลนอกจากความผิดพลาดในเกมรับทั้งสิ้น จากจังหวะแรกที่เสียเชิงให้แนวรุกของเซเนกัล จนนำมาสู่การยิงไปแฉลบติอาโก้ ซิโอเน็ค เข้าประตูตัวเอง ก่อนที่จะเป็นการคืนหลังพลาดของ เกอร์เซกอร์ซ คริโชเวียค ที่ปล่อยให้เอ็มบาย เนียง ฉกบอลเข้าไปยิงประตูโล่งๆ
Gettyดับ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
กองหน้าบาเยิร์น มิวนิค คือความหวังสูงสุดของทีมชาติโปแลนด์ จากฟอร์มการถล่มประตูอันยอดเยี่ยมในรอบคัดเลือก ทว่าเขากลับเล่นได้น่าผิดหวังในนัดแรกที่พบเซเนกัล โดยต้องรอถึงนาทีที่ 50 กว่าจะได้มีโอกาสยิงตรงกรอบครั้งแรกจากลูกฟรีคิก และหลังจากนั้นก็เงียบหายไปตลอดทั้งเกม
Gettyเด่น - อิดริสซา กานา เกย์
มิดฟิลด์พลังไดนาโมของเอฟเวอร์ตันคือตัวขับเคลื่อนเกมอย่างไม่มีหมดให้เซเนกัลในแดนกลาง ไม่ว่าจะเป็นการตัดเกม หรือเชื่อมเกมก็ทำได้อย่างไม่มีที่ติ รวมถึงเป็นคนยิงบอลไปแฉลบ ติอาโก้ ซิโอเน็ค ให้เป็นประตูขึ้นนำของทีมตั้งแต่นาทีที่ 37 ของการแข่งขัน
เด่น - เดนิส เชอรีเชฟ
แนวรุกทีมชาติรัสเซียยังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องในเกมนี้ โดยเขามีส่วนร่วมในเกมรุกทัพหมีขาวในการโจมตีแนวรับของทีมชาติอียิปต์ได้แทบตลอดทั้งเกม และทีมสามารถอาศัยจากการเติมเกมขึ้นมาเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษได้อย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าตัวทำประตูได้อีกครั้งในเกมนี้และทำให้เขาขึ้นไปเป็นดาวซัลโวร่วมกับคริสเตียโน โรนัลโด้เรียบร้อยที่ 3 ประตู
Gettyดับ - อะหมัด ฟาธี
แบ็คขวากับตันทีมอียิปต์ดูมีปัญหาในการรับมือกับเกมรุกอันรวดเร็วและจังหวะเซ็ตบอลเปิดจากด้านข้างของทางรัสเซียอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งเจ้าตัวยังสร้างความผิดพลาดในประตูแรกที่ทีมเสียในการประกบตัวและสกัดบอลผิดพลาดจนเข้าประตูตัวเองและทำให้โมเมนตัมของเกมเปลี่ยนไป
โฆษณา