ช่วงเวลาในทีมชาติอาร์เจนตินาของ มาราโดนา ไม่ต่างกับที่สโมสรคือมีทั้งสุขและทุกข์ สาเหตุหลักๆก็เหมือนกันคือเขาได้รับการยกย่องอย่างมากไม่ต่างกับที่ นาโปลี ทำให้ทุกความสนใจจับจ้องมาที่เขาเมื่อกลับประเทศบ้านเกิด
ด้วยพรสวรรค์อันน่าทึ่งทำให้เขาได้ประเดิมสนามกับทีมชาติด้วยวัยเพียง 16 ปี แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้ใส่ชื่อดาวรุ่งรายนี้ในทีมชุดลุยฟุตบอลโลก 1978 แต่ เซซาร์ หลุยส์ เมน็อตติ กุนซือทัพฟ้าขาวเวลานั้นมองว่า มาราโดนา ยังเด็กเกินไปที่จะลงเล่นในทัวร์นาเม้นท์ที่มีแรงกดดันสูง และเขาอาจเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
ต่อมาในวัย 21 ปี มาราโดนา มีโอกาสติดทีมชาติไปลุยฟุตบอลโลก 1982 ที่สเปน แม้จะได้ลงเล่น 5 นัดโดยที่ไม่โดนเปลี่ยนตัวออก แต่ก็ไม่ใช่ทัวร์นาเม้นท์ที่น่าจดจำนักสำหรับเขา โดยในเกมที่แพ้ บราซิล เขาโดนไล่ออกจากสนามด้วย
อย่างไรก็ตาม อีก 4 ปีต่อมา เขาเติบโตขึ้นและเปลี่ยนเป็นคนละคน อาร์เจนตินา อาจมีทีมที่ดูไม่แข็งแกร่งเท่าเมื่อ 4 ปีก่อนหากดูจากรายชื่อ แต่พวกเขามี มาราโดนา ในเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์เต็มที่ทั้งร่างกายและจิตใจ
ฟอร์มการเล่นของเขาในฟุตบอลโลก 1986 ใกล้เคียงคำว่าสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เราจะมองหาได้จากนักเตะคนหนึ่ง เขามีส่วนร่วมกับ 10 ประตูจาก 14 ประตูในทัวร์นาเม้นท์ของ อาร์เจนตินา โดยเฉพาะประตูในเกมกับ อังกฤษ ทั้ง "The Hand of God" อันโด่งดัง และประตูจากการโซโล่เดี่ยวสุดมหัศจรรย์
ไม่มีนักเตะคนใดมีอิทธิพลต่อทีมฟุตบอลหนึ่งทีมได้มากเท่า มาราโดนา ครั้งหนึ่ง ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ อดีตแข้งทีมชาติอังกฤษกล่าวไว้ว่า "ถ้า มาราโดนา เกิดที่โตรอนโต แคนาดา คงเป็นแชมป์โลกไปแล้ว"