RANK IT UP : รวมดีลน่าจดจำเส้นตายตลาด ม.ค. พรีเมียร์ลีก

เฟร์นานโด ตอร์เรส ย้ายจากลิเวอร์พูลมาร่วมทีมเชลซีด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์เป็นสถิติของเกาะอังกฤษในปี 2011  ซึ่ง 'เอล นินโญ' ย้ายมาร่วมทัพสิงห์บลูส์เนื่องจากต้องการคว้าแชมป์และล่าความสำเร็จหลังไม่สามารถทำได้ในถิ่นแอนฟิลด์

ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะมีช่วงเวลายอดเยี่ยมในการค้าแข้งกับยอดทีมแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ โดยกดไปถึง 81 ประตูและสอดประสานเกมรุกกับ สตีเฟน เจอร์ราร์ด ได้อย่างลงตัว ทำให้ชื่อของเขาถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกในตอนนั้น แต่ทว่ามันกลับเป็นไปได้ไม่สวยหรูนักกับการย้ายมาค้าแข้งในสแตมฟอร์ด บริดจ์

ตอร์เรส ทำประตูแรกให้กับเชลซีได้ในเกมเจอเวสต์แฮมเมื่อวันที่ 23 เมษายน ปี 2011 หลังจากทำประตูไม่ได้ยาวนานถึง 903 นาที ถึงอย่างนั้นเขาได้มีส่วนสำคัญในการพาทีมทะลุเข้าชิงและคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองในปี 2012

ช่วงเวลาที่กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์จะมีทั้งดีและร้ายผสมกัน แต่ปฺฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือหนึ่งในกองหน้าที่มีทักษะและความเฉียบคมมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์สโมสร

โดยลิเวอร์พูลคว้าตัวเขามาจากอาแย็กซ์ในปี 2011 เพื่อมาประสานงานกับ แฟร์นานโด ตอร์เรส โดยเขาทำทำประตูแรกให้ทีมในนัดประเดิมสนามที่พบสโต๊ค ซิตี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2011

แม้ว่าเขาจะทำประตูในพรีเมียร์ลีกได้เพียง 4 ประตูเท่านั้นในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก แต่หลังจากปรับตัวเขาก็ได้กลายนักเตะคนสำคัญของทีมในอีกหลายปีต่อมา โดยสถิติการพังประตูของเขานั้นดีขึ้นตามลำดับจาก 11 ประตูในฤดูกาล 2011/12, 23 ประตูในฤดูกาล 2012/13 และ 31 ประตูในฤดูกาล 2013/14 

ซัวเรซ กลายเป็นหัวใจสำคัญในทีมลิเวอร์พูลชุดที่เกือบจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ในปี 2014 ภายใต้การคุมทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทืมบาร์เซโลนาในช่วงซัมเมอร์

หนึ่งในดีลที่ลิเวอร์พูลคว้าตัวมาร่วมทีมแบบฉุกละหุก ทัพหงส์แดงดำเนินเรื่องอย่างฉับไวด้วยการคว้า แคร์โรลล์ จากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เพื่อมาทดแทนการย้ายของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ในเดือนมกราคมปี 2011 ซึ่งเป็นการทุบสถิติสโมสร 35 ล้านปอนด์มาร่วมทีมในเวลานั้น

แต่ทว่า แคร์โรลล์ กลับประสบปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นและอาการบาดเจ็บ ทำให้ไม่สามารถเติมเต็มช่องว่างที่ ตอร์เรส ทิ้งไว้ โดยเจ้าตัวทำไปได้เพียง 11 ประตูจาก 2 ฤดูกาลที่ค้าแข้งกับทีมเท่านั้น ก่อนโดยปล่อยให้เวสต์แฮม ยูไนเต็ดในปี 2012

ไอ้ปืนใหญ่ติดตามฟอร์มการเล่นของกองหน้าทีมชาติกาบองมาสักระยะ ก่อนที่จะปิดดีลคว้าตัวมาร่วมทีมได้ในวันเส้นตายตลาดเดือนมกราคมปี 2018

โดยในตอนนั้น อาร์เซนอล ต้องการคว้าตัว โอบาเมยอง มาร่วมทีม แต่ทาง ดอร์ทมุนด์ ไม่พร้อมปล่อยนักเตะออกจากทีมหากยังไม่ได้ตัวแทน ซึ่งพวกเขาเล็ง มิชี บัตชัวยี ของเชลซีอยู่ ซึ่งทางสิงห์บลูก็กำลังเจรจาคว้า โอลิวิเยร์ ชิรูด์ มาร่วมทีมเช่นกัน

สุดท้าย ดีลทั้ง 3 เสร็จสิ้นทันเส้นตายตลาดซื้อขายนักเตะ โดย โอบาเมยอง ได้ย้ายซบอาร์เซนอล, บัตชัวยี ได้ย้ายไปแทนที่ของเขากับดอร์ทมุนด์ และ ชิรูด์ ย้ายสวนทางไปเชลซี

กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสย้ายจากอาร์เซนอลไปร่วมทีมเชลซีคู่ปรับร่วมเมืองในปี 2018 โดยเขาทำไปได้ 5 ประตูในฤดูกาลเปิดตัวกับทีม และอีก 13 ประตูในฤดูกาลต่อมา

ชิรูด์ มีส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลที่สองของเขากับทีม โดยเขามีชื่อเป็นผู้ทำประตูก่อนช่วยทีมเอาชนะ 4-1 คว้าแชมป์มาครองในฤดูกาลที่สองของเขากับทีม

โดย ชิรูด์ อาจได้ย้ายทีมในวันเส้นตายตลาดเดือนมกราคมอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งเจ้าตัวตกเป็นข่าวลือกับทั้ง อินเตอร์ มิลาน, ลาซิโอ และท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์

นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเชลซีในปี 2016, มิชี บัตชัวยี่ ไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้ และถูกปล่อยตัวให้หลายทีมยืมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เริ่มจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในวันเส้นตายเดือนมกราคมปี 2018

โดยจะเรียกว่าเป็นความบังเอิญก็ไม่แปลก เมื่อเจ้าตัวกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูมากกว่าหนึ่งลูกในนัดประเดิมสนามบุนเดสลีกานับตั้งแต่ โอบาเมยอง คนที่เขาย้ายมาทดแทนช่องวางนั้น

หลังสร้างชื่องโด่งดังกับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก แนวรุกทีมชาติรัสเซีย ย้ายมาร่วมทีมอาร์เซนอลในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะเดือนมกราคมปี 2009

แนวรุกทัพหมีขาว ปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว โดยหนึ่งในช่วงเวลาที่น่าจดจำมากที่สุดของเขากับทีมคือการเหมาคนเดียว 4 ประตู พาทีมเอาเสมอลิเวอร์พูล 4-4 สุดระทึก

ลูคัส มูรา คือการเซ็นสัญญาครั้งล่าสุดในรอบ 18 เดือนของทีมตอนที่เขาย้ายจากปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาร่วมทีมในปี 2018

โดยช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดของเขากับทีมคือการยิงแฮตทริกเขี่ยอาแย็กซ์ตกรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวลงสนามมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลังก่อนกด 3 ประตูพาทีมเอาชนะ 3-2 เข้ารอบด้วยประตูรวม ส่งทีมเข้าชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรก

ดาวเตะทีมชาติปารากวัย ย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติสโมสรของทัพสาลิกาดงที่ 21 ล้านปอนด์ในวันที่ 31 มกราคม ปี 2019 ซึ่งยังเป็นสถิติใหม่ของนักเตะจากเมเจอร์ลีกอีกด้วย

มิเกล อัลมิรอน ย้ายจาก แอตแลนต้า ยูไนเต็ด มาร่วมทีมนิวคาสเซิล โดยเขาต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งปีในการเบิกสกอร์แรกกับทีม ซึ่งเป็นการทำประตูใส่คริสตัล พาเลซ ในวันที่ 21 ธันวาคม ปี 2019

ฮาเวียร์ มาสเคราโน ย้ายจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด มาร่วมทีมลิเวอร์พูลด้วยสัญญายืมตัวในเดือนมกราคมปี 2007

ซึ่งดีลของเขาเกือบจะไม่เกิดขึ้นแล้ว เมื่อดีลไปขัดกับกฎของฟีฟ่าที่ห้ามนักเตะย้ายไปเล่นให้มากกว่าสองสโมสรในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 มิถุนายนปีถัดมา ซึ่งในช่วงเวลานั้น มาสเคราโน ได้เล่นให้กับ โครินเธียนส์ และ เวสต์แฮม

อย่างไรก็ตาม ฟีฟ่า ได้อนุมัติดีลดังกล่าวในวันที่ 31 มกราคมปี 2007 ก่อนจะย้ายมาร่วมทัพหงส์แดงอย่างถาวรในช่วงซัมเมอร์

โดยแนวรับทีมชาติอาร์เจนตินาเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของ ราฟา เบนิเตซ ดังเพลงเชียร์ของเดอะ ค็อป "โว้ว โว เรามีแผงมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลก ชาบี อลอนโซ, โมโม ซิสโซโก้/ เจอร์ราร์ด และ มาสเคราโน.."

ชาบี อลอนโซ เป็นคนชักชวนให้เพื่อนรักของเขาอย่าง มิเกล อาร์เตต้า ย้ายจากเรอัล โซเซียดาด มาร่วมทีม เอฟเวอร์ตัน ในวันที่ 31 มกราคม ปี 2005 ด้วยสัญญายืมตัวก่อนย้ายเป็นการถาวรตามมา

อาร์เตต้า ค้าแข้งกับทอฟฟี่สีน้ำเงินยาวนานถึง 8 ฤดูกาล ภายใต้การคุมทีมของ เดวิด มอยส์ ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมอาร์เซนอล ในปี 2011 ก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2016 โดยหลังจากนั้น อาร์เตต้า ก็ไปฝึกวิชาเป็นมือขวาของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจะกลับมารับตำแหน่งกุนซือไอปืนใหญ่แทนที่ของ อูไน เอเมรี

นิโกลาส์ อเนลก้า คือหนึ่งในนักเตะที่ย้ายทีมในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะเดือนมกราคม

อดีตกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส ย้ายไปร่วมทีมฟเนร์บาห์เชในวันสุดท้ายของเดือนมกราคมปี 2006 ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์​โดยเขาคว้าแชมป์ซูเปอร์ ลีก ร่วมกับทีมและทำไปได้ 16 ประตู

เควิน เดอ บรอยน์​ คือนักเตะที่เชลซีคว้าตัวมาร่วมทีมจาก เกงค์ ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ในวันที่ 31 มกราคม ปี 2012 ก่อนปล่อยให้ เกงค์ ยืมตัวต่อไปจนจบฤดูกาล

เดอ บรอยน์ ย้ายมาร่วมทัพสิงห์บลูส์ในช่วงซัมเมอร์หลังจากนั้น และย้ายไปเล่นกับแวร์เดอร์​ เบรเมน ต่ออีกหนึ่งฤดูกาลต่อมา ก่อนที่เขาจะย้ายออกจากเชลซีเป็นการถาวรไปร่วมทีมโวล์ฟบวร์กในปี 2014 ซึ่งเจ้าตัวได้ลงเล่นให้กับทัพสิงห์บลูส์เพียงแค่ 3 นัดเท่านั้น (และทั้งหมดมาจากเกมลีกคัพในฤดูกาล 2013/14)

สุดท้ายเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่คว้าตัวมาร่วมทีมในปี 2015 และหลังจากนั้นคงไม่ต้องพูดถึงความยอดเยี่ยมของแนวรุกทีมชาติเบลเยียมรายนี้