Getty/GoalGoal
Top/Flop of the Day : เด่น - ดับ ประจำรอบ 8 ทีมสุดท้าย (วันที่ 2)
Kevin C. Cox1ดับ - ฟีดอร์ สโมลอฟ
กองหน้าจาก คราสโนดาร์ ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามมาแทน เดนนิส เชรีเชฟ หลังเกมผ่านมาหนึ่งชั่วโมงเพื่อเป็นหมัดเด็ดไว้น็อคโครเอเชีย แต่กลายเป็นว่าตลอดเวลาที่อยู่ในสนามเขาไม่ได้สร้างความหนักใจให้แนวรับทีมตราหมากรุกเลย นอกจากนี้ยังเป็นคนแรกของทีมที่ยิงพลาดในการดวลจุดโทษทำให้ชิงความได้เปรียบไว้ก่อนไม่ได้ บางทีนี่อาจเป็นความผิดพลาดอีกอย่างของทัพหมีขาวที่เปลี่ยนตัวหัวหอกรายนี้ลงสนาม
Getty Images2เด่น - ลูก้า โมดริช
กัปตันทีมตราหมากรุกยังคงเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของทีมเช่นเคย โดยแม้จะถูกบีบและเล่นลำบากในช่วงครึ่งแรกแต่หลังจากปรับหมากในครึ่งหลังทำให้เขาโชว์ฟอร์มได้เด่นเหมือนเช่นในเกมที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงต่อเวลาพิเศษที่เขาเป็นคนเปิดบอลให้ โดมากอย วิด้า โหม่งทำประตูที่สองและขับเคลื่อนเกมด้วยพละกำลังที่เหลือล้นแม้ว่าเขาจะเล่นมา 120 นาทีสองเกมติดก็ตาม
Getty Images3ดับ - อังเดร โกโลวิน
นี่เป็นเกมที่จอมทัพตัวความหวังของ รัสเซีย โชว์ฟอร์มได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่ทำไว้จากนัดก่อนหน้านี้ โดยเขาตกเป็นรอง ลูกา โมดริช และ อิวาน ราคิติช คู่มิดฟิลด์ของโครเอเชียอย่างเห็นได้ชัด ทำให้แดนกลางของทีมหมีขาวเป็นรองทีมตราหมากรุกแทบทั้งเกม จังหวะคิลเลอร์พาสรวมถึงลูกยิงไกลที่เคยเป็นทีเด็ดก็ไม่มีให้เห็นเลยในเกมนี้
JEWEL SAMAD/AFP/Getty4เด่น - ดานิเยล ซูบาซิช
นายด่านจากทีมโมนาโกยังโชว์ฟอร์มได้เหนียวหนึบเช่นเคยในเกมนี้ โดยสองประตูที่เสียในเกมนี้สำหรับเขาถือว่าค่อนข้างสุดวิสัย โดยหลังจบเกมในเวลาปกติ 90 นาทีดูเหมือนว่าเขาจะมีอาการบาดเจ็บแต่ก็ยังกัดฟันเล่นต่อและเซฟสำคัญช่วยทีมได้อีกหลายจังหวะในช่วงต่อเวลาพิเศษก่อนเป็นฮีโร่ของทีมอีกครั้งในการเซฟลูกยิงจุดโทษของ ฟีดอร์ สโมลอฟ ทำให้ทีมเอาชนะและผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ
Getty Images5ดับ - ราฮีม สเตอร์ลิง
สตาร์สังกัดแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงได้รับความวางใจเล่นเป็นศูนย์หน้าคู่กับแฮร์รี เคน แม้ว่าอังกฤษจะมีโอกาสจบสกอร์เฉียบคมกว่าสวีเดน ทว่าหากดูฟอร์มส่วนตัว แม้สเตอร์ลิงจะมีความจี๊ดจ๊าดทำกองหลังคู่แข่งป่วน แต่ก็มีช็อตเล่นบอลมากจังหวะเกินไป ยังมีปัญหาเรื่องการตัดสินใจในพื้นที่สุดท้าย โดยเฉพาะลูกหลุดเดี่ยวลุ้นยิงในครึ่งแรก ที่ไปยึกยักจนโดนหลังสวีเดนสกัดทิ้ง แถมภาพรวมเรื่องจังหวะยิง ก็ยังไม่เฉียบคมน่าลุ้นเท่าแนวรุกคนอื่น
Getty Images6เด่น - แฮร์รี แม็คไกวร์
กองหลังจากเลสเตอร์ ซิตี้ ถูกวางหมากให้มาเป็นนักเตะทีเด็ดที่คอยเทกตัวขึ้นโหม่งในลูกเซตพีซเกือบทุกครั้งของอังกฤษในทัวร์นาเมนต์นี้ ก่อนจะมาปลดล็อคประตูแรกในทีมชาติให้ตัวเองได้สำเร็จ โดยการโหม่งลูกเตะมุมของ แอชลีย์ ยัง เข้าไปอย่างเด็ดขาด รวมถึงยังคุมแนวรับหน้าที่หลักได้แบบแทบจะไม่มีข้อบกพร่องเลย ช่วยให้อังกฤษเก็บคลีนชีตได้เป็นครั้งแรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วย และผ่านเข้ารอบตัดเชือกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1990
Getty7ดับ - อันเดรียส กรานควิสต์
กองหลังกัปตันทีมชาติสวีเดนเสียท่าโดนทีเด็ดของผู้เล่นอังกฤษโจมตีเข้าใส่ ไม่ว่าจะเป็นช็อตสกัดลูกลากเลื้อยของเหล่าแนวรุกคู่แข่งที่พาบอลไปกับตัวเองได้ดี หรือแม้แต่การเล่นลูกกลางอากาศ แม้กรานควิสต์สูงถึง 192 เซนติเมตร ทว่ากลับพลาดโดนสิงโตคำรามใช้ทีเด็ดจากลูกโขก กลายเป็น 2 ประตูส่งไวกิ้งจอดป้ายรอบ 8 ทีมสุดท้าย
Getty Images8เด่น - จอร์แดน พิคฟอร์ด
ผู้รักษาประตูจากเอฟเวอร์ตันคือแมนออฟเดอะแมตช์ของเกมนี้อย่างแท้จริง เมื่องัดฟอร์มสุดหนึบโชว์ซูเปอร์เซฟจะแจ้งไปถึง 3 ครั้ง ทั้งลูกโหม่งของ มาร์คุส เบิร์ก, ลูกแปเน้นๆของ วิคตอร์ คลาสสัน และลูกยิงด้วยซ้ายของ มาร์คุส เบิร์ก อีกครั้ง เรียกได้ว่าทั้ง 3 เซฟนั้นติดตาแฟนบอลทั่วโลกที่ได้ชมเกมนี้อย่างแน่นอน รวมถึงยังช่วยให้อังกฤษเก็บคลีนชีตได้เป็นครั้งแรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ และผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปีด้วย
โฆษณา