Rank It Up : 10 นัดยิงถล่มทลายในฟุตบอลโลก

เกมกับเกาหลีเหนือ ในฟุตบอลโลก 2010 เป็นเกมที่ คริสเตียโน โรนัลโด้ ประเดิมประตูแรกให้โปรตุเกส และเป็นประตูเดียวของเขาในทัวร์นาเม้นท์นั้น

ราอูล ไมเรเรส, ซิเมา, ฮูโก้ อัลเมด้า, เลียดสัน และ ติอาโก้  ช่วยกันทำประตูที่เหลือทำให้เป็นเกมที่สมบูรณ์แบบของพวกเขา

โปแลนด์ เอาชนะสามเกมรวดในรอบแบ่งกลุ่มในฟุตบอลโลกปี 1974 ปีที่พวกเขาคว้าอันดับสามมาครอง และหนึ่งในนั้นมีเกมที่ถล่มเฮติ 7-0 อยู่ด้วย

7 ประตูของโปแลนด์มาจากแฮตทริคของ แอนด์เซจ ซาร์มาช กับอีกคนละสองประตูจาก เกร์กอร์ซ ลาโต้, เจอร์ซี กอร์ดอน และ คาซิเมิร์ซ เดย์นา

ฟุตบอลโลก 1954 คือปีที่มีการถล่มประตูกันมากที่สุด โดยเกมที่ ตุรกี เอาชนะ เกาหลีใต้ 7-0 เป็นหนึ่งในเกมที่มีการยิงกันมากกว่า 6 ประตู

แค่เพียงในรอบแบ่งกลุ่มที่มี ตุรกี, เกาหลีใต้, เยอรมันตะวันตก และ ฮังการี ก็มีการยิงกันรวมถึง 32 ประตู

ฟุตบอลโลกปี 1954 คือฟุตบอลโลกครั้งแรกของ สก็อตแลนด์ โดยในปีดังกล่าวพวกเขาเดินทางไปแข่งขันด้วยนักเตะเพียง 13 คนเท่านั้น 

หลังจากเกมแรกพ่าย ออสเตรีย แบบได้ลุ้น 0-1 เกมต่อมาสก็อตแลนด์ก็ต้องเจอฝันร้ายเมื่อถูก อุรุกวัย ถล่มแบบไม่ไว้หน้าถึง 7-0

ฟุตบอลโลกปี 2002 เยอรมันเปิดฉากรายการได้อย่างร้อนแรงด้วยการไล่ถล่ม ซาอุดิ อาระเบีย ไปถึง 8-0

ปีดังกล่าวอินทรีเหล็กเต็มไปด้วยตัวจบสกอร์ชั้นยอด โดย 8 ประตูมากจากแฮตทริคของ มิโลสลาฟ โคลเซ และอีกคนละประตูจาก มิคาเอล บัลลัค, คาร์สเทน ยังเคอร์, โธมัส ลิงเค, โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ และ เบิร์นด์ ชไนเดอร์

อุรุกวัยเล่นเพียงนัดเดียวเท่านั้นในรอบแบ่งกลุ่มหลัง ฝรั่งเศส ขอถอนตัวจากการแข่งขัน

ออสการ์ มิเกวซ ซัดคนเดียวสามประตูช่วยให้ทีมถล่มโบลิเวีย 8-0 ก่อนที่ปีดังกล่าวพวกเขาจะก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์โลกสมัยที่สองได้สำเร็จ

ฟุตบอลโลกปี 1938 สวีเดน ต้องโคจรมาพบกับ คิวบา ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยความคาดหมายว่าจะเป็นเกมที่ยากและออกมาสูสี

แต่กลับกลายเป็นงานง่ายของพลพรรคไวกิ้งและเป็นฝันร้ายของ คิวบา เมื่อเกมจบลงด้วยชัยชนะขาดลอยถึง 8-0 และนับเป็นหนึ่งในเกมรอบน็อคเอ้าท์ที่ยิงประตูมากที่สุด 

ฟุตบอลโลก 1974 ซาอีร์หรือคองโกในปัจจุบัน ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

แต่เวิลด์คัพครั้งแรกของเขาก็ถือว่าเป็นงานหนักเลยทีเดียว เมื่อถูกจับฉลากเข้ามาอยู่ในกลุ่ม 2 ร่วมกับ บราซิล, ยูโกสลาเวียและสก็อตแลนด์ ซึ่งพวกเขาแพ้รวดทั้งสามนัด โดยเฉพาะเกมที่สองกับ ยูโกสลาเวียที่ขาดลอยถึง 0-9

1954 คือยุคทองของวงการฟุตบอลฮังการี โดยพวกเขาคือหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ของทัวร์นาเม้นท์นั้น และตอกย้ำความร้อนแรงด้วยการถล่มเกาหลีใต้ 9-0 ในเกมที่สอง

เฟเรนซ์ ปุสกัส และเพื่อนร่วมทีมพาฮังการีผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศปีดังกล่าว แต่กลับอกหักเมื่อพ่ายเยอรมันตะวันตก 2-3 ได้แค่รองแชมป์เท่านั้น

เอล ซัลวาดอร์ ผ่านรอบคัดเลือกเข้ามาเล่นในฟุตบอลโลก 1982 ได้อย่างปาฏิหาริย์ทั้งที่ปีดังกล่าวในประเทศมีปัญหาสงครามกลางเมือง 

แต่เหมือนพวกเขาใช้ปาฏิหาริย์หมดไปตั้งแต่รอบคัดเลือกเมื่อถูก ฮังการี ถล่มยับถึง 10-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม อย่างไรก็ตามทั้งสองทีมก็จอดป้ายเพียงรอบแรกทั้งคู่ และเป็น เบลเยียม กับ อาร์เจนตินา ที่ได้เข้ารอบต่อไป