
Goal
Top/Flop of the Day : เด่น - ดับ ประจำวันในเวิลด์คัพ 2018 (วันที่ 3)
Getty Imagesเด่น - แคสเปอร์ ชไมเคิล
ลูกชายของตำนานผู้รักษาประตูอย่าง ปีเตอร์ ชไมเคิล โชว์ฟอร์มได้เหนียวหนึบไม่แพ้ผู้เป็นพ่อ ด้วยการงัดฟอร์มเซฟกระจายไปถึง 6 ครั้งเน้นๆ พาเดนมาร์กเก็บคลีนชีตพร้อมชัยชนะเหนือเปรู ประเดิมเวิลด์คัพ 2018 ด้วยสามแต้มอย่างสวยงาม
ดับ - ลิโอเนล เมสซี
ซูเปอร์สตาร์ตัวความหวังของทีมฟ้าขาวมีโอกาสยิงมากถึง 11 ครั้งในเกมนัดนี้ ซึ่งเป็นโอกาสทำประตูมากครั้งที่สุดเท่าที่เขาเคยมีมาในการแข่งขันเวิลด์คัพ ทว่ากลับไม่อาจส่งบอลไปกองอยู่ก้นตาข่ายได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว โดยเฉพาะการพลาดจุดโทษซึ่งทำให้ทีมไม่ได้ 3 คะแนนในเกมนี้
Gettyเด่น - ลูกา โมดริช
กัปตันทีมตราหมากรุก บัญชาเกมแดนกลางให้ทีมได้อย่างเนียนตาและไร้ที่ติ บอลทุกจังหวะที่ออกจากเท้าของเขาเต็มไปด้วยประสิทธิภาพและความแน่นอน รวมถึงความทุ่มเทช่วยทีมทั้งเกมรุกและรับแบบไม่มีทีท่าอ่อนแรง นอกจากนี้ยังเป็นผู้ซัดจุดโทษเป็นประตูที่สองให้ทีมอีกด้วย
Captura TVดับ - ซามูเอล อุมติตี้
กองหลังจากบาร์เซโลนาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในในฐานะคู่เซ็นเตอร์กับราฟาเอล วาราน แต่กลับมีส่วนผิดพลาดในการสกัดเกมรุกของคู่แข่งที่โต้ใส่น้อยกว่า โดยเฉพาะจังหวะที่เขาทำแฮนด์บอลจากการเปิดของอารอน มอย ทำให้ฝรั่งเศสเสียประตูจากลูกจุดโทษ และเกือบจะเป็นฝันร้ายให้ทีมพลาดสามแต้ม ก่อนจะเป็นปอล ป็อกบา ที่มาซัดประตูชัยช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม
Getty Imagesเด่น - ฮันเนส ธอร์ ฮัลล์ดอร์สสัน
เบื้องหลังเกมรับที่มีวินัยของไอซ์แลนด์คือนายด่านจอมเก๋าวัย 34 ปีที่ช่วยเซฟประตูสวยๆ หลายต่อหลายครั้ง รวมถึงจุดโทษที่ ลิโอเนล เมสซี ยิงไปติดมือของเขาในนาทีที่ 63 จริงอยู่ที่ทีมเวิร์คอันยอดเยี่ยมของไอซ์แลนด์สมควรได้รับคำชมทั้งทีม แต่ว่าหากไม่มีการเซฟจุดโทษของฮัลล์ดอร์สสัน พวกเขาก็อาจจะไม่มีรอยยิ้มออกจากสนามในเกมนี้
Gettyดับ - คริสเตียน กูเอบา
กองกลางหมายเลข 8 ของเปรู เกือบจะได้เป็นฮีโร่อยู่แล้ว หลังจัดการเรียกจุดโทษซึ่งผู้ตัดสินต้องอาศัยการดู VAR มาช่วย ทว่าเจ้าตัวกลับดันซัดจุดโทษโด่งข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้น กลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกมที่ทำให้ทีมจากอเมริกาใต้ต้องพบกับความพ่ายแพ้อย่างแท้จริง
Getty Imagesเด่น - อองตวน กรีซมันน์
แม้ในช่วง 45 นาทีแรก ดาวยิงหมายเลข 7 จะพยายามทำเกมรุก สร้างสรรค์ประตูให้ทีมอยู่หลายหน ทว่ากลับต้องเกมรับที่แข็งแกร่งของออสเตรเลียตลอดเวลา แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลัง เขากลับเป็นฮีโรสังหารจุดโทษแบบเด็ดขาดพาทีมขึ้นนำ เมื่อถูกโจชัว ริชดอนสกัดล้มในกรอบโทษ โดยรวมแล้วเจ้าของแมนออฟเดอะแมตช์เกมนี้มีส่วนทำเกมบุกให้ทีมไป 5 จาก 13 ครั้ง และหาโอกาสจบ 3 จาก 6 ครั้ง ก่อนถูกแทนที่ด้วยโอลิวิเยร์ ชิรูด์ ในนาทีที่ 70
ดับ - อเล็กซ์ อิโวบี้
แนวรุกดาวรุ่งจากอาร์เซนอลทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในเกมนี้ในการช่วยแนวรุกไนจีเรีย โดยตลอดทั้งเกมที่เขาอยู่ในสนามแทบไม่มีส่วนร่วมในเกมบุกของทีมเลยก็ว่าได้ ซึ่งฟอร์มการเล่นของเขาถือว่าตรงกันข้ามกับความคาดหวังของแฟนบอลในตัวเขาอย่างสิ้นเชิง โดยถึงแม้จะมีโอกาสได้ลองยิงหนึ่งครั้งแต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนเป็นประตูได้ ก่อนโดนเปลี่ยนตัวออกไปในช่วงครึ่งหลัง
โฆษณา