BEST XI : ทีมยอดเยี่ยมประจำศึกยูโร 2020 โดย Goal

มีนักเตะมากมายที่เราจำใจต้องหั่นชื่อหลุดโผจากทีมยอดเยี่ยมไปอย่างน่าเสียดาย

เริ่มจากฝั่งของอังกฤษที่บรรดาผู้เล่นในแนวรับต่างก็ทำผลงานได้ดีทั้ง แฮร์รี แม็คไกวร์, จอห์น สโตนส์, ไคล์ วอล์คเกอร์, ลุค ชอว์ รวมถึงผู้รักษาประตูอย่าง จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่คว้ารางวัลถุงมือทองคำจากการเก็บคลีนชีตได้มากที่สุด

ขณะที่ผู้รักษาประตูอย่าง ยานน์ ซอมเมอร์ ของสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึง แคสเปอร์ ชไมเคิล ของเดนมาร์ก ต่างก็โชว์ฟอร์มสุดเหนียวหนึบ จนสามารถพาทีมมาได้ไกลเกินคาด

นอกจากนี้ จอร์ดี้ อัลบา กัปตันทีมของสเปน รวมถึง ซิมง เคียร์ กัปตันทีมของเดนมาร์ก ก็โดดเด่นทั้งฟอร์มส่วนตัว และบทบาทการเป็นผู้นำที่น่าชื่นชม

ขณะที่ คริสเตียโน โรนัลโด้ รวมถึง พาทริค ชิค ซึ่งยิงไป 5 ประตูเท่านั้น เป็นดาวซัลโวร่วมของทัวร์นาเมนต์ ก็น่าเสียดายที่พาทีมไปได้ไม่ไกลเท่าที่ควร

ปิดท้ายด้วยดาวรุ่งที่แจ้งเกิดแบบไม่มีใครคาดคิดอย่าง มิคเคล ดามส์การ์ด ก็ถือเป็นนักเตะที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น

แม้จะถูกวิจารณ์มาตลอดทัวร์นาเมนต์ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า สเตอร์ลิง คือส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่พาอังกฤษมาได้ไกลถึงรอบชิงชนะเลิศยูโร 2020

แนวรุกจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีจุดเด่นคือการลากเลื้อยปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งที่สร้างประโยชน์ช่วยทีมได้เสมอ รวมถึงยังยิงไป 3 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์

น่าเสียดายที่ยังไม่ดีพอที่จะสามารถพาฟุตบอลกลับบ้านดั่งสโลแกน It's coming home ได้อย่างที่ใฝ่ฝัน

แม้ว่าจะปืนฝืดยิงประตูไม่ได้เลยในรอบแบ่งกลุ่ม แต่หลังจากเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ กองหน้ากัปตันทีมตัวความหวังของอังกฤษ ก็เรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ด้วยการกดไปถึง 4 ประตู

จุดเด่นของ เคน คือนอกจากจะสามารถพักบอลเก็บบอลได้ดีตามมาตรฐานแล้ว ยังมีบทบาทในการถอยลงต่ำลงเชื่อมเกมในแดนกลางได้เป็นอย่างดีด้วย

น่าเสียดายที่เขากลับโชว์ฟอร์มไม่ออกในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อต้องการคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเขี้ยวลากดินของอิตาลีอย่าง เลโอนาร์โด้ โบนุชชี และ จอร์โจ้ คิเอลลินี จนทำให้อังกฤษไปไม่ถึงฝั่งฝัน

ลูกชายของ เอ็นริโก้ เคียซา เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ด้วยการไปตัวสำรอง ทว่าหลังจากลงมาเป็นทีเด็ดยิงประตูพาอิตาลีชนะออสเตรียช่วงต่อเวลาพิเศษในรอบ 16 ทีม ทำให้หลังจากนั้นเขาก็ได้โอกาสก้าวมาลงตัวหลักของทีมโดยปริยาย

แนวรุกจากยูเวนตุสมีจุดเด่นคือการกล้าเลี้ยงกล้าลุยแหวกแนวรับคู่แข่งแบบไม่มีเกรงกลัว รวมถึงยังมีความเร็ว ความแข็งแกร่ง และการจบสกอร์ที่เด็ดขาด จนว่ากันว่านี่คือตัวรุกที่น่ากลัวที่สุดองอิตาลีชุดนี้เลยทีเดียว

ซึ่งการที่เขาต้องบาดเจ็บออกจากสนามไปในช่วงท้ายเกมครึ่งหลังของนัดชิงชนะเลิศ ส่งผลให้เกมรุกของอิตาลีอ่อนลงไปอย่างชัดเจนในช่วงต่อเวลาพิเศษ

แม้จะมีวัยเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น ทว่า เปดรี้ กลับได้รับความไว้วางใจให้เป็นกองกลางตัวหลักของสเปนประจำทัวร์นาเมนต์

ซึ่งดาวรุ่งจากบาร์เซโลนาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขาคือนักเตะที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เมื่อสามารถคุมมแดนกลางของสเปนได้อย่างโดดเด่นเกินวัย และเป็นส่วนสำคัญที่พาทีมทะลุเข้าไปได้ถึงรอบรองชนะเลิศ

ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ทำให้เขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับรุ่นพี่ในตำนานอย่าง อันเดรส อิเนียสต้า เลยทีเดียว

เพียงแค่ 6 สัปดาห์หลังจากคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกกับเชลซี จอร์จินโญ ก็ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการพาอิตาลีคว้าแชมป์ยูโร 2020

มิดฟิลด์วัย 29 ปี ถือเป็นแม่ทัพในการคุมจังหวะเกมของอิตาลี โดยมีจุดเด่นคือการผ่านบอลที่แม่นยำ รวมถึงยังเป็นนักเตะที่ครองบอลได้เหนียวแน่นและยากที่คู่แข่งจะแย่งบอลจากเท้าของเขาได้ง่าย ๆ

การประสบความสำเร็จในเกมยุโรปทั้งกับสโมสรและทีมชาติ ทำให้มีการคาดหมายว่า จอร์จินโญ อาจมีลุ้นรางวัลบัลลงดอร์ประจำปีนี้เลยทีเดียว

การขาดหายไปแบบไม่คาดฝันของ คริสเตียน เอริคเซน ทำให้ ฮอยเบียร์ ได้ก้าวมาเป็นหัวใจในแดนกลางของเดนมาร์กแบบเต็มตัวในทัวร์นาเมนต์นี้

มิดฟิลด์จากท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ โดดเด่นด้วยผลงานการทำไป 3 แอสซิสต์ และกลายเป็นจอมทัพที่พาเดนมาร์กทะลุเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศได้อย่างน่าชื่นชม

น่าเสียดายที่เดนมาร์ก ไม่สามารถสร้างเทพนิยายซ้ำรอยกับรุ่นพี่ในตำนานเมื่อปี 1992 ได้สำเร็จ

อีกหนึ่งกุญแจสำคัญของอิตาลี นั่นคือการมีฟูลแบ็คจากโรมา ประจำการทางฝั่งซ้าย ซึ่งช่วยให้ทั้งเกมรุกและเกมรับของทีมนั้นดุดันและแข็งแกร่ง

ทว่าน่าเสียดายเมื่อระหว่างที่เขากำลังทำผลงานได้ยอดเยี่ยม กลับต้องมาโชคร้ายบาดเจ็บหนักจนต้องปิดฉากทัวร์นาเมนต์และพักยาวหลายเดือน ซึ่งการขาดหายไปของเขา ก็ส่งผลให้ฝั่งซ้ายของอิตาลีนั้นอ่อนลงไปอย่างชัดเจน

แต่การที่ได้เห็น สปินาซโซลา เดินใช้ไม้ค้ำเพื่อมารับเหรียญแชมป์ยูโร 2020 เป็นคนแรกของอิตาลี ก็ถือเป็นภาพที่น่าประทับใจไม่น้อยเลย

เมื่อมี โบนุชชี ก็ขาดไม่ได้ที่จะต้องมี คิเอลลินี มาเป็นคู่หูในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ซึ่งแม้ว่าทั้งคู่จะอายุรวมกันปาเข้าไปถึง 70 ปีแล้ว แต่กลับกลายเป็นยิ่งแก่ก็ยิ่งเก๋าอย่างแท้จริง

กองหลังวัย 36 ปี ที่นอกจากจะแข็งแกร่งดุดันในการคุมแนวรับแล้ว ยังแสดงความเป็นผู้นำออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยม กลายเป็นศูนย์กลางที่รวมใจอิตาลีชุดนี้เป็นหนึ่งเดียว และก้าวไปสู่ฝั่งฝันได้สำเร็จ

ด้วยผลงานที่สุดยอดเช่นนี้ ทำให้เหมาะสมแล้วที่เขาจะเป็นกัปตันทีมผู้ชูถ้วยแชมป์ยูโร 2020 อย่างยิ่งใหญ่

กองหลังวัย 34 ปี นอกจากจะคุมแนวรับได้แข็งแกร่งแล้ว ยังมีจุดเด่นคือการเป็นนักเตะที่ผ่านบอลได้แม่นยำ และเป็นจุดเริ่มต้นในการขึ้นเกมรุกจากแดนหลังของอิตาลี

ฟอร์มที่โดดเด่นของ โบนุชชี ต้องยกให้ในนัดชนะเลิศ ซึ่งยังเป็นผู้สร้างจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้ ด้วยการเติมขึ้นมายิงประตูตีเสมอให้อิตาลีในครึ่งหลัง ขณะที่ในช่วงดวลจุดโทษ ก็เป็นหนึ่งในคนที่สังหารเข้าไปไม่พลาดด้วย

ด้วยผลงานเช่นนี้ ทำให้เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของนัดชิงชนะเลิศไปครอง

แม้จะเล่นเป็นวิงแบ็คซ้ายมาตลอดทัวร์นาเมนต์ แต่จากการที่ เมห์เล นั้นถนัดเท้าขวา ทำให้ในทีมยอดเยี่ยมชุดนี้ของเรา จะขอโยกมาอยู่ทางฝั่งขวาแทน

ดาวเตะวัย 24 ปี เพิ่งจะย้ายจากทีมในเบลเยียมอย่าง เกงค์ มาอยู่กับอตาลันต้า เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 10 ล้านยูโรเท่านั้น

แต่จากฟอร์มสุดยอดเยี่ยม ด้วยการทำไป 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ พร้อมพาเดนมาร์กทะลุเข้าไปได้ถึงรอบรองชนะเลิศ ก็น่าจะทำให้อตาลันต้าเตรียมได้ค่าตัวก้อนโต หากคิดจะปล่อยเขาออกไปสู่ทีมระดับท็อปต่อไป

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กำลังจะได้สุดยอดผู้รักษาประตูมาเสริมทัพแบบไร้ค่าตัว ซึ่งน่าจะเป็นดีลที่คุ้มค่าที่สุดประจำตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ก็ว่าได้

นายด่านวัย 22 ปี สถาปนาขึ้นมาเป็นจอมหนึบระดับโลกได้แบบเต็มตัว ด้วยฟอร์มสุดเหนียวหนึบและสุขุมเยือกเย็นเกินวัย โดยการเซฟจุดโทษของ บูกาโย ซาก้า ซึ่งยิงเป็นคนสุดท้ายของอังกฤษในนัดชิงชนะเลิศ กลายเป็นฮีโร่พาอิตาลีคว้าแชมป์ยูโร 2020 อย่างสมบูรณ์แบบ

ด้วยผลงานอันเอกอุเช่นนี้ ทำให้ ดอนนารุมมา คว้ารางวัลผู้ล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ไปครอง ซึ่งถือเป็นผู้รักษาประตูคนที่สองที่ทำได้ต่อจาก ปีเตอร์ ชไมเคิล เมื่อปี 1992