The Last Dance Alex FergusonGetty

ฝากไว้ในความทรงจำ : 10 เรื่องราว The Last Dance ในโลกฟุตบอล

  • Sir Alex FergusonGetty

    ฤดูกาลสุดท้ายของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับแมนฯยูไนเต็ด

    มีผู้จัดการทีมไม่กี่คนที่จะมีอิทธิพลต่อโลกลูกหนังได้เท่ากับ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

    'เฟอร์กี้' พาปีศาจแดงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 13 สมัย แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย และรายการอื่นอีกมากมาย และทำตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับแฟนบอลตอนรับตำแหน่งคือ "ผมจะโค่นลิเวอร์พูลลงจากบัลลังก์" ก่อนอำลาทีมไปในฤดูกาล 2012-13

    เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือจากฟุตบอลในฐานะหนึ่งในโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และหลังจากนั้นปีศาจแดงยังไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้อีกเลยจนถึงปัจจุบัน

  • โฆษณา
  • Leicester City 2016 Premier League championsGetty

    เทพนิยายของ เลสเตอร์ ซิตี้

    หากมีการพูดถึงแชมป์ลีกที่ไม่น่าเป็นไปได้ที่สุด เลสเตอร์ ซิตี้ ฤดูกาล 2015-16 จะต้องเป็นชื่อแรกๆที่ทุกคนนึกถึงแน่นอน

    ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้นในโลกฟุตบอลยุคปัจจุบัน บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกอย่าง แมนฯยูไนเต็ด, แมนฯซิตี้, เชลซี, ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล ต่างแย่งชิงความสำเร็จที่ชื่อว่า 'แชมป์พรีเมียร์ลีก' กันอย่างดุเดือด

    แต่ คลาดิโอ รานิเอรี ฝ่ากระแสเม็ดเงินมหาศาลและนักเตะระดับโลกของบรรดาบิ๊กทีมขึ้นมาผงาดคว้าแชมป์ได้อย่างเหลือเชื่อ เป็นแชมป์ประวัติศาสตร์ของสโมสร ที่จะถูกพูดถึงไปตลอดกาล

  • Francesco Totti - Roma

    ฤดูกาลอำลาของ ฟรานเชสโก้ ต็อตติ

    'นักเตะบางคน เกิดมาเพื่อบางสโมสร' และ ฟรานเชสโก้ ต็อตติ คือหนึ่งในนักเตะประเภทนั้น

    นักเตะฉายา 'เจ้าชายหมาป่า' อยู่กับ โรมา มายาวนานกว่า 28 ปีนับตั้งแต่ทีมเยาวชน รับใช้สโมสรไปมากกว่า 600 นัด ทำไป 250 ประตู 

    นี่คือนักเตะขวัญใจตลอดกาลของแฟนบอล หมาป่ากรุงโรม ซึ่งแน่นอนว่าชื่อของ ฟรานเชสโก้ ต็อตติ จะกลายเป็นตำนานของทีมที่ไม่มีใครจะเข้ามาแทนที่ได้อย่างแน่นอน 

  • ENJOYED THIS STORY?

    Add GOAL.com as a preferred source on Google to see more of our reporting

  • Liverpool celebrate 2019-20Getty Images

    ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2019-20

    30 ปีแห่งการรอคอยกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว!

    อดีตมหาอำนาจลูกหนังของวงการฟุตบอลอังกฤษ ต้องทนดูคู่แข่งอย่าง แมนยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 13 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 30 ปี

    แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะทำให้พรีเมียร์ลีกหยุดแข่งขันลงชั่วคราว แต่อย่างไรก็ตามแชมป์ฤดูกาลนี้น่าจะตกเป็นของพลพรรค หงส์แดง อย่างแน่นอน 

    หลังจากการรอคอย 30 ปี ปิดฉากลง แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคแห่งความยิ่งใหญ่ครั้งใหม่ของ ลิเวอร์พูล ก็เป็นได้

  • Lionel Messi, ArgentinaGetty

    เมสซี กับผลงานทีมชาติอาร์เจนตินา

    ไม่มีใครปฏิเสธว่า ลิโอเนล เมสซี คือหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีสุดในประวัติศาสตร์ หรืออาจจะดีสุดด้วยซ้ำ แต่ไม่ว่าเขาจะเก่งกาจแค่ไหน สิ่งที่เขาทำให้กับประเทศบ้านเกิดกลับดูไม่มีคุณค่ามากพอ

    แฟนบอลอาร์เจนตินาไม่ใช่ว่าไม่ชอบจอมทัพของ บาร์เซโลนา รายนี้ แต่คงไม่พูดเกินจริงนักหากจะบอกว่า พวกเขาไม่ได้ยอมรับในตัวของ เมสซี มากเท่ากับ ดิเอโก้ มาราโดนา 

    บางทีรองแชมป์ฟุตบอลโลก กับ รองแชมป์โคปา อเมริกา อาจไม่เพียงพอ และทุกความผิดพลาดของทีมชาติอาร์เจนตินา เหมือนกลายเป็นความผิดของ เมสซี ไปด้วย 

  • Steven Gerrard Demba BaGetty

    ฤดูกาล 2013-14 ของเจอร์ราร์ด

    อดีตกัปตัน ลิเวอร์พูล คือหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก แต่ไม่เคยได้แชมป์ลีก ที่ใกล้เคียงที่สุดเกิดขึ้นในฤดูกาล 2013-14

    "เราจะปล่อยให้แชมป์ฤดูกาลนี้หลุดมือไม่ได้" นี่คือสิ่งที่เขาบอกกับเพื่อนร่วมทีม ก่อนเกมที่หงส์แดงซึ่งไม่แพ้มา 11 นัดติดต่อกัน จะลงสนามพบ เชลซี ของโชเซ มูรินโญ

    ความผิดพลาดของเขาที่เสียบอลให้ เดมบา บา จนทำให้ทีมเสียประตูแรก ยังคงตามหลอกหลอนเขามาถึงทุกวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีส่วนทำให้ทีมชวดแชมป์ลีกในบั้นปลาย ถ้าคุณอยากพูดถึงความไม่แน่นอนในวงการกีฬา ฤดูกาล 2013-14 ของสตีเฟน เจอร์ราร์ด คือตัวอย่างที่ดี 

  • BARCELONA 2009Getty Images

    บาร์ซาฤดูกาล 2008-09 ของกวาร์ดิโอลา และ เอโต้

    เป๊ป กวาร์ดิโอลา เขามาสร้างปรากฏการณ์แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับ บาร์เซโลนา ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ทุกรายการตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในทีมที่ดีสุดในประวัติศาสตร์ด้วย

    มีข้อสงสัยเกิดขึ้นในตอนแรกเมื่อ กวาร์ดิโอลา เลือกจะหันหลังให้นักเตะอย่าง โรนัลดินโญ และ เดโก้ แต่กลับพยายามรั้ง ซามูเอล เอโต้ ให้อยู่กับทีมต่ออีกหนึ่งปี

    ซึ่งสุดท้ายแล้วฤดูกาลดังกล่าวดาวยิงชาวแคเมอรูนมีส่วนสำคัญช่วยให้ทัพอาซูลกรานาคว้าได้ทั้งแชมป์ลาลีก้า, โกปา เดล เรย์ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พิสูจน์ว่าเป็นการตัดสินใจที่เฉียบคมของ กวาร์ดิโอลา

  • Denmark Germany 1992 European ChampionshipGetty

    แชมป์ยุโรปของ เดนมาร์ก

    ก่อนศึกยูโร 1992 จะเริ่มเพียง 10 วัน ยูฟาประกาศตัดสิทธิ์ ยูโกสลาเวีย ไม่ให้ร่วมการแข่งขันเนื่องจากมีปัญหาการเมืองภายในประเทศ พร้อมกับให้ เดนมาร์ก ได้สิทธิลงแข่งแทนอย่างกระทันหัน

    นักเตะทัพโคนมซึ่งอยู่ระหว่างพักร้อนถูกเรียกตัวกลับมารับใช้ทีมชาติ บางคนเลือกจะปฏิเสธ ส่วนคนที่มาในตอนนั้นเชื่อว่าคงคิดแค่ขอทำผลงานออกมาให้ดีที่สุดเท่านั้นในฐานะมวยแทน

    อย่างไรก็ตาม เดนมาร์ก สร้างปาฏิหาริย์ด้วยการหักด่านทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ฝรั่งเศส และ เนเธอร์แลนด์ เข้าไปชิงชนะเลิศกับเยอรมันและเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 2-0 คว้าแชมป์ไปครองได้อย่างเหลือเชื่อ และเป็น"เทพนิยาย"ที่ถูกเล่าขานจนถึงทุกวันนี้ 

  • Ole Gunnar Solskjaer Manchester United Bayern Munich 1999Getty

    แมนฯยูไนเต็ด ฤดูกาล 1998-99

    "Football, bloody hell!" นี่คือคำพูดที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรรยายความรู้สึกหลังจบเกมกับ บาเยิร์น มิวนิค ที่สนามคัมป์นู

    แมนฯยูไนเต็ด พลิกเอาชนะ เสือใต้ 2-1 โดยได้สองประตูในช่วงทดเวลาเจ็บ คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมาครองได้สำเร็จ และเป็นแชมป์ที่สามของฤดูกาลต่อจาก พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ

    เป็นหนึ่งในสุดยอดนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ได้รับการยกย่องว่าตื่นเต้นมากที่สุด

  • Mourinho Porto 2003

    ปอร์โต้ของ โชเซ มูรินโญ

    วงการฟุตบอลเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในปี 2003 เมื่อชายชื่อ โชเซ มูรินโญ พาเอฟซี ปอร์โต้ คว้าแชมป์ยูฟา แชมปเปี้ยนส์ลีก ได้แบบสุดช็อค 

    ฤดูกาลดังกล่าวทำให้โลกได้รู้จัก "เดอะ สเปเชียลวัน" ที่ต่อมาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในกุนซือที่ดีที่สุดของโลก พาทีมคว้าแชมป์ได้กับทุกสโมสรทั้ง เชลซี, เรอัล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน และ แมนฯยูไนเต็ด 

0