
Goal
Top/Flop of the Day : เด่น - ดับ ประจำวันในเวิลด์คัพ 2018 (วันที่ 11)
AFPดับ - กุนซือปานามา เอร์นาน โกเมซ
แม้กุนซือวัย 62 ปีจะพาปานามาเข้ามาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่ความพ่ายแพ้แบบเละเทะ 6-1
มีส่วนมาจากแท็คติกของเขาที่พยายามให้ลูกทีมต่อบอลสู้กับอังกฤษทั้งที่เป็นรองทั้งชื่อชั้นและตัวผู้เล่น โดยเฉพาะแผนการเล่นเกมรับที่ดูเหมือนจะไม่มีความรัดกุมเอาซะเลย
เด่น - แฮร์รี เคน
หัวหอกตัวความหวังของอังกฤษระเบิดฟอร์มเก่งในเกมนี้ด้วยการซัดจุดโทษสุดเฉียบขาด 2 ลูกและลูกส้มหล่นจนเป็นแฮตทริคแรกในการเล่นฟุตบอลโลกครั้งแรกของเขา นอกจากนั้นยังส่งให้กองหน้าวัย 24 ปีกลายเป็นผู้นำดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ด้วยผลงาน 5 ประตูจากโอกาสทั้งหมด 5 ครั้งในทัวร์นาเมนต์นี้ด้วย
Gettyเด่น - จอห์น สโตนส์
ปราการหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยืมคุมแนวรับได้ยอดเยี่ยมตามมาตรฐาน แต่สิ่งที่เป็นโบนัสของเขาคือการทำประตูจากลูกโหม่งถึงสองประตู
นั่นทำให้แนวรับวัย 24 กะรัตทำสถิติกลายเป็นกองหลังทัพสิงโตคำรามคนแรกที่ยิงได้ 2 ประตูในแมตช์เดียวของเกมฟุตบอลโลก
(C)Getty Imagesเด่น - ทาคาชิ อุนุอิ
กลายเป็นอาวุธสำคัญในยุคของ อากิระ นิชิโนะ หลังก่อนหน้านี้ถูก วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช มองข้ามมาโดยตลอด ปีกร่างเล็กจาก เรอัล เบติส มีส่วนร่วมกับทั้ง 2 ประตูในเกมนี้ จากผลงาน 1 ประตู 1 แอสซิสต์ และน่าจะบวกสกอร์เพิ่มได้อีกลูกด้วยถ้าลูกยิงของเขาไม่ไปชนคานเสียก่อน ญี่ปุ่นได้ 1 คะแนนล้ำค่าติดมือในวันนี้ต้องขอบคุณอินุอิที่มาระเบิดฟอร์มได้ในเวลาที่พอเหมาะพอเจาะ ทำให้พวกเขาต้องการแค่ผลเสมอในเกมสุดท้ายเพื่อผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์
©Getty Imagesดับ - เอย์จิ คาวาชิมา
นายด่านทีมชาติญี่ปุ่นออกแรงเซฟช่วยทีมไว้ถึง 5 ครั้งในเกมกับเซเนกัล จากการยิงเข้ากรอบ 7 ครั้งของคู่แข่ง แต่ประตูแรกที่เสียไปนั้นมาจากการตัดสินใจผิดพลาดอย่างไม่น่าเป็นไปได้ในระดับฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เมื่อเขาเลือกชกบอลที่รับเข้าซองได้ง่ายกว่าออกไปเข้าทาง ซาดิโอ มาเน ที่หนุนเข้ามาในมุมอับสายตาเข้าประตูไป ทำให้ทีมเสียเปรียบตั้งแต่นาทีที่ 11 เป็นฝ่ายไล่ตามไปตลอดเกม ลงเอยที่ผลเสมอในเกมที่พวกเขามีดีพอจะเอาชนะได้
Gettyเด่น - เยร์รี มินา
กองหลังจากบาร์เซโลนา ได้โอกาสลงตัวจริงเป็นครั้งแรกในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ด้วยการเบียดตัวจริงจากเกมแรกที่แพ้ญี่ปุ่นอย่าง ออสการ์ มูริโญ ไปนั่งสำรอง และก็สามารถสร้างผลงานโดดเด่นทั้งในเกมรุกและเกมรับ ด้วยการเติมขึ้นไปโหม่งประตูขึ้นนำปลดล็อคให้ทีม รวมถึงยังจัดการตามประกบตัวความหวังของโปแลนด์ เสียจนโชว์ฟอร์มเก่งไม่ออกอีกด้วย
Julian Finneyเด่น - ฮาเมส โรดริเกวซ
สตาร์สังกัดบาเยิร์น มิวนิค ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงครั้งแรกในฟุตบอลโลกหนนี้ ก่อนจะงัดความสามารถเฉพาะตัวในฐานะเพลย์เมกเกอร์สร้างสรรค์เกมรุกช่วยทีมจากอเมริกาใต้ไล่บดโปแลนด์อย่างลื่นไหล นำมาซึ่งการทำ 2 แอสซิสต์แบบแม่นยำ โดยเฉพาะประตูที่สามของทีมที่จ่ายทะลุช่องตั้งแต่ริมเส้นฝั่งซ้ายกลางสนามทะลุแนวรับทั้งแผงของโปแลนด์ให้ กัวดราโด้
ดับ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
กองหน้ากัปตันตัวความหวังของโปแลนด์ยังคงงัดฟอร์มเก่งออกมาไม่ออกอีกหนึ่งนัด โดยตลอดเวลา 90 นาที เจ้าตัวแทบจะหาโอกาสจบเน้นๆให้ทีมไม่ได้เลย แถมยังต้องเผชิญกับสองกองหลังคู่แข่งอย่าง ดาวินซอน ซานเชซ และเยร์รี มินาที่เขาแทบจะเอาชนะไม่ได้ ท้ายสุดแล้วก็เป็นโปแลนด์ที่กลายเป็นชาติจากยุโรปทีมแรก ที่ตกรอบแบ่งกลุ่มในครั้งนี้
โฆษณา