Best XI : ทีมยอดเยี่ยมรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 2018

มือกาวจากกาลาตาซารายวัย 32 ปี ลงสนามให้ทีมจอมโหดครบทั้ง 3 นัด และสามารถโชว์ฟอร์มเหนียวหนึบ ทำให้อุรุกวัยเป็นเพียงทีมเดียวที่ไม่เสียประตูในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเซฟได้ทั้งหมด 7 ครั้ง และมีอัตราการเซฟถึง 100 เปอร์เซนต์

ฟูลแบ็คทีมสิงโตคำรามกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่คอยสร้างสรรค์เกมให้ทีมชาติอังกฤษ โดยเฉพาะทีเด็ดที่ลูกเซ็ตเพลย์ หลังจากในทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้ทัพทรีไลออนส์เป็นทีมที่ทำประตูจากลูกตั้งเตะได้มากที่สุด และก็เป็นแนวรับวัย 27 ปี ที่ค่อยเปิดบอลสวยๆ ให้กับเพื่อนร่วมของทีมอยู่เสมอ

ปราการหลังทีมชาติโคลอมเบียยิงได้ 2 ประตู จาก 2 นัดที่ได้โอกาสลงสนาม และมีส่วนสำคัญในการช่วยให้โคลอมเบียไม่เสียประตูในทั้งสองนัดที่เขาลงเล่น หลังจากไม่ได้ลงในนัดแรกที่แพ้ญี่ปุ่น 2-1 เรียกได้ว่าเขาคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ทีมพลิกกลับมาเป็นแชมป์กลุ่มก็อาจจะไม่เกินเลยนัก

แนวรับจากตราหมีเป็นกองหลังเบอร์ต้นๆ ของโลก ที่สามารถโชว์ฟอร์มได้สมราคาและสม่ำเสมอ เขาคือเบื้องหลังที่คอยช่วยให้ทีมจอมโหดไม่เสียเลยแม้แต่ประตูเดียวในรอบแบ่งกลุ่ม 

ฟูลแบ็ควัย 24 ปี แจ้งเกิดในทัวร์นาเมนต์นี้ได้แบบเต็มตัว หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับทีมไวกิ้ง ถึงแม้ว่าจะไม่อาจช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการปราชัยให้เยอรมัน แต่เจ้าตัวก็ถือว่าทำหน้าที่ได้อย่างดี และสามารถทำได้ 1 ประตู จากเกมที่เอาชนะเม็กซิโกไป 3-0

ห้องเครื่องจากเรอัล มาดริด แชมป์ยุโรป 3 สมัยติด เป็นหัวใจในการบัญชาเกมแดนกลางทั้งในสโมสรและทีมชาติโครเอเชีย เขาทำได้โดดเด่นทั้งเกมรุกและเกมรับ รวมถึงทำได้ 1 ประตูในเกมที่ถล่มอาร์เจนตินาขาดลอย 3-0

มิดฟิลด์จอมขยันจากเชลซี ยังคงโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งการวิ่งไม่มีหมด และการเข้าบอลได้อย่างแม่นยำ ทำให้เจ้าตัวสามารถคุมแดนกลางไว้ได้หมด สามารถเปลี่ยนจากเกมรับเป็นเกมรุกได้อย่างรวดเร็ว เป็นหัวใจในแดนกลางของทัพตราไก่อย่างแท้จริง

ในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ทุกคนต่างจับจ้องไปที่ เนย์มาร์ ซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 ของทัพแซมบ้า แต่กลับเป็นคูตินโญ เพลย์เมกเกอร์จากบาร์เซโลนา ที่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ และเป็นคีย์แมนสำคัญช่วยให้บราซิลคว้าอันดับ 1 ในรอบแบ่งกลุ่ม โดยยิงไป 2 ประตู 1 แอสซิสต์ จาก 5 ประตูที่ทีมชาติบราซิลทำได้

ศูนย์หน้าอันดับ 1 ของทัพปีศาจแดงแห่งยุโรป ไม่ทำให้แฟนบอลเบลเยียมผิดหวัง หลังซัดได้ถึง 4 ประตู จาก 2 นัดแรก และคาดว่าดาวเตะจากแมนฯยู น่าจะเป็นคนที่จะท้าแย่งชิงรองเท้าทองคำกับแฮรี เคน และ คริสเตียโน โรนัลโด้ ในทัวร์นาเมนต์นี้

กัปตันทีมและดาวยิงตัวความหวังของทัพสิงโตคำราม ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตามความคาดหมาย หลังจากสามารถทำแฮตทริกในเกมกับปานามา โดยทำไปทั้งหมด 5 ประตูจาก 2 เกมแรก นำเป็นดาวซัลโวของรายการ

ซูเปอร์สตาร์จากเรอัล มาดริด ยังคงยิงประตูต่อเนื่องทั้งในสโมสรและทีมชาติ โดยเฉพาะฟอร์มแฮตทริกในเกมกับสเปน และฟรีคิกสุดสวยที่ยิงใส่ ดาบิด เด เฮอา เป็นประตูสำคัญให้ทีมเก็บ 1 คะแนนสำคัญได้ในนัดแรก โดยเจ้าตัวทำไป 4 ประตูจาก 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม 

และนี่คือหน้าตาของทีมยอดเยี่ยมประจำรอบแบ่งกลุ่มในความคิดของพวกเรา