Getty/Goal
Gettyผู้รักษาประตู: อันโตนิโอ ซิเบรา (สเปน)
เหล่าบรรดาแนวรุกอาจได้รับการจับตามองในความสำเร็จคว้าแชมปยูโร U21 แต่นายด่านจากอลาเบสก็ถือเป็นขุนพลสำคัญของทัพกระทิงน้อยชุดนี้ด้วยเหมือนกัน
ซิเบรา กลายเป็นผู้รักษาประตูที่มีอัตกราการเซฟสูงที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ถึง 78.6 % รวมถึงทีมสามารถเก็บชัยได้ทุกนัดที่เขาลงเฝ้าเสาด้วย ส่วนนัดแรกที่แพ้อิตาลี 1-3 เขาเป็นเพียงแค่ตัวสำรอง
Gettyแบ็คขวา: คริสเตียน มาเนีย (โรมาเนีย)
แม้จะมี มารติน อกีรเรเกบิเรีย ของสเปน รวมถึง ลูคัส โคลสเตอรมันน ของเยอรมัน ที่ทำผลงานได้ดี แต่เราขอมอบตำแหน่งแบ็คขวาให้แก่ คริสเตียน มาเนีย จากโรมาเนีย
แบ็คขวาที่ถูก อพอลลอน ลิมาสซอล ปล่อยให้ ซีเอฟอาร์ คลูจ ยืมตัวไปใช้งานช่วงสองฤดูกาลล่าสุด ทำสถิติเข้าแท็คเกิ้ลสำเร็จสูงที่สุดถึง 13 ครั้ง รวมถึงสกัดบอลสูงที่สุดในทัวร์นาเมนต์ถึง 12 ครั้ง
Gettyเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ:ดาโยต์ อูปาเมกาโน (ฝรั่งเศส)
ฝรั่งเศสอาจแพ้ให้แก่ทีมแชมป์อย่างสเปนขาดลอยในรอบรองชนะเลิศ แต่ดาวรุ่งจากแอร์เบ ไลป์ซิกนั้นถือเป็นกองหลังที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นอย่างยิ่ง
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟวัย 20 ปี สร้างสถิติแย่งบอลสำเร็จถึง 35 ครั้ง รวมทั้งชนะการดวลลูกกลางอากาศถึง 11 ครั้ง มากที่สุดในทัวร์มาเมนต์ ถือเป็นแนวรับที่ค่อนข้างครบเครื่องทั้งทางบอลและความแข็งแกร่ง
Gettyเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ: โยนาธาน ทาห์ (เยอรมัน)
กองหลังจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ผ่านประสบการณ์ลงเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่มาแล้ว 6 นัด จึงไม่น่าแปลกใจว่าเขาจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทัพอินทรีน้อยชุดนี้
สำหรับ ทาห์ นั้นมีจุดเด่นที่รูปร่างอันสูงใหม่ถึง 195 เซนติเมตร รวมถึงยังมีคุณสมบัติความเป็นผู้นำค่อนข้างสูงมากอีกด้วย
Gettyแบ็คซ้าย: เบนยามิน เฮนริคส์ (เยอรมัน)
อดีตเพื่อนร่วมทัพห้างขายยาของ โยนาธาน ทาห์ สร้างสถิติเข้าสกัดบอลสูงที่สุดในรายการนี้ถึง 12 ครั้งเท่ากับ คริสเตียน มาเนีย แบ็คขวาจากโรมาเนีย
และแม้ว่าจะถนัดเท้าขวา แต่ดาวเตะจากโมนาโกกลับได้รับบทบาทเป็นแบ็คซ้ายตัวหลักของอินทรีน้อย โดยที่สามารถทำไปได้ 1 แอสซิสต์ด้วยในเกมถล่มเซอร์เบียขาดลอยถึง 6-1
Gettyมิดฟิลด์ตัวกลาง: ฟาเบียน รุยซ์ (สเปน)
กองกลางจากนาโปลี อาศัยความคุ้นเคยจากการค้าแข้งในประเทศเจ้าภาพอย่างอิตาลีอยู่แล้ว มาจัดการโชว์ฟอร์มจนคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำรายการนี้
จอมทัพคนสำคัญของทัพกระทิงน้อย ทำไป 2 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ โดยมีไฮไลท์คือการยิงประตูขึ้นนำตั้งแต่ 7 นาทีแรกในนัดชิงชนะเลิศที่เอาชนะเยอรมันไปได้ 2-1
Gettyมิดฟิลด์ตัวกลาง: มาห์มูด ดาฮูด (เยอรมัน)
กองกลางากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สร้างโอกาสลุ้นทำประตูไปถึง 11 ครั้ง เป็นรองเพียงแค่ ดานี เซบาญอส จากสเปน และเพื่อนร่วมทีมอย่าง ลูก้า วัลด์ชมิดท์ เพียงแค่สองคนเท่านั้นทั้งทัวร์นาเมนต์
ทั้งนี้ ดาฮูด ทำไป 1 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ในเกมถล่มเซอร์เบีย 6-1 และอีก 1 แอสซิสต์ในเกมชนะโรมาเนีย 4-2
Gettyมิดฟิลด์ตัวรุก: ดานี เซบาญอส (สเปน)
เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมจากครั้งที่แล้วเมื่อปี 2017 ยังคงโชว์ฟอร์มได้ดีต่อเนื่องในครั้งนี้ ด้วยสถิติสร้างโอกาสลุ้นทำประตูมากที่สุดถึง 13 ครั้ง
กองกลางจากเรอัล มาดริด ทำไป 2 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์ในครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการปล่อยของ หลังจากได้รับโอกาสลงเล่นเพียงน้อยนิดในระดับสโมสร
และจากการไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ ซีเนดีน ซีดาน ในฤดูกาลใหม่ ทำให้ เซบาญอส จะกลายเป็นนักเตะเนื้อหอมในตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้อย่างแน่นอน
Gettyปีกขวา: ดานี อัลโม (สเปน)
แนวรุกจากดินาโม ซาเกร็บ ไม่ได้เริ่มต้นนัดแรกในฐานะตัวหลัก แต่หลังจากได้โอกาสลงตัวจริงในนัดสองกับเบลเยียม เขาก็กลายเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทัพกระทิงน้อยที่ก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์
อดีตเด็กปั้นจากศูนย์ฝึกลา มาเซียของบาร์เซโลนา ทำไป 3 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ โดยมีไฮไลท์สำคัญคือประตูที่สองในนัดชิงชนะเลิศที่ชนะเยอรมัน 2-1
Gettyกองหน้า: ลูก้า วัลด์ชมิดท์ (เยอรมัน)
จากนักเตะโนเนมที่แทบไม่มีใครรู้จักก่อนเริ่มการแข่งขัน แต่กองหน้าจากไฟรบวร์กสามารถแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวด้วยการคว้าตำแหน่วดาวซัลโวจากผลงานซัดไปถึง 7 ประตู
สำหรับ วัลด์ชมิดท์ ซึ่งมีจุดเด่นที่เท้าซ้ายอันสุดคมกริบนั้น ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุดในเกมถล่มเซอร์เบีย 6-1 ซึ่งเขาระเบิดฟอร์มสุดยอดกดแฮตทริก
Gettyปีกซ้าย: เฟเดริโก้ เคียซา (อิตาลี)
แม้ว่าอิตาลีจะหยุดเส้นทางเพียงแค่รอบแบ่งกลุ่ม แต่ฟอร์มส่วนตัวของลูกชาย เอ็นริโก้ เคียซา นั้นถือว่าน่าชื่นชมทีเดียว
แนวรุกจากฟิออเรนตินากดไป 2 ประตูในนัดแรกที่ชนะสเปน 3-1 และมาบวกเพิ่มอีกลูกในนัดสุดท้ายที่ชนะเบลเยียม 2-1 ทว่าอัซซูรีชุดเล็กกลับต้องตกรอบแบ่งกลุ่มเพียงแค่มีผลต่างประตูได้เสียเป็นรองทัพกระทิงน้อยซึ่งก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ในบั้นปลาย
โฆษณา