
Goal
NXGN 2020 : 10 สุดยอดวอนเดอร์คิดลูกหนังไทย

10สัมพันธ์ เกษี ชลบุรี เอฟซี - อายุ 20 ปี
แบ็คซ้ายวัย 20 ปี มีเส้นทางลูกหนังที่ต่างจากดาวรุ่งส่วนใหญ่ เมื่อไม่ได้เติบโตมาจากสถานบันชื่อดัง แต่เขาถูกชุบเลี้ยงมาจาก โรงเรียนชุมชนบ้านบุเปือย อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี และ เพิ่งคัดเข้ามาอยู่กับอคาเดมี่ของ ชลบุรี เอฟซี เมื่อตอนอายุ 18 ปี แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรค..
สัมพันธ์ ถูกส่งไปเก็บสกิลฝีเท้ากับ นครนายก เอฟซี ต่อด้วย บ้านบึง ภูเก็ตฯ ในสัญญายืมตัว และ ด้วยพัฒนาการที่ก้าวกระโดด ในฤดูกาล 2020 เขาจึงถูก ชลบุรี เอฟซี ดึงขึ้นสู่ชุดใหญ่ เป็นครั้งแรก พร้อมได้รับโอกาสจากจอมปั้นเด็กอย่าง สะสม พบประเสริฐ กุนซือใหญ่ ให้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเป็นที่เรียบร้อย ในนัดที่เปิดบ้านชนะ นครราชสีมา เอฟซี 3-1
ที่สำคัญ สัมพันธ์ ยังผ่านการติดเยาวชนทีมชาติไทยมาแล้ว ตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี , 19 ปี และ 22 ปี ที่เดินทางไปคว้ารองแชมป์อาเซียน 2019 ที่ประเทศกัมพูชา ภายใต้การคุมทัพของ อเล็กซานเดร กามา

9กรวิชญ์ ทะสา เอสซีจี เมืองทองฯ - อายุ 19 ปี
“เขาเป็นอนาคตของสโมสร และ อนาคตของทีมชาติไทย” นี่คือคำพูดของ ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก อดีตกุนซือเอสซีจี เมืองทองฯ ในฤดูกาล 2019 ที่แสดงให้เห็นว่าเด็กหนุ่มรายนี้ มีความสามารถแค่ไหน ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ กรวิชญ์ ถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ครั้งแรก
กรวิชญ์ เข้ามาอยู่อคาเดมี่ของ กิเลนผยอง ตั้งแต่อายุ 12 ปี และ เป็นเยาวชนที่มีผลงานโดดเด่นที่สุด จากนั้นเริ่มต้นเทิร์นโปรฟุตบอลอาชีพกับ บางกอก เอฟซี ก่อนไปแจ้งเกิดเต็มตัวกับ อุบล ยูเอ็มทีฯ เมื่อช่วงเลกสอง ฤดูกาล 2018 เมื่อยิงไปถึง 4 ประตู จาก 8 นัด บนวัย 18 ปี.. กระทั่งในที่สุด เขาก็ถูก เอสซีจี เมืองทองฯ ดึงขึ้นสู่ชุดใหญ่ เมื่อฤดูกาล 2019 และ ปัจจุบัน เป็นหนึ่งในขุนพลเลือดใหม่ของทีม
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ กรวิชญ์ ยังมีโอกาสเดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับ เจฟ ยูไนเต็ด ทีมในศึกเจ 2 ลีก ญี่ปุ่น รวมถึง ยังผ่านการติดเยาวชนทีมชาติไทยมาแล้วหลายชุด ทั้ง U16 , U18 , U19 และ U22

8ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ชลบุรี เอฟซี - อายุ 18 ปี
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า โรคธาลัสซีเสีย ทำให้ ชาญณรงค์ ก้าวมาเป็นนักฟุตบอลอย่างเช่นทุกวันนี้..
ดาวรุ่งวัย 18 ปี เจอบททดสอบจิตใจตั้งแต่เด็ก เมื่อถูกตรวจพบเป็น ธาลัสซีเมีย ซึ่งขณะนั้นแพทย์แนะนำว่าให้ออกกำลังกาย ก่อนที่ ชาญณรงค์ จะเลือกเล่นฟุตบอล กระทั่งเอาชนะโรคร้ายดังกล่าว อีกทั้งยังขับเคลื่อนความฝันของเขามาจนถึงปัจจุบัน
ชาญณรงค์ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับโรงเรียน บุรารักษ์ ในจังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นมีโอกาสเข้าไปอยู่อคาเดมี่ของ เอสซีจี เมืองทองฯ ถึง 5 ปี ก่อนเลือกออกมาความท้าทายใหม่กับทีมเยาวชนของ ชลบุรี เอฟซี และ ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่นเกินอายุ เขาจึงถูก ฉลามชล ดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ เป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่ฤดูกาล 2019

7จิรอัชต์ วิงวอน สมุทรปราการ ซิตี้ - อายุ 19 ปี
นี่คือผู้เล่นโนเนมที่สุด ที่ติดโผเข้ามา แต่ขณะเดียวกัน เขาก็คือดาวรุ่งที่น่าสนใจที่สุดเช่นกัน จากผลงานที่แสดงออกมา
กองกลางวัย 19 ปี เพิ่งย้ายจาก เมืองนนท์ บ้านคุณแม่ เอฟซี ทีมในศึกไทยลีก 4 มาอยู่กับ สมุทรปราการ ซีตี้ ในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ เด็กหนุ่มคนหนึ่ง จะก้าวจากลีกรากหญ้า ขึ้นมาโลดแล่นบนลีกสูงด แต่ จิรอัซต์ กลับพิสูจน์ตัวเองได้อย่างรวดเร็วจนเหลือเชื่อ..
เมื่อตลอด 4 นัดที่ผ่านมา เขาได้รับความเชื่อใจจาก มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่น ให้โอกาสลงเล่นครบทุกนัด ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่สามารถช่วยทีมปลดล็อคคว้า 3 คะแนนแรกได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นี่คือจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยม และ เป็นอีกหนึ่งเพชรเม็ดงามของวงการฟุตบอลไทย ในอนาคต

6ชยธร เทพสุวรรณวร เอฟซี เอฟซี โตเกียว U23 - 19 ปี
นอกเหนือจากดาวดังอย่าง ชนาธิป , ธีราทร และ ธีรศิลป์ แล้ว ชยธร เป็นแข้งไทยอีกหนึ่งราย ที่เพิ่งย้ายไปเล่นที่ญี่ปุ่นกับ เอฟซี โตเกียว U23 ในศึกเจ 3 ลีก
ห้องเครื่องวัย 19 ปี เข้าสู่รั้วอคาเดมี่ของ ทรู แบงค็อกฯ ตั้งแต่อายุ 15 ปี เขาเป็นดาวรุ่งที่โดดเด่นในเรื่องฝีเท้า และ มีวินัยมากที่สุดคนหนึ่ง ทำให้ระหว่างนั้น ชยธร รับหน้าที่กัปตันทีมเยาวชนของทีมแทบทุกชุด ไล่ตั้งแต่ U15 , U17 , U19 และ ทีมบี กระทั่งถูก มาโน โพลกิ้ง ดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ครั้งแรก เมื่อฤดูกาล 2019 .. และ ภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี เขาก็ได้รับโอกาสครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต ด้วยการถูกส่งไปพิสูจน์ตัวเองที่ญี่ปุ่น
“ผมดีใจ และ ภูมิใจมากๆ ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับครอบครัว แต่ตอนนี้มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นครับ ผมคอยบอกตัวเองอยู่เสมอว่าเราต้องพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ และ แน่นอนว่า ผมจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ในการเล่นที่ญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่ตัวผมเอง แต่เพื่อน้องๆ รุ่นต่อไปด้วยครับ” ชยธร แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม

5เบน เดวิส ฟูแล่ม - 19 ปี
กองกลางวัย 19 ปี เริ่มต้นฝึกฟุตบอลที่โรงเรียนกีฬาในสิงคโปร์ ก่อนที่ปี 2016 จะเจอจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อเขาได้รับทุนการศึกษาจาก ฟูแลม ให้ไปเล่าเรียนที่อังฤกษ และ ฝึกฝนกับทีมเป็นเวลา 2 ปี
เดวิส ใช้เวลาปรับตัวไม่นาน.. เพราะหลังจากเข้าสู่ระดับไฮสคูล เขาก็ได้รับสัญญาเป็นเด็กฝึกหัดของ ฟูแลม ทันที และ ด้วยฝีเท้าที่เหนือกว่าเด็กท้องถิ่นคนอื่นๆ เขาก็ไต่เต้าจนถึงทีม U18 และ U23 พร้อมได้สัญญาอาชีพครั้งแรก ในปี 2018 บนวัยเพียง 17 ปี เท่านั้น และ ได้รับโอกาสประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ของทีม เป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับตั้งเป้า เป็นนักเตะไทยคนแรก ที่ได้ลุยศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในอนาคต
ปัจจุบัน เบน เดวิส เพิ่งตัดสินใจเลือกเล่นให้ ทีมชาติไทย ในฐานะแผ่นดินเกิดของคุณแม่ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา กับทีม U23 ในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2020 รอบสุดท้าย ที่ช่วยให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่คืออีกหนึ่งแข้งความหวังใหม่ของ ช้างศึกชุดใหญ่ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า..

4กนกพล ปุษปาคม โปลิศ เทโร 20 ปี
ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น น่าจะเป็นสุภาษิต ที่ตรงที่สุดกับชีวิตของ กนกพล ในตอนนี้ เมื่อเขากำลังเจริญรอยตามคุณพ่อผู้ล่วงลับอย่าง อรรถพล ปุษปาคม ในเส้นทางลูกหนัง..
กนกพล เข้ามาอยู่กับอคาเดมี่ของ โปลิศ เทโร เอฟซี เมื่อปี 2018 ก่อนฉายแววเด่นทันทีหลังเข้าร่วมทีมได้ไม่นาน ทำให้ฤดูกาล 2019 เขาถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ครั้งแรก ในศึกเอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ (ไทยลีก2) และ มีส่วนสำคัญพา มังกรโล่เงิน คัมแบ็คสู่โตโยต้า ไทยลีก ได้ภายในปีเดียว พร้อมรักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นมาได้อย่างต่อเนื่อง..
ปัจจุบัน กนกพล ในวัย 20 ปี ยังเป็นกำลังหลักของ มังกรโล่เงิน ภายใต้การคุมทัพของ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค เมื่อออกสตาร์ทเป็นตัวจริงครบทั้ง 4 นัด ช่วยทีมเก็บไป 9 คะแนน รั้งอันดับ 5 ของตาราง และ หนึ่งในนัดที่สร้างชื่อที่สุด คือเกม ‘เดบิวต์ ไทยลีก’ ที่เปิดบ้านโค่นรองแชมป์เก่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-0

3กฤษดา กาแมน ชลบุรี เอฟซี - อายุ 20 ปี
“เด็กคนนี้มีของดีอยู่ในตัว จะเหลือแค่เก็บประสบการณ์อีกนิดหน่อย ผมเชื่อว่าอีก 2-3 ปี เด็กคนนี้จะเป็นตัวหลักของทีม ชลบุรี เอฟซี แน่นอน” เทิดศักดิ์ ใจมั่น อดีตกุนซือฉลามชล ในขณะนั้น กล่าวถึง กฤษดา กาแมน หลังดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปี 2017 และ ทั้งหมดก็เป็นจริงในปัจจุบัน
กฤษดา ถูก ชลบุรี เอฟซี ดึงเข้าสู่อคาเดมี่ตั้งแต่อายุ 13 ปี ก่อนเป็นกำลังสำคัญของทีมเยาวชนมาโดยตลอด กระทั่งถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 2017 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงครบทั้ง 4 นัดแรก ในปีนี้ อีกทั้งยังเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ ที่เล่นได้ทั้งกองกลางเชิงรับ และ เซนเตอร์ฮาล์ฟ ที่สำคัญยัง เคยไปทดสอบฝีเท้ากับ คาโงชิมา ยูไนเต็ด ทีมในศึกเจ 3 ลีก ญี่ปุ่น ด้วย
นอกจากนี้ กฤษดา ยังเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทย ตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ไต่เต้าจนมาถึงรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี โดยเพิ่งช่วยทีมผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2020 รอบสุดท้าย และ เชื่อว่าเขาจะเป็นตัวเลือกที่ดีของทีมชุดใหญ่ ในอนาคต

2เอกนิษฐ์ ปัญญา สิงห์ เชียงราย - อายุ 20 ปี
10 ประตู 6 แอสซิสต์ พร้อมช่วย กว่างโซ้งมหาภัย ผงาดคว้าแชมป์โตโยต้า ไทยลีก ครั้งแรก เมื่อฤดูกาล 2019 เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า เอกนิษฐ์ ปัญญา คืออีกหนึ่งสุดยอดดาวรุ่งแห่งวงการฟุตบอลไทย
โดย เอกนิษฐ์ เข้าร่วมอคาเดมี่ของ สิงห์ เชียงรายฯ ตั้งแต่อายุ 14 ปี และ ด้วยพัฒนาการอันน่าทึ่ง หลังจากนั้นเพียงปีเดียว เขาถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ทันที ก่อนมีโอกาสประเดิมสนามในโตโยต้า ไทยลีก ด้วยวัยเพียง 15 ปี เมื่อฤดูกาล 2015 และ ในขณะนั้น ยังสร้างสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยสุดที่ทำประตูได้ ในเกมที่บุกแพ้ เอสซีจี เมืองทองฯ 4-1
ปัจจุบัน เอกนิษฐ์ ปัญญา อยู่ระหว่างรักษาอาการบาดเจ็บ ซึ่ง แน่นอนว่า เมื่อกลับมาอยู่ในสภาพร่างกายที่สมบูรณ์อีกครั้ง เขาจะยังเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทั้ง กว่างโซ้งมหาภัย และ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ เฉกเช่นที่ผ่านมา ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่ทำประตูแรกได้แล้ว ในเกมที่เปิดบ้านชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) 2-1

1ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด - อายุ 17 ปี
กองหน้าวัย 17 ปี เพิ่งจบการศึกษาระดับมัธยมไปหมาดๆ ในขณะที่เส้นทางลูกหนังนั้น ก้าวกระโดดเกินอายุ
ศุภณัฏฐ์ ถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ของ ปราสาทสายฟ้า ตั้งแต่อายุยังไม่ครบ 15 ปีเต็ม และ นับแต่นั้นมา เขาก็แสดงให้เห็นถึงความมหัศจรรย์เรื่อยๆ รวมถึง กลายเป็นเจ้าของสถิติมากมาย ทั้งผู้เล่นอายุน้อยสุด ที่ลงเล่นโตโยต้า ไทยลีก , ผู้เล่นอายุน้อยสุดที่ทำประตูได้ ในโตโยต้า ไทยลีก และ ผู้เล่นไทยอายุน้อยสุดที่ยิงประตูได้ ในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่สำคัญ ยังเป็นเจ้าของสถิติผู้เล่นอายุน้อยสุด ที่ลงเล่นให้ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในศึกคิงส์คัพ เมื่อปี 2019
ปัจจุบัน ศุภณัฏฐ์ ในวัย 17 ปี เป็นกำลังสำคัญของทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ขาประจำในช้างศึกชุดใหญ่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ เมื่ออายุครบ 18 ปี เขายังจะมีโอกาสไปทดสอบฝีเท้าที่ อังกฤษ กับ เลสเตอร์ ซิตี้ และ นี่คือสุดยอดดาวรุ่งอันดับ 1 ในสายตาของเรา
โฆษณา