Top/Flop of the Day : เด่น - ดับ ประจำรอบ 16 ทีมสุดท้าย (วันที่ 3)

เฮดโค้ชปีศาจแดงแห่งยุโรปตัดสินใจส่งสองผู้เล่นอย่างมารูยาน เฟลไลนี และ นาเซอร์ ชาดลี ลงมาเล่นเกมบุกช่วงเวลาที่ทีมกำลังตามญี่ปุ่น 0-2 ก่อนที่แผนของเจ้าตัวที่วางให้ดาวเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอาศัยจุดเด่นจากลูกกลางอากาศ และจังหวะเกมรุกทางริมเส้นของชาดลีจะมาเปลี่ยนเป็นประตูตามตีเสมอ 2-2 รวมถึงประตูชัย 3-2 ช่วงท้ายเกม ทะลุรอบ 8 ทีมสุดท้ายสุดดรามา

นับเป็นเกมที่น่าผิดหวังสุดๆ ของกองหน้าจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากก่อนหน้านี้ในรอบแบ่งกลุ่มโชว์ฟอร์มมาได้ยอดเยี่ยม ทว่าในเกมนี้เมื่อต้องเจอการโดนประกบติดโดยคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟของญี่ปุ่นอย่าง มายะ โยชิดะ รวมถึง เง็น โชจิ ก็ทำให้เขาแทบจะหมดพิษสง เพราะแทบจะไม่สามารถเก็บบอลสร้างความได้เปรียบให้ทีมได้เลย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับผู้เล่นตัวใหญ่ที่เล่นสไตล์ใกล้เคียงกันอย่าง มารูยาน เฟลไลนี ซึ่งลงมาเป็นตัวสำรองและกลายเป็นตัวทีเด็ดโหม่งตีเสมอช่วยทีมได้ ก็ถือได้ว่าเกิดข้อเปรียบเทียบอย่างชัดเจนเลยทีเดียว

แน่นอนว่าการโคจรมาเจอกับเบลเยียมถือเป็นด่านสำคัญของญี่ปุ่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทว่าพอเกมการแข่งขันเริ่มขึ้น กลายเป็นชาติจากเอเชียที่เป็นฝ่ายครองบอลบุกกดดันตั้งแต่เริ่มเกม ซามูไรบลูสู้กับเบลเยียมได้อย่างสูสี แถมยังเป็นฝ่ายที่ออกนำคู่แข่งไปก่อนถึง 2-0 ก่อนจะมาเจอลูกประสบการณ์ของปีศาจแดงแห่งยุโรป ที่สุดท้ายเปลี่ยนเป็นผลชนะช่วงทดเจ็บ

ชิชาริโต้คือความหวังสูงสุดในการจบสกอร์ของทีมจังโก้ แต่วันนี้เขากลับทำผลงานได้น่าผิดหวังที่สุดในบรรดาสามแนวรุก เขาแทบไม่ได้สร้างประโยชน์หรือผลงานเป็นชิ้นเป็นอันเลย กลับเป็นเด็กอย่าง เฮอร์วิง โลซาโน ต้องมาแบกทีมในเกมรุกแทน เมื่อเล่นไม่ออกแบบนี้ กุนซือเม็กซิโกก็ไม่รีรอที่จะถอดเขาออกตั้งแต่นาทีที่ 60

ดาวยิงทีมชาติบราซิลกลับมาระเบิดฟอร์มได้แบบพอเหมาะพอเจาะ เมื่อเขาเป็นกุญแจสำคัญในการทะลวงแนวรับเม็กซิโกในเกมนี้ เนย์มาร์ใช้ความสามารถเฉพาะตัวเล่นงานแนวรับคู่แข่งจนป่วนไปหมด โดยเฉพาะในช่วง 45 นาทีหลัง เขาสวมบทเป็นพระเอกทำประตูปลดล็อคช่วยทีมและเป็นจุดเริ่มต้นของประตูที่สองด้วย หากเนย์มาร์ยังงัดฟอร์มเก่งออกมาได้แบบนี้ บอกได้เลยว่าบราซิลได้ลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 6 กันแบบยาวๆ