Ronaldo GFXGOAL

Hall of Fame Vol. I - โรนัลโด้ ฟีโนมีนอน ผู้พลิกโฉมวงการฟุตบอล

การคัดเลือกนักเตะเข้าสู่ "หอเกียรติยศ" ของเราที่เต็มไปด้วยเหล่ายอดนักเตะฝีเท้าฉกาจฉกรรจ์มากมายในประวัติศาสตร์ลูกหนัง เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก, มียอดตำนานแข้งมากมายบนเวทีฟุตบอลอันสวยงามแห่งนี้มายาวนานกว่า 150 ปี และด้วยสาเหตุนี้ การคัดเลือกของเราไม่ได้มีเจตนาจะมองข้ามอดีตนักเตะชื่อดังคนไหนแต่อย่างใด เราตัดสินใจที่จะเริ่มต้น "หอเกียรติยศ" ของเราด้วยสุดยอดตำนานค้างฟ้าที่เป็นสัญลักษณ์ของช่วงปลายศตวรรษที่ผ่านมาและต้นศตวรรษใหม่ — โรนัลโด้ R9

เส้นทางการค้าแข้งของ โรนัลโด้ ถือว่าไม่เหมือนกับนักเตะคนอื่น ๆ : เรียกได้ว่าแฟนฟุตบอลทุกคนไม่ว่าจะคลั่งไคล้เกมลูกหนักมากเพียงใด ก็สามารถจดจำรูปลักษณ์, เอกลักษณ์ และทักษะฟุตบอลที่นับเป็นปรากฏการณ์ของ "เดอะ ฟีโนมีนอน" ได้ชัดเจนที่สุด

ประตูน่าเหลือเชื่อในนัดชิง ยูฟ่า คัพ 1998 ที่ ปารีส เกมพบ ลาซิโอ, ฝ่ากับดักล้ำหน้า แล้วสับหลอกผู้รักษาประตูด้วยท่าเอกลักษณ์ของเขา, ชูถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 พร้อมทรงผมที่ยังเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้, อาการบาดเจ็บเข่าที่ราวกับเป็นฝันร้ายของเขาที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก้ และภาพตรงบันไดเครื่องบินกลับบราซิลหลังจบฟุตบอลโลก 1998 เชื่อว่า 5 เหตุการณ์ที่กล่าวมาอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คนที่มาจากช่วงเวลาการค้าแข้งที่เป็นตำนาน และน่าจดจำของเขา

โรนัลโด้ ไม่ใช่แค่นักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม แต่เขาคือหนึ่งในตำนานที่พลิกโฉมโลกฟุตบอลไปในชั่วพริบตา ด้วยเทคนิคและฝีเท้าอันร้ายกาจของเขา เด็กหนุ่มจาก เบนโต ริเบโร ที่เขย่าวงการฟุตบอลในเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

  • Ronaldo PSV EindhovenGetty Images

    ถ้าหากไม่บาดเจ็บ...

    เป็นเรื่องยากที่จะเขียนถึงสุดยอดดาวยิงแซมบ้าผู้นี้โดยไม่มีคำชื่นชมรวมอยู่ด้วย มีเรื่องราวมากมายที่พูดและกล่าวถึง โรนัลโด้ แต่หนึ่งในคำถามที่ค้างคาใจหลาย ๆ คนคือเส้นทางการค้าแข้งของเขาจะเป็นอย่างไรหากไม่มีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บและสภาพร่างกาย?

    บางคนเชื่อว่าเขาจะยิ่งกลายเป็นตำนานมากกว่าในความเป็นจริง บางส่วนก็บอกว่าการที่เรื่องปล่อยให้เรื่องนี้เป็นคำถามต่อไปมันยิ่งทำให้เส้นทางของเขามีเรื่องราวให้พูดถึงมากกว่าในเรื่องของการเผชิญหน้ากับอุปสรรค

    การตัดสินใจย้ายไป พีเอสวี แบบที่หลายคนคาดไม่ถึง - แม้ได้รับความสนใจจาก มิลาน และ บาร์เซโลนา ในเวลานั้น เขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามันไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิดพลาด ด้วยการมีสองฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมในเนเธอร์แลนด์ ได้ปรับตัวเข้ากับฟุตบอลยุโรป โดยที่ไม่ด่วนไปเผชิญความยากลำบากในลีกเสือสิงห์อย่าง เซเรีย อา และ ลาลีกา ช่วงปลายยุค 90 อีกทั้งไม่ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากแฟนบอล

    แม้เขาจะเคยให้สัมภาษณ์ว่าการปรับตัวในเนเธอร์แลนด์ก็ไม่ใช่งานง่าย แต่การได้จดจ่อและลงเล่นต่อเนื่องกับคู่แข่งที่ไม่ยากเกินไป ทำให้เขาสนุกและไม่ได้จมอยู่กับการคิดถึง บราซิล บ้านเกิดมากเกินไปนัก

    ฤดูกาลที่สองในเนเธอร์แลนด์ มีช่วงที่ต้องพักจากอาการบาดเจ็บหัวเข่าเกือบครึ่งฤดูกาล แต่สุดท้ายฟอร์มและประสบการณ์ที่สั่งสมก็พร้อมสำหรับเขาที่จะย้ายไปร่วมทีม บาร์เซโลนา

    นับเป็นปีที่ยอดเยี่ยมกับทีมแคว้นคาตาลัน ด้วยการกด 34 ประตูจาก 37 เกมในลาลีกา, 47 ปประตูจาก 49 เกมทุกรายการ

    ฟอร์มการเล่นสะกดทุกสายตา, ความเร็วเหนือมนุษย์, การยิงประตูแบบถล่มทลาย และการล็อคหลบผู้รักษาประตูอันเป็นลายเซ็นของเขา ที่แทบไม่เคยได้เห็นมาก่อน

    สถิติแล้วสถิติเล่าที่เขาทำลายลง แทบจะทำให้เขาการันตีการคว้าบัลลงดอร์แบบเนิ่น ๆ ในเดือนพฤษภาคม ก่อนการประกาศรางวัลเดือนพฤศจิกายนซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นเขากลายเป็นนักเตะอินเตอร์ มิลานไปเรียบร้อยแล้ว

  • โฆษณา
  • Ronaldo Inter 97' 98'Getty Images

    ช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์และเลวร้ายที่สุดที่อินเตอร์

    ช่วงเวลาในสีเสื้ออินเตอร์ เรียกได้ว่าเป็นจุดสูงสุดในอาชีพของเขาที่กำลังเปล่งแสงอย่างเต็มที่ แต่กลับถูกพรากไปด้วยอาการบาดเจ็บที่พลิกโฉมเส้นทางการค้าแข้งของเขาไปได้เหมือนกัน

    เริ่มมีสัญญาณเตือนเขาตั้งแต่ก่อนนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 1998 ก่อนที่จะเผชิญอาการบาดเจ็บหัวเข่าสุดเลวร้ายในช่วงปี 1999-2000 มันฉุดรั้งช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดของเขาไปตลอดกาล ฉากสุดท้ายที่เขานั่งร้องไห้บนม้านั่งสำรองในเกมที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก เมื่อแชมป์สคูเด็ตโต้หลุดมือพวกเขาในช่วงเวลาโค้งสุดท้าย

    อย่างไรก็ตาม "เดอะ ฟีโนมีนอน" ไม่ยอมให้อะไรมาฉุดรั้งเขา แม้กระทั่งโชคชะตา เขาพยายามอย่างหนักเพื่อกลับมาลงสนาม และกลับมาเฉิดฉาย ทวงตำแหน่งบนจุดสูงสุดของเขา พา บราซิล เป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 พร้อมคว้าบัลลงดอร์สมัยที่สองไปครอง

    ว่ากันว่าก่อนนัดชิงฯ ฟุตบอลโลก 1998 คนที่สปอตไลต์จะส่องหาอาจไม่ใช่ ซีเนดีน ซีดาน ถ้า โรนัลโด้ ฟิตสมบูรณ์ ถ้านัดชิงฯในคราวนั้น จัดขึ้นอีก 24 ชั่วโมงต่อมา เรื่องราวมันอาจเปลี่ยนไปเลยก็ได้

    เขาคือนักเตะเพียงไม่กี่คนที่สามารถพาทีมชนะได้ด้วยตัวคนเดียว, ด้วยทักษะที่เพลิดเพลินผสมกับความดุดัน เด็ดขาด แสดงให้เห็นทักษะที่ทำให้แฟนบอลอ้าปากค้างมานักต่อนัก

    แม้ว่าหลังจากนั้น ร่างกายจะร่วงโรยไปตามกาลเวลา แต่ยังฝากผลงานเลื่องชื่อได้เป็นระยะ รวมถึงช่วงบั้นปลายที่กลับไปยิงประตูสำคัญ ๆ พา โครินเธียนส์ คว้าดับเบิลแชมป์ในบ้านเกิด

  • Ronaldo Brazil Germany 2002 World Cup finalGetty

    ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค์

    ความมุ่งมั่น, แน่วแน่, ลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง และความกล้าที่จะไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด ๆ ก็ตาม - โรนัลโด้ คือแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมจากคุณสมบัติทั้งสี่ข้อที่หยิบยกมา มันคือคุณลักษณะและคำจำกัดความของยอดนักกีฬาผู้ยิ่งใหญ่

    เรื่องราวการค้าแข้งของเขา ส่วนหนึ่งคือเรื่องราวการทวงคืน เส้นทางของเขาเริ่มต้นเหมือนเรื่องราวคลาสสิคทั่ว ๆ ไป : เด็กหนุ่มที่เติบโตจากความยากลำบาก ไร้ชื่อเสียงเงินทอง, ก่อนไต่เต้าขึ้นมาสู่แสงไฟในปารีส ในปี 2002 เพียงห้าปีหลังคว้าบัลลงดอร์สมัยแรก เขากลับขึ้นมาสู่จุดสูงสุด ถ้วยรางวัลบัลลงดอร์สมัยที่สองที่นักฟุตบอลทุกคนใฝ่ฝัน

    การกลับมาจากอาการบาดเจ็บหัวเข่าที่เลวร้ายถึงสองครั้ง คงเป็นเรื่องที่ยากไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แต่ โรนัลโด้ มีพลังที่จะไม่ยอมแพ้, เชื่อมั่นในตัวเอง และไม่ยอมที่จะยกธงขาวยอมแพ้ในตอนที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว เมื่อ ฟีฟ่า ตัดสินใจเพิ่มโควต้านักเตะในทีมจาก 22 เป็น 23 คนในฟุตบอลโลก 2022 ทำให้ บราซิล ใส่ชื่อ โรนัลโด้ โดยไม่กระทบแผลที่กุนซือพวกเขาวางไว้ก่อน

    หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี ให้โอกาส โรนัลโด้ ที่คว้าเอาไว้ได้แบบหมดจด เขากลับมาพร้อมทรงผมที่ยังเป็นที่พูดถึงจนทุกวันนี้ พาทีมก้าวไปคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ในแบบที่ ดิเอโก้ มาราโดนา เคยทำได้มาก่อน

  • Ronaldo 1998Getty Images

    กลายเป็นตำนานนอกสนาม

    เราต่างยกย่อง โรนัลโด้ เป็นตำนานวงการลูกหนัก เราเริ่มต้นบทความนี้โดยการพูดถึงช่วงเวลาที่สวยงามและน่าจดจำในอาชีพการค้าแข้ง สิ่งที่เขาเป็นมากกว่านักฟุตบอลคนอื่น ๆ คือการเป็นสัญลักษณ์ที่ขยายไปถึงนอกสนามฟุตบอล

    แคมเปญโฆษณากับแบรนด์ดังอย่าง Nike และ Pirelli เปิดประตูขยายฐานแฟน ๆ ที่บางส่วนไม่ได้ติดตามฟุตบอล แต่ก็ยังรู้จักเขาได้

    หนึ่งในเหตุการณ์ที่ถูกพูดถึคือ เขาไม่ใช่สิทธิ์ใช้ชื่อของเขาในเกม FIFA ปี 1999 ซึ่งเป็นภาคที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เรื่องมาจาการที่ โรนัลโด้ ให้สิทธิ์แบบ Exclusive กับทางเกม 

    Ronaldo V-Football ไปแล้วก่อนหน้านั้นทำให้ไม่มีเกมค่ายไหนสามารถใช้ชื่อจริงเขาได้จนถึงปี 2001

    ในเกมอื่นไม่สามารถใช้ชื่อโรนัลโด้, นาซาริโอ, หลุยส์หรือเดลิมาได้เลยทำให้มีการทดแทนด้วยชื่อกัลโช, No.9 หรือเบอร์เก้าที่ถูกเรียกจนติดปากจนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่เมื่อมีคนพูดกลุ่มคำเหล่านี้จะนึกถึงตัวเขาในทันที

    โรนัลโด้, R9 คือชื่อที่พวกเขาคุ้นเคยในการเรียกเขา รวมถึงฉายา "เดอะ ฟีโนมีนอน" หรือ “ปรากฏการณ์” เพราะเขาบันดาลให้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ เขาคือปรากฏการณ์อย่างแท้จริง