Getty/Goal composite
Goal1Best XI : ทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก 2018-2019 โดย GOAL
เอแดร์สัน; อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาน ไดค์, ลาปอร์กต์, โรเบิร์ตสัน; แบร์นาร์โด้, แฟร์นานดินโญ, อาซาร์; สเตอร์ลิง, อเกวโร, มาเน
2ซาดิโอ มาเน
ในฤดูกาลที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อาจจะมีช่วงฟอร์มฝืดไปบ้าง ลิเวอร์พูลก็มาได้แนวรุกชาวเซเนกัลช่วยผลิตสกอร์ทดแทน จนสุดท้ายเขาก็สามารถคว้าดาวตำแหน่งซัลโวร่วมกับ ซาลาห์ และกองหน้าจากอาร์เซนอลอย่าง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ไปครองด้วยผลงาน 22 ประตู
Getty Images3เซร์คิโอ อเกวโร
ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์สร้างสถิติถล่มประตูเกิน 20 ลูกมาได้ถึง 5 ฤดูกาลติดต่อกันแล้ว และเป็นหนึ่งในนักเตะที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ครบทั้ง 4 สมัยอีกด้วย
Getty Images4ราฮีม สเตอร์ลิง
แนวรุกดีกรีทีมชาติอังกฤษ พัฒนาฟอร์มการเล่นขึ้นมาได้อย่างรุดหน้า โดยเฉพาะลีลาการเลี้ยงบอลจี้ใส่คู่แข่งที่ไม่ใช่แค่วูบวาบเหมือนเมื่อก่อน แต่กลับทรงไปด้วยประสิทธิภาพและความอันตราย จนสามารถคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักข่าวไปครอง
Getty Images5เอเด็น อาซาร์
จะเรียกว่าเป็น "เดอะ แบก" ก็คงไม่เกินเลยไปนัก เพราเขาคือตัวความหวังในแนวรุกของเชลซีอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการทำสถิติเป็นนักเตะผู้แอสซิสต์มากที่สุดถึง 15 ลูก จนพาสิงโตน้ำเงินครามที่แม้ฟอร์มจะกระท่อนกระแท่นไปบ้าง จบฤดูกาลด้วยการคว้าอันดับ 3
Getty Images6แฟร์นันดินโญ
แม้จะมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้าง แต่เกมไหนที่มีกองกลางชาวบราซิลคอยยืนปัดกวาดอยู่หน้าแผงเกมรับ ก็แทบจะการันตีได้เลยว่า แมนฯ ซิตี้ จะต้อวได้รับผลการแข่งขันที่ดีแน่นอน วัดได้ความพ่ายแพ้ 4 นัดของเรือใบสีฟ้า มาจากเกมที่เขาไม่ได้ลงเล่นถึง 2 นัดด้วยกัน
Getty7แบร์นาร์โด้ ซิลวา
ในฤดูกาลที่ เควิน เดอ บรอยน์ ประสบปัญหาบาดเจ็บบ่อยครั้ง ทำให้แนวรุกชาวโปรตุกีสได้โอกาสก้าวมาเป็นจอมทัพบัญชาการแผงเกมรุกของเรือใบสีฟ้า จนกลายเป็นฟันเฟืองสำคัญที่พาทีมป้องกันแชมป์ได้น่าชื่นชม
Getty Images8แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
กัปตันทีมชาติสก็อตแลนด์ก้าวมาเป็นแบ็คซ้ายอันดับ 1 ของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้แบบไร้ข้อกังขา ด้วยจุดเด่นการวิ่งขึ้นลงทั้งรุกและรับแบบไม่มีหมด จนแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเขามีค่าตัวแค่ 8 ล้านปอนด์เท่านั้น
Getty Images9อายเมอริค ลาปอร์กต์
กองหลังชาวฝรั่งเศสก้าวมาเป็นหัวใจในแนวรับของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้แบบเต็มตัวในฤดูกาลนี้ โดยนอกจากจะโดดเด่นในการคุมเกมรับแล้ว ยังมีทีเด็ดในการเติมเกมรุกขึ้นมาผลิตสกอร์ได้หลายครั้ง โดยเฉพาะประตูขึ้นนำ 2-1 ในเเกมสุดท้ายกับไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่พาทีมก้าวไปคว้าแชมป์อย่างแท้จริง
Getty Images10เฟอร์จิล ฟาน ไดค์
ค่าตัวสถิติโลกของนักเตะตำแหน่งกองหลังที่ลิเวอร์พูลจ่ายไป 75 ล้านปอนด์นั้นคุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะเพียงแค่สถิติที่ไม่มีคู่แข่งเลี้ยงบอลผ่านเขาเลยตลอดทั้งฤดูกาลเลย ก็บ่งบอกแล้วว่าเขานั้นแข็งแกร่งเพียงใด อีกทั้งนี่คือผู้คว้ารางวัลแข้งแห่งปีที่โหวตโดยเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกัน ก็ตอกย้ำความสุดยอดของเขาแล้ว
Getty Images11เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
ดาวรุ่งวัยเพียงแค่ 20 ปี สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการเป็นกองหลังที่ทำสถิติแอสซิสต์ได้มากที่สุดในฤดูกาลเดียวถึง 12 ลูก รวมถึงก้าวขึ้นมาเป็นแบ็คขวาระดับแถวหน้าของพรีเมียร์ลีกได้แบบเต็มตัวแล้ว
Getty Images12เอแดร์สัน
แม้ว่า อลิสสัน เบ็คเกอร์ จะคว้ารางวัลถุงมือทองคำจากการเก็บคลีนชีตได้มากที่สุด ทว่าเบื้องหลังการคว้าแชมป์สองปีติดของเรือใบสีฟ้า ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคือการมี เอแดร์สัน เป็นผู้เริ่มต้นการขึ้นเกมรุก และถือว่าเขานั้นตอบโจทย์ปรัชญาการเล่นของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เรื่องการเป็นผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าได้ดีอย่างสมบูรณ์แบบ
โฆษณา