
Gettyชื่อหน้าของเขาไม่ใช่ แฮร์รี
หลายคนอาจจะคนคุ้นเคยกับชื่อของ แฮร์รี แม็คไกวร์ ทว่า แฮร์รี นั้นไม่ใช่ชื่อนำหน้าจริง ๆ ของเขาแต่อย่างใด เพราะชื่อเต็มของเขาคือ "เจค็อบ แฮร์รี แม็คไกวร์" แต่เจ้าตัวนั้นเลือกนำชื่อกลางอย่าง แฮร์รี มาเป็นชื่อที่ให้คนเรียกโดยทั่วไปนั่นเอง
Gettyเป็นเด็กเรียนเก่ง
อดีตคุณครูของเขาอย่าง ซู เคน เคยออกมาย้อนความทรงจำถึง แม็คไกวร์ ว่าเป็นนักเรียนที่เก่งมาก
“เขาเป็นเด็กหัวดีตั้งแต่อายุยังน้อย เขาสามารถทำทุกอย่างที่คุณขอให้เขาทำและเขาไม่เคยถามว่าทำไม เขาถือว่าเป็นเด็กที่ป็อปปูลาร์เลยนะ”
“เขาเป็นเด็กรูปร่างสูงใหญ่แต่อายุยังน้อย และมีร่างกายที่กำขำแข็งแรงมาก เขายืนหยัดเหนือทีมอื่นๆ เขาเรียนได้เกรด A อยู่เสมอ"
“ผมเคยคิดว่าเขาคงไปเรียนต่อด้านธุรกิจหรือคณิตศาสตร์ และน่าจะเป็นนักบัญชี เขามีความสามารถทางวิชาการมาก”
Gettyเล่นกีฬาเก่งหลายประเภท
แม็คไกวร์ เล่นกีฬาได้หลากหลายประเภทในช่วงที่กำลังเติบโตเข้าสู่วัยรุ่น และยังไม่ได้โฟกัสไปที่ฟุตบอลเพียงอย่างเดียวในตอนนั้น
เขาชอบลงแข่งขันวิ่งแบบ Cross Country เพื่ออยากัพฒนาความแข็งแกร่งด้านร่างกาย นอกจากนี้เขาชอบเล่นรักบี้ เพื่อช่วยให้มีความคล่องตัวและการทำงานเป็นทีม และการเล่นฮอกกี้ซึ่งช่วยในด้านการมองเห็นและการอ่านเกม
Getty Imagesครอบครัวนักฟุตบอล
แม็คไกวร์ ไม่ใช่นักฟุตบอลเพียงคนเดียวในครอบครัวของเขา เพราะว่า โจ และ ลอว์เรนซ์ น้องชายสองคนของเขาก็เป็นนักฟุตบอลเช่นกัน โดยทาง ลอว์เรนซ์ เล่นให้กับเชสเตอร์ฟิลด์ในระดับเนชันแนลลีก ขณะที่ โจ เล่นให้กับเกนซ์โบโร ทรินนิตี้ ในระดับนอร์ทเทิร์น พรีเมียร์ลีก
นอกจากนี้ ลอเรนซ์ ยังเคยได้รับเลือกให้เข้าร่วมทีม England C ซึ่งเป็นทีมสำหรับผู้เล่นอายุต่ำกว่า 23 ปีที่เล่นอยู่ในระดับนอกลีก (ต่ำกว่าลีกทู)
Getty Imagesถูกเพื่อนร่วมทีมตั้งฉายาว่า "Slabhead"
แม็คไกวร์ ได้รับฉายานี้อดีตเพื่อนร่วมทีมเลสเตอร์ ซิตี้และทีมชาติอังกฤษขชอย่าง เจมี วาร์ดี เนื่องจากเป็นคนที่มีขนาดของศีรษะใหญ่มากเมื่อเทียบกับร่างกายของเขา โดยชื่อเล่นนี้ถูกเรียกมาจากในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย
หลังจาก แม็คไกวร์ ทำประตูใส่สวีเดนในฟุตบอลโลกครั้งนั้น วาร์ดี้ก็เข้ามาแซวในห้องแถลงข่าวหลังจบเกมว่า "สวัสดีครับ ผมเจมี วาร์ดี มาจากวาร์ดี้นิวส์ เส้นผ่านศูนย์กลางศีรษะของคุณคือเท่าไหร่"
Getty Imagesมีแฟนบอลสักหน้าของเขาไว้ที่หน้าอก
ในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2018 มีแฟนบอลทีมชาติอังกฤษรายหนึ่งสัญญาว่าจะสักใบหน้าของ แม็คไกวร์ ไว้ที่หน้าอก หากว่เขาทำประตูได้ในเกมพบสวีเดน และเมื่อ แม็คไกวร์ ยิงใส่สวีเดนได้จริง ๆ แฟนบอลรายนี้ก็รักษาคำพูดด้วยการไปสักที่หน้าอกจริง ๆ
เรื่องนี้ทำให้ แม็คไกวร์ ประทับใจมาก และตัดสินใจมอบเสื้อทีมชาติอังกฤษพร้อมลายเซ็นเป็นของขวัญตอบแทนแฟนบอลรายนี้ด้วย
Getty Imagesชอบตีกอล์ฟ
แม็คไกวร์ถือเป็นนักฟุตบอลอีกรายที่ชื่นชอบการเล่นกอล์ฟ และเคยลงเล่นแข่งขันกอล์ฟในทัวร์นาเมนต์พิเศษร่วมกับนักกีฬาดังคนอื่น ๆ อีกด้วย
เขามักจะชอบไปเล่นกอล์ฟกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ ลุค ชอว์ ว่ากันว่าการเล่นกอล์ฟทำให้ แม็คไกวร์ ผ่อนคลายจากความกดดันในการเป็นนักเตะอาชีพ และเขาสนุกกับความท้าทายในการกอล์ฟทีเดียว
Gettyลงเล่นครบทุกนาทีให้แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2019-20
แม็คไกวร์ สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองอย่างรวดเร็ว ในฐานะหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญที่สุดของยูไนเต็ด หลังจากถูกเซ็นสัญญามาร่วมทีมในปี 2019 และหลังจากอยู่กับทีมเพียงไม่นานก็ถูก โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือปีศาจแดง ณ เวลานั้นแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมด้วย
กองหลังชาวอังกฤษยังได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-20 แบบครบทั้ง 38 เกม และครบทุกนาที ทำให้กลายเป็นนักเตะเอาท์ฟิลด์คนแรกนับตั้งแต่ปี 1995 ที่ทำแบบนี้ได้
Gettyลงเล่นติดต่อกันแบบไม่ถูกเปลี่ยนตัวเลยมากที่สุด
เมื่อวันที่ 25 เมษายน ในปี 2021 เขาทาบสถิติสโมสรของ แกรี พัลลิสเตอร์ ซึ่งลงเล่นในพรีเมียร์ลีกติดต่อกันแบบไม่ถูกเปลี่ยนตัวออกเลยมากที่สุด 71 เกม หลังจากลงเล่นในเกมพบกับลีดส์ ยูไนเต็ด
ทว่าเขาพลาดโอกาสทำลายสถิติของ พัลลิสเตอร์ ไปอย่างน่าเสียดาย เพราะดันถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมต่อมาที่พบกับแอสตัน วิลลา
Getty Imagesกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์
หลังจากทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจกับเลสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ แม็คไกวร์ ได้รับความสนใจจากสโมสรใหญ่มากมาย จนสุดท้ายก็ถูกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าตัวไปเสริมทัพด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลกของนักเตะตำแหน่งกองหลังที่ 80 ล้านปอนด์ แซงหน้าสถิติเดิมของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่เคยถูกลิเวอร์พูลซื้อตัวในราคา 75 ล้านปอนด์
Getty Imagesเคยได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสโมสร 3 ครั้ง
แม็คไกวร์ ลงเล่นระดับอาชีพครั้งแรกให้กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2011 และเพียงแค่ฤดูกาลแรกก็คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของสโมสร รวมถึงเป็นดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรได้ทันที รวมถึงยังมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของลีกวันฤดูกาล 2011-12 ซึ่งจัดโดยนิตยสาร BBC Match of the day
ขณะเดียวกัน เขายังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรได้อีก 2 ครั้งด้วย ซึ่งเป็นการได้รางวัลนี้ 3 ครั้งติดต่อกัน
Getty/GOALมีไอดอลเป็น ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ จอห์น เทอร์รี
ในช่วงวัยรุ่น แม็คไกวร์ ชื่นชอบการเล่นของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ จอห์น เทอร์รี โดยมองทั้งสองคนนี้เป็นไอดอลในการเล่นตำแหน่งกองหลังและพยายามจุดเด่นของทั้งคู่มาปรับใช้กับตัวเอง
“สองเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตอนที่ผมกำลังเติบโตคือ จอห์น เทอร์รี และ ริโอ เฟอร์ดินานด์” แม็คไกวร์ เคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ สมัยที่ตัวเองยังเป็นนักเตะของฮัลล์ ซิตี้ เมื่อฤดูกาล 2016-17
“ผมมองไปที่พวกเขา โดยเฉพาะ ริโอ เฟอร์ดินานด์ เพราะเขาขึ้นบอลจากแนวรับได้ดีมาก และเก่งเรื่องการครองบอล เขามีทุกอย่างในช่วงพีคของเขา และเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ยอดเยี่ยมในยุคของเขา”
Getty Imagesเคยเล่นกองกลาง
ช่วงก่อนอายุ 16 ปี เขายังเป็นนักเตะในตำแหน่งกองกลาง จนกระทั่ง จอห์น เพมเบอร์ตัน โค้ชทีมเยาวชนของเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ได้ค้นพบว่า แม็คไกวร์ มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการเป็นกองหลังได้ดีกว่า
“ผมจะไม่ให้คุณเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางอีกแล้ว ในขณะที่ผมยังเป็นผู้จัดการทีมที่นี่” เพมเบอร์ตัน เคยให้สัมภาษณ์กับThe Times
“ถ้าเขาเล่นมิดฟิลด์ มีนักเตะมากมายที่สามารถทำในสิ่งที่เขาทำได้ แต่ในฐานะเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ไม่มีใครสามารถทำในสิ่งที่เขาทำได้กับลูกฟุตบอล"
Gettyเรื่องฉาวที่กรีซ
เรื่องอื้อฉาวที่สุดของ แม็คไกวร์ คือการถูกจับกุมและถูกตัดสินลงโทษในข้อหาทำร้ายร่างกายตำรวจในกรีซเมื่อปี 2020 จากการไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทะเลาะวิวาทกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกไนต์คลับ ขณะไปพักผ่อนในเมื่องมิโคนอส ของประเทศกรีซ ทำให้ถูกจับกุมในตอนนั้นและถูกตัดสินว่ามีความผิดในภายหลัง
เขาได้รับโทษจำคุก 21 เดือนจากคดีนี้ แต่ตัดสินใจยื่นอุทธรณ์คำตัดสินและหวังว่าจะได้รับการลดหย่อยโทษในคดีที่เกิดขึ้นบนเกาะซีรอส
ปัจจุบันเรื่องนี้ยังอยู่ในกระบวนการอุทธรณ์ ทำให้ แม็คไกวร์ ยังไม่ต้องรับโทษ และยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
Gettyเป็นแกนนำที่สนับสนุนด้านสุขภาพจิต
เมื่อปีที่แล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีแคมเปญรณรงค์ให้ตระหนักถึงปัญหาสุขภาพจิต โดยพยายามให้นักเตะเปิดใจมากขึ้นเกี่ยวกับปัญหาของพวกเขา และเพื่อให้พวกเขาได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็น โดยมี แม็คไกวร์ ในฐานะกัปตันทีมได้รับการประกาศให้เป็นทูตของแคมเปญนี้
แม็คไกวร์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสโมสรถึงแคมเปญนี้ไว้ว่า "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทำได้อย่างยอดเยี่ยมในด้านนี้ทั้งในระดับทีมชุดใหญ่, อะคาเดมี และในชุมชนใกล้กับสโมสร ผมรอคอยที่จะสนับสนุนในฐานะทูตของการตระหนักรู้ด้านสุขภาพจิต ผมผ่านประสบการณ์ตรงกับตัวเองมาแล้ว ว่าบรรดานักเตะดาวรุ่งต้องเจออะไรมาบ้าง และในฐานะกัปตันทีม ผมพร้อมอยู่เคียงข้างทุกคนเสมอ เพื่อสนับสนุนพวกเขาเมื่อพวกเขาเข้ามาในระบบอะคาเดมี"
“สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องรู้สึกสบายใจที่จะพูดคุยถึงปัญหาใด ๆ ที่พวกเขาอาจจะมี และในฐานะสังคมที่เราส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีให้กับทุกคน นีเป็นแคมเปฯที่สมบูรณ์แบบในการส่งเสริมสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้เล่นอายุน้อยของเรา”
โฆษณา

