GoalGoal
GOAL50 2021 : ผลโหวต 50 สุดยอดนักเตะชายแห่งปี
Gettyลิโอเนล เมสซี - กองหน้า, เปแอสเช และอาร์เจนตินา
สตาร์ตัวใหม่ของเปแอสเช คว้าดาวซัลโวลาลีกาได้เป็นสมัยที่ 8 รวมถึงคว้าทั้งลูกบอลทองคำและรองเท้าทองคำในโคปา อเมริกา ซึ่งอาร์เจนตินาคว้าแชมป์มาครองได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1993
Gettyคริสเตียโน โรนัลโด้ - กองหน้า, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และโปรตุเกส
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พาซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีสกลับมาอยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดอีกครั้ง หลังจากที่เขาคว้าดาวซัลโวทั้งในกัลโช เซเรีย อา กับยูเวนตุส (29 ประตู) และในยูโร 2020 กับโปรตุเกส (5 ประตู)
Gettyโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ - กองหน้า, บาเยิร์น มิวนิค และโปแลนด์
กองหน้าชาวโปแลนด์ยังคงพัฒนาขึ้นแม้อยู่ในวัย 33 ปี เมื่อยิงได้ถึง 48 ประตู จากการลงสนาม 40 นัด รวมทุกรายการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทั้งยังทำลายสถิติ 41 ประตูในบุนเดสลีกาของแกร์ด มุลเลอร์ลงได้สำเร็จ
Gettyโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ - กองหน้า, ลิเวอร์พูล และอียิปต์
นักเตะลิเวอร์พูลคนแรกที่ยิงได้อย่างน้อย 20 ประตู ถึง 3 ฤดูกาลในพรีเมียร์ลีก หลังจากที่เขายิงไป 31 ประตูรวมทุกรายการ และพาทีมหงส์แดงที่เต็มไปด้วยนักเตะบาดเจ็บจบฤดูกาลด้วยอันดับ 4
Gettyคีลิยัน เอ็มบัปเป้ - กองหน้า, เปแอสเช และฝรั่งเศส
กองหน้าชาวฝรั่งเศสยิง 42 ประตูรวมทุกรายการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งถือเป็นสถิติส่วนตัวที่ดีที่สุด พร้อมคว้าดาวซัลโวลีกเอิง และมีส่วนสำคัญในเกมชนะบาร์เซโลนา และบาเยิร์น มิวนิค ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
Gettyเออร์ลิง ฮาลันด์ - กองหน้า, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และนอร์เวย์
กองหน้าชาวนอร์เวย์ยิงได้ 41 ประตู จาก 41 นัด รวมทุกรายการในฤดูกาลแรกแบบเต็มๆ กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้เป็นดาวซัลโวของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทั้งยังยิงสองประตูในนัดชิงเดเอฟเบ โพคาล
Gettyคาริม เบนเซมา - กองหน้า, เรอัล มาดริด และฝรั่งเศส
กองหน้าเรอัล มาดริด ยิงให้ฝรั่งเศสได้ถึง 4 ประตูในยูโร 2020 ทั้งที่ถูกเรียกตัวติดทีมแบบสุดเซอร์ไพรส์ หลังจากผลงานสุดยอดกับราชันชุดขาวที่เขายิงไปทั้งสิ้น 30 ประตูในฤดูกาลที่แล้ว
Gettyเอ็นโกโล กองเต้ - กองกลาง, เชลซี และฝรั่งเศส
ไดนาโมชาวฝรั่งเศสคือกำลังสำคัญเบื้องหลังความสำเร็จของเชลซีในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยเฉพาะผลงานระดับแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนัดชิงที่ชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ที่ปอร์โต้
Gettyเควิน เดอ บรอยน์ - กองกลาง, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเบลเยียม
จอมทัพชาวเบลเยียมคว้านักเตะยอดเยี่ยมของพีเอฟเอเมื่อฤดูกาลที่แล้ว จากการพาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ทั้งยังช่วยพาเรือใบสีฟ้าเข้าชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอีกด้วย
Gettyเนย์มาร์ - กองหน้า, เปแอสเช และบราซิล
กองหน้าชาวบราซิลต้องอดทดกับฤดูกาลที๋โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนัก แต่ก็ยังยิงได้ถึง 17 ประตู รวมทุกรายการให้เปแอสเช รวมถึงพาบราซิลเข้าถึงรอบชิงโคปา อเมริกา ได้สำเร็จ
Gettyหลุยส์ ซัวเรซ - กองหน้า, แอตเลติโก มาดริด และอุรุกวัย
บาร์เซโลนามอบของขวัญให้แอตเลติโก มาดริด ด้วยการปล่อยซัวเรซไปร่วมทีมแบบไร้ค่าตัว และเขาก็กลายเป็นฮีโร่ด้วยการยิง 21 ประตูในลาลีกา รวมถึงสองประตูสำคัญในเกมสองนัดสุดท้ายของฤดูกาล
Gettyโรเมลู ลูกากู - กองหน้า, เชลซี และเบลเยียม
กองหน้าชาวเบลเยียมกลับมาอยู่กับเชลซีด้วยค่าตัว 97.5 ล้านปอนด์ หลังจากเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของกัลโช เซเรีย อา ในฤดูกาล 2020-21 ด้วยการพาอินเตอร์ มิลานคว้าแชมป์สคูเดตโต้ในรอบ 11 ปี
Gettyอังเคล ดิ มาเรีย - กองกลาง, เปแอสเช และอาร์เจนตินา
ปีกจอมเลื้อยที่มีส่วนร่วมถึง 20 ประตูกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยทำได้ถึง 15 แอสซิสต์ ส่วนในโคปา อเมริกา เขาคือฮีโร่ยิงประตูชัยพาอาร์เจนตินาชนะบราซิลในรอบชิง
Gettyบรูโน แฟร์นันด์ส - กองกลาง, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และโปรตุเกส
มิดฟิลด์ตัวรุกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พัฒนาขึ้นมาเป็นนักเตะแถวหน้าของพรีเมียร์ลีก ด้วยการยิง 28 ประตูรวมทุกรายการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว รวมถึง 5 ประตูที่ช่วยพาปีศาจแดงเข้าชิงยูโรป้าลีก
Gettyโยชัว คิมมิช - กองกลาง, บาเยิร์น มิวนิค และเยอรมัน
บาเยิร์น มิวนิค เพิ่งต่อสัญญานักเตะทีมชาติเยอรมันไปเมื่อเดือนสิงหาคม และไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเลยเมื่อดูจากผลงาน 6 ประตูกับอีก 14 แอสซิสต์ ของเขา
Gettyปอล ป็อกบา - กองกลาง, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และฝรั่งเศส
มิดฟิลด์ห้องเครื่องแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์อันโดดเด่นของเขาในยูโร 2020 ด้วยผลงานที่น่าประทับใจที่สุดคนหนึ่งของทีมชาติฝรั่งเศตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์
Gettyซน ฮึง-มิน - กองหน้า, ท็อตแนม และเกาหลีใต้
หัวหอกชาวเกาหลีใต้มีผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตัวเองในฤดูกาล 2020-21 ด้วยการยิง 22 ประตู และแอสซิสต์อีก 17 ครั้งรวมทุกรายการ จากการประสานงานอย่างยอดเยี่ยมกับแฮร์รี เคน
Gettyแฮร์รี เคน - กองหน้า, ท็อตแนม และอังกฤษ
ฤดูกาลที่แล้วของเคนทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในสามนักเตะในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่เป็นทั้งดาวซัลโวและจอมแอสซิสต์มากที่สุดในฤดูกาลเดียวกัน รวมถึงผลงานพาอังกฤษเข้าชิงยูโร 2020
Gettyจานลุยจิ ดอนนารุมมา - ผู้รักษาประตู, เปแอสเช และอิตาลี
หลังจากได้รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ด้วยการพาเอซี มิลาน กลับไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มือกาววัย 22 ปี ยังได้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของยูโร 2020 จากผลงานกับอิตาลีตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์
Gettyเอดูอาร์ เมนดี้ - ผู้รักษาประตู, เชลซี และเซเนกัล
เมนดี้ ทำสถิติคลีนชีตมากที่สุดในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (9 ครั้ง) ในฤดูกาลเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมกับเชลซี รวมถึงพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปได้ในฤดูกาลแรกที่เขาลงเล่นในรายการนี้
Gettyอัชราฟ ฮาคิมี - กองหลัง, เปแอสเช และโมร็อคโก
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ตัดสินใจคว้าฮาคิมีเข้ามาร่วมทัพ หลังจากมีส่วนร่วมถึง 16 ประตู ช่วยพาอินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์กัลโช เซเรีย อา เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
Gettyจอร์จินโญ - กองกลาง, เชลซี และอิตาลี
นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่าสยบเสียงวิจารณ์ด้วยการเป็นคนคอยคุมจังหวะให้เชลซีจนได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รวมถึงได้แชมป์ยูโร 2020 กับอิตาลี ด้วยผลงานชนะอังกฤษที่เวมบลีย์
Gettyฟิล โฟเดน - กองกลาง, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และอังกฤษ
ฟเดนได้รับเลือกเป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว จากบทบาทของเขากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้เขาติดทีมชาติอังกฤษไปเล่นในยูโร 2020 ได้สำเร็จ
Gettyยาน โอบลัค - ผู้รักษาประตู, แอตเลติโก มาดริด และสโลเวเนีย
ผู้รักษาประตูชาวสโลเวเนียยังคงเป็นหนึ่งในมือกาวที่แน่นอนที่สุดในโลก ด้วยผลงานระดับคว้านักเตะยอดเยี่ยมลาลีกาฤดูกาลที่แล้ว จากการเก็บคลีนชีตได้ถึง 18 นัด พาแอตเลติโก มาดริด คว้าแชมป์
Gettyเฟเดริโก คิเอซา - กองหน้า, ยูเวนตุส และอิตาลี
ปีกจอมลุยได้แสดงฝีเท้าสมกับที่หลายคนคาดหวังในตัวเขาเสียที เมื่อกลายเป็นตัวทีเด็ดกับยูเวนตุส โดยเฉพาะในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนจะได้แชมป์ยูโร 2020 กับอิตาลี
Gettyเปดรี - กองกลาง, บาร์เซโลนา และสเปน
เปดรี เล่นได้อย่างเข้าขากับลิโอเนล เมสซี ในทีมบาร์เซโลนา ก่อนจะไปคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของยูโร 2020 จากผลงานสุดโดดเด่นเกินวัยกับทีมชาติสเปน
Gettyเลาตาโร มาร์ติเนซ - กองหน้า, อินเตอร์ มิลาน และอาร์เจนตินา
อินเตอร์ มิลาน อาจเสียโรเมลู ลูกากู ไปในช่วงหน้าร้อน แต่พวกเขายังมีคู่ขาของลูกากูอย่าง เลาตาโร มาร์ติเนซอยู่ ด้วยผลงาน 19 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
Gettyริยาด มาห์เรซ - กองหน้า, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแอลจีเรีย
ปีกชาวแอลจีเรีย พัฒนาฝีเท้าขึ้นมากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเฉพาะในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเขายิงได้ถึง 4 ประตูในรอบน็อคเอาท์ที่พบโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และปารีส แซงต์ แชร์กแมง
Gettyรูเบน ดิอาส - กองหลัง, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และโปรตุเกส
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวโปรตุกีสเข้ามาแก้ปัญหาเกมรับให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมนักข่าวไปครอง หลังมีส่วนพาเรือใบสีฟ้าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
Gettyจอร์โจ คิเอลลินี - กองหลัง, ยูเวนตุส และอิตาลี
ปราการหลังวัย 37 ปีที่ยังคงเล่นได้อย่างแข็งแกร่ง หลังจากสลัดอาการบาดเจ็บที่รบกวนเขามาตลอดทั้งฤดูกาล เขาก็เป็นผู้นำทีมชาติอิตาลีประสบความสำเร็จในยูโร 2020 ได้สำเร็จ
Gettyเมสัน เมาท์ - กองกลาง, เชลซี และอังกฤษ
กองกลางชาวอังกฤษกลายเป็นนักเตะที่ฟอร์มเยี่ยมที่สุดของโธมัส ทูเคิล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ด้วยการยิง 9 ประตูรวมทุกรายการ กับอีก 8 แอสซิสต์ รวมถึงลูกที่จ่ายให้ไค ฮาแวร์ตซ์ ยิงในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกด้วย
Gettyไค ฮาแวร์ตซ์ - กองหน้า, เชลซี และเยอรมัน
เขาอาจจะมีช่วงต้นฤดูกาลที่ยากลำบากในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่กลับมาเข้าฟอร์มได้ทันเวลาในช่วงท้ายฤดูกาล และเป็นฮีโร่ยิงประตูชัยให้สิงห์บลูในรอบชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
Gettyเมมฟิส เดปาย - กองหน้า, บาร์เซโลนา และเนเธอร์แลนด์
กองหน้าชาวดัตช์ที่ได้ย้ายไปอยู่กับบาร์เซโลนาสมใจ หลังจากยิงไปถึง 20 ประตูในลีกกับลียงฤดูกาลที่แล้ว รวมถึงอีก 2 ประตูกับเนเธอร์แลนด์ในยูโร 2020
Gettyเลโอนาร์โด โบนุชชี - กองหลัง, ยูเวนตุส และอิตาลี
ปราการหลังจอมแกร่งอาจไม่ประสบความสำเร็จกับยูเวนตุส ในเซเรีย อา ฤดูกาลที่แล้ว แต่เขาคือกำลังสำคัญของทีมชาติอิตาลีในการคว้าแชมป์ยูโร ด้วยการชนะอังกฤษในรอบชิงฯ
Gettyเคย์เลอร์ นาบาส - ผู้รักษาประตู, เปแอสเช และคอสตาริก้า
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง อาจจะได้ จานลุยจิ ดอนนารุมมา เข้ามา แต่ก็ยังไม่ปล่อยนาบาสออกจากทีม เพราะผลงานที่ยอดเยี่ยมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว รวมถึงเซฟจุดโทษสำคัญของลิโอเนล เมสซี ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับบาร์เซโลนา
Gettyราฮีม สเตอร์ลิง - กองหน้า, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และอังกฤษ
ปีกทีมชาติอังกฤษแสดงให้เห็นฝีเท้าของเขาในยูโร 2020 ด้วยการพาทีมสิงโตคำรามผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ และมีฟอร์มการทำประตูที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง
Gettyอิลกาย กุนโดกัน - กองกลาง, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเยอรมัน
มิดฟิลด์ชาวเยอรมันไม่เคยยิงได้ถึงเลขสองหลักมาก่อนในชีวิตค้าแข้ง แต่กลับยิงได้ถึง 17 ประตูรวมทุกรายการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในพรีเมียร์ลีก
Gettyลอเรนโซ อินซินเญ - กองหน้า, นาโปลี และอิตาลี
เส้นทางคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปที่เวมบลีย์อิตาลี มีส่วนมาจากสองประตูของอินซินเญ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือประตูสุดสวยในรอบก่อนรองชนะเลิศที่คว้าชัยชนะเหนือเบลเยียม
Gettyแจ็ค กรีลิช - กองกลาง, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และอังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำลายสถิติค่าตัวของเกาะอังกฤษด้วยการจ่าย 100 ล้านปอนด์ เพื่อคว้ากองกลางรายนี้มาร่วมทีม หลังจากผลงานที่ยอดเยี่ยมกับแอสตัน วิลลา ฤดูกาลที่แล้ว
Gettyเอมิเลียโน มาร์ติเนซ - ผู้รักษาประตู, แอสตัน วิลลา และอาร์เจนตินา
อาร์เซนอลขายมือกาวชาวอาร์เจนไตน์ให้แอสตัน วิลลา เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อเขาพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นหนึ่งในมือกาวที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก รวมถึงได้ถุงมือทองคำในโคปา อเมริกา
Gettyดานี อัลเวส - กองหลัง, บราซิล
แข้งบราซิเลียนยังประสบความสำเร็จได้อยู่ในวัย 38 ปี นี่คือนักฟุตบอลที่ได้แชมป์มากที่สุดตลอดกาลในวงการลูกหนัง และเพิ่งพาทีมชาติบราซิลคว้าเหรียญทองในโอลิมปิกที่โตเกียว
Gettyคริสเตียน พูลิซิช - กองกลาง, เชลซี และสหรัฐอเมริกา
หลังจากมีส่วนพาเชลซีคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เขาก็เป็นกัปตันทีมชาติสหรัฐอเมริกาคว้าแชมป์คอนคาเคฟ เนชันส์ ลีก รวมถึงยิงจุดโทษพาทีมคว้าชัยเหนือเม็กซิโกในนัดชิง
Gettyลุค ชอว์ - กองหลัง, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และอังกฤษ
ชอว์พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นหนึ่งในแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในโลกกับผลงานที่สม่ำเสมอตลอดทั้งปีกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ รวมถึงเกือบได้เป็นฮีโร่ในนัดชิงยูโร 2020 ก่อนที่จะแพ้อิตาลีด้วยการดวลจุดโทษ
Gettyโกเก้ - กองกลาง, แอตเลติโก มาดริด และสเปน
กองกลางชาวสเปนเล่นไปเกิน 500 นัดกับสโมสรในบ้านเกิด และพลาดไปเพียงนัดเดียวเพราะถูกแบนในฤดูกาลที่ลูกทีมของดิเอโก ซิเมโอเน คว้าแชมป์ลาลีกามาครองได้อีกสมัย
Gettyนิโคโล บาเรลลา - กองกลาง, อินเตอร์ มิลาน และอิตาลี
กองกลางห้องเครื่องทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมพาอินเตอร์คว้าแชมป์กัลโช เซเรีย อา ก่อนจะได้ชูถ้วยแชมป์ยูโรกับทีมชาติอิตาลี โดยเขาเป็นผู้ทำประตูสำคัญในเกมชนะเบลเยียมรอบก่อนรองชนะเลิศ
Gettyเคราร์ด โมเรโน - กองหน้า, บียาร์เรอัล และสเปน
ด้วยวัย 29 ปี โมเรโนพัฒนาขึ้นไปได้อีกระดับ ด้วยการยิง 30 ประตู รวมทุกรายการ รวมถึง 7 ประตูที่พาบียาร์เรอัล คว้าแชมป์ยูโรป้าลีก พร้อมเป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์
Gettyฮัลค์ - กองหน้า, แอตเลติโก มิไนโร และบราซิล
กองหน้าชาวบราซิลมีผลงานที่โดดเด่นเมื่อกลับไปอยู่บ้านเกิด กับแอตเลติโก มิไนโร ซึ่งช่วยให้เขากลับมาติดทีมชาติบราซิลอีกครั้งในวัย 35 ปี
Gettyบูรัค ยิลมาซ - กองหน้า, ลีลล์ และตุรกี
หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมของฤดูกาลที่แล้ว เมื่อกองหน้าทีมชาติตุรกียิง 16 ประตู จากการลงสนาม 28 นัดให้ลีลล์เฉือนปารีส แซงต์ แชร์กแมง คว้าแชมปลีกเอิงครั้งแรกในรอบ 10 ปี
Gettyโมฮัมเหม็ด เชอรีฟ - กองหน้า, อัล อาห์ลี และอียิปต์
กองหน้าอัล อาห์ลี เป็นดาวซัลโว ทั้งในพรีเมียร์ลีกอียิปต์ (21 ประตู) และซีเอเอฟ แชมเปี้ยนส์ลีก (6 ประตู) โดยยิงได้ทั้งสองนัดในรอบรองชนะเลิศ รวมถึงอีกประตูในนัดชิงที่ชนะไกเซอร์ ชีฟ
Gettyทาเคฟุสะ คุโบะ - กองหน้า, เรอัล มาดริด (ถูกยืมไปเรอัล มายอร์ก้า) และญี่ปุ่น
หลังจากสองประตูกับอีกสี่แอสซิสต์ตลอดฤดูกาลก่อนกับบียาร์เรอัลและเกตาเฟ แข้งวัย 20 ปี ก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจที่โอลิมปิก ซึ่งยิงได้ 3 ประตูให้ทีมชาติญี่ปุ่นในรอบแบ่งกลุ่ม
โฆษณา