
SPFCผู้รักษาประตู : สหวิช ขำเปี่ยม (สุพรรณบุรี เอฟซี)
มือกาวลูกชายอดีตผู้รักษาประตูทีมชาติไทย เป็นผู้อยู่เบื้องหลังหนึ่งแต้มสำคัญจาก ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด เมื่อป้องกันประตูได้ยอดเยี่ยมตลอดทั้งเกม ไม่ใช่เพียงออกแรงเซฟหลายครั้ง แต่ยังปฏิเสธจุดโทษของ ศิวกรณ์ เตียตระกูลได้ด้วย
TrueBUกองหลัง : เอเวอร์ตัน (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
ปักหลักเกมรับได้ยอดเยี่ยมคอยเก็บกวาดหน้าปากประตู โดยเฉพาะการดวลตัวต่อตัวกับแนวรุก โปลิศ เทโร เอฟซี ก็ยังคงทำได้เหนือกว่าจนช่วยทีมเก็บชัยชนะได้สำเร็จ
Buriramกองหลัง : ดิเกา (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
กองหลังชาวบราซิล เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง เมื่อจัดการ แฮมิลตัน อยู่หมัด และ ยังมีสถิติดวล 1-1 ชนะมากที่สุดในทีม 5 ครั้ง รวมถึง เคลียร์บอลสำคัญไปถึง 4 ครั้ง มากที่สุดในทีมเช่นกัน ก่อนช่วย ปราสาทสายฟ้า บุกถล่ม หนองบัว พิชญฯ 3-0 ปิดจ็อบคว้าแชมป์ไทยลีกสำเร็จ

กองหลัง : เรนาโต เคลิช (ชลบุรี เอฟซี)
แนวรับของชลบุรี เอฟซี อย่างเล่นได้อย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะลูกกลางอากาศของเขาที่สามารถเก็บตกช่วยทีมได้มาก แถมยังเติมขึ้นมาโขกประตูชัยช่วยให้ฉลามชลเอาชนะพีที ประจวบ ไป 2-1
KKUTDปีกซ้าย : กฤษณ์พรหม บุญสาร (ขอนแก่น ยูไนเต็ด)
ฝั่งซ้ายของขอนแก่น ยูไนเต็ด โดดเด่นทั้งเกมรุกเกมรับ มีส่วนร่วมอย่างมากกับทีม โดยเขาสร้างโอกาสทำประตูได้หลายต่อหลายครั้งจากการขึ้นเกมริมเส้นก่อนเฉือนชนะ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด 2-1

กองกลาง : ธีราทร บุญมาทัน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
แบ็คซ้ายวัย 32 ปี ยังทำหน้าที่มิดฟิลด์ได้อย่างไม่เคอะเขิน เมื่อตลอดทั้งเกม คอยออกบอลได้ยอดเยี่ยม และ ยังเคลื่อนที่ไปทั่วทั้งสนาม ก่อนสร้างโอกาสไป 3 ครั้ง มากที่สุดในทีม และ ยังทำประตูแรก นับตั้งแต่กลับมาอยู่กับ ปราสาทสายฟ้า อีกครั้ง ช่วยทีมบุกถล่ม หนองบัวฯ 3-0 คว้าแชมป์ไทยลีกสำเร็จ

กองกลาง : วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
กองกลางทีมชาติไทยเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมพบนครราชสีมา มาสด้าฯ โดยเฉพาะการสร้างสรรค์เกมร่วมกับ สารัช อยู่เย็น และ เชาว์วัตน์ วีระชาติ นอกจากนั้นยังทั้งยิงทั้งจ่ายช่วยทีมคว้าชัยในที่สุด

ปีกขวา : สตีเฟน ล็องจิล (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี)
ในวัย 34 ปี ล็องจิล ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น เมื่อปั่นป่วนแนวรับ สิงห์เจ้าท่า ได้ตลอด ทั้งฝั่งซ้าย และ ฝั่งขวา ก่อนสร้างโอกาสไปถึง 3 ครั้ง มากที่สุดในทีม และ ยังเปิดบอลไป 7 ครั้ง เปลี่ยนเป็น 1 แอสซิสต์ช่วย ราชันมังกร เปิดบ้านชนะ 3-2 ห่างจากโซนตกชั้นเพิ่มเป็น 4 คะแนน

กองหน้า : เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
เกมถล่ม โปลิศ เทโร เอฟซี กลายเป็นแมตช์ที่น่าจดจำของแนวรุกชาวบราซิล เมื่อยิงประตูที่ 145 กลายเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลไทยลีก คนปัจจุบัน และยังคงมีลุ้นเพิ่มสถิติต่อไป

กองหน้า : ธีรศิลป์ แดงดา (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
กองหน้าทีมชาติไทยยังคงไว้ลายยอดดาวยิงเบอร์หนึ่งของประเทศ หลังลุกจากม้านั่งสำรองลงมาสร้างความแตกต่างของเกม และเหมาสองประตูให้เดอะ แรบบิท เปิดบ้านเก็บชัยชนะเหนือสวาทแคทได้สำเร็จ

กองหน้า : เฮนรี อานิเยร์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
กองหน้าทีมชาติเอสโตเนีย เริ่มปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลไทยได้ดีขึ้นตามลำดับ ล่าสุดจัดการซัดสองประตูช่วยให้กิเลนผยองเปิดบ้านเอาชนะ สมุทรปราการ ซิตี้ 5-2 อานิเยร์เอาชนะแนวรับทีมเยือนได้ตลอดทั้งเกม น่าเสียดายที่เขาทิ้งโอกาสทำแฮตทริกในเกมนี้

โค้ช : มาซาทาดะ อิชิอิ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
กุนซือชาวญี่ปุ่น วางแท็คติคมาได้ยอดเยี่ยม จนช่วยให้ ปราสาทสายฟ้า ครองเกมเบ็ดเสร็จ ทั้งในแง่วิธีเข้าทำที่หลากหลาย และ ไล่เพรสซิ่งบีบพื้นที่คู่แข่ง ก่อนบุกถล่ม หนองบัวฯ 3-0 ปิดจ็อบคว้าแชมป์ไทยลีก สมัยที่ 7 มาครองได้สำเร็จ

Revo Thai League BEST XI : ประจำสัปดาห์ที่ 26
โกล ประเทศ
โฆษณา