15 คนในตำนาน : เผยรายชื่อแข้งเคยได้ 10 คะแนนเต็มจาก L’Equipe

นักเตะคนแรกที่ได้คะแนน 10 เต็มจาก L’Equipe เกิดขึ้นในเกมเดียวกันคือ โซซี และ มาร์ตินี สองดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศส ในเกมรอบรอบชิงแชมป์ยุโรปรุ่น U21 เลกแรก ซึ่งทีมตราไก่เอาชนะ กรีซ ไปได้ 3-0

โซซี เป็นตัวหลักของทีมชุดดังกล่าว ขณะที่ มาร์ตินี โชว์เซฟได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดทั้งเกมช่วยให้ทีมไม่เสียประตู

L'Equipe ต้องให้คะแนน 10 เต็มกับ ซาเลนโก้ จากผลงานในเกมที่ช่วย รัสเซีย ถล่ม แคเมอรูน 6-1 ในฟุตบอลโลกปี 1994

ซาเลนโก้ เป็นนักเตะที่ทำสถิติยิง 5 ประตูในเกมเดียวของศึกฟุตบอลโลก และเป็นหนึ่งในดาวซัลโวร่วมของทัวร์นาเม้นท์ร่วมกับ ฮริสโต สตอยคอฟ แม้ว่ารัสเซียจะไม่ผ่านรอบแรกก็ตาม

ไม่มีใครคาดคิดว่า ออร์ฮุส ทีมจากเดนมาร์กจะสามารถชนะ น็องต์ หนึ่งในทีมเต็งยูฟ่าคัพ ฤดูกาล 1997-98 ได้

เกมเลกแรกเสมอกัน 2-2 ก่อนที่ ออร์ฮุส จะกลับมาเปิดบ้านเอาชนะ 1-0 ในเกมเลกสอง ซึ่ง วินด์เฟลด์ โชว์ซูเปอร์เซฟให้เห็นตลอดทั้งเกม

อย่างไรก็ตาม แม้จะฟอร์มเหนียบหนึบกับสโมสรแต่เขาไม่เคยได้ลงเฝ้าเสาให้ทีมชาติเดนมาร์กเลย เพราะมี ปีเตอร์ ชไมเคิล เป็นกำแพงขวางอยู่

ต้องใช้เวลาถึง 13 ปี กว่าที่ L'Equipe จะให้คะแนนนักเตะเต็ม 10 อีกครั้ง ซึ่งคนที่ได้คือเจ้าหนูชาวอาร์เจนตินาของ บาร์เซโลนา

เป็นอีกหนึ่งในหลายๆเกมที่ ลิโอเนล เมสซี แสดงให้เห็นว่าเขายอดเยี่ยมแค่ไหนเมื่อเล่นในเกมใหญ่ เขาโชว์ทั้งเทคนิคและพละกำลังอันน่าเหลือเชื่อตลอดทั้งเกม จนช่วยให้ อาซูลกรานา ไล่ถล่ม อาร์เซนอล ไปแบบขาดลอย

ลิโอเนล เมสซี ได้คะแนนเต็ม 10 อีกครั้ง จากเกมที่เป็นฝันร้ายของ แบรนด์ เลโน ผู้รักษาประตูของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน

บาร์เซโลนา เปิดบ้านถล่มทีมห้างขายยาไปแบบขาดลอย 7-1 โดยที่แนวรุกชาวอาร์เจนตินายิงคนเดียว 5 ประตู

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2013 เป็นช่วงที่มหาอำนาจลูกหนังของยุโรปเปลี่ยนจาก สเปน มาเป็น เยอรมัน ดูได้จากการที่ทั้ง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ บาเยิร์น มิวนิค ไล่ถล่ม เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลนา แบบสู้ไม่ได้

หนึ่งในเกมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือเกมที่เสือเหลือง เปิดบ้านชนะ ราชันชุดขาว 4-1 ซึ่ง เลวานดอฟสกี้ เหมาทำคนเดียวทั้ง 4 ประตู

คาร์ลอส เอดูร์อาโด้ ทำไปทั้งสิ้น 10 ประตูให้กับ นีซ ในฤดูกาล 2014-15 และครึ่งหนึ่งมาจากเกมบุกถล่ม แก็งก็อง 7-2

เขาโชว์ฟอร์มได้เข้าขั้นสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะลูกฟรีคิกสุดเฉียบคมจากระยะ 30 หลา ในเกมนี้

หลังจาก คาร์ลอส เอดูร์อาโด้ เราต้องรออีก 4 ปี กว่าที่จะมีนักเตะที่ได้ 10 คะแนนเต็มจาก L'Equipe ซึ่งก็คือ เนย์มาร์ ซูเปอร์สตาร์ของ เปแอสเช

ดาวเตะแซมบ้าโชว์สุดเหนือชั้นป่วนแนวรับของ ดิฌง ตลอดทั้งเกม จนช่วยให้ต้นสังกัดชนะไปด้วยสกอร์ขาดลอยถึง 8-0

อาแย็กซ์ สร้างเซอร์ไพรส์เมื่อบุกเอาชนะ เรอัล มาดริด ได้ถึง ซานติอาโก เบร์นาบิว 4-1 โดยที่ฟอร์มของ ทาดิช คือส่วนสำคัญในเกมนี้

ดาวเตะชาวเซิร์บทำหนึ่งประตูกับสองแอสซิสต์ช่วยให้ทีมของ เอริค เทน ฮาก พลิกสถานการณ์ได้อย่างเหลือเชื่อ

การพาทีมกลับมาจากปากเหวและผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็เหมาะสมแล้วกับการได้ 10 คะแนนเต็ม

จากตามหลังในครึ่งแรก 0-2 ครึ่งหลัง มูรา ทำแฮตทริคช่วยให้สเปอร์สพลิกสถานการณ์ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แม้ที่สุดแล้วพวกเขาจะไม่สมหวัง แต่ประตูที่สามในช่วงนาทีสุดท้ายของการทดเวลาเจ็บของดาวเตะชาวบราซิลเป็นโมเม้นท์ที่จะถูกพูดถึงไปตลอด

สเปอร์ส คงไม่ชอบการพ่ายแพ้ถึง 7-2 โดยเฉพาะอดีตผู้เล่นอาร์เซนอลอย่าง นาบรี้ ทำทั้งแฮตทริคและแอสซิสต์ได้ในเกมนี้

การย้ายมาเล่นในเยอรมันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของเขา หากมองว่าไม่กี่ปีที่แล้วเขายังไม่สามารถแย่งตำแหน่งในทีม เวสต์บรอมวิช ของ โทนี พูลิส ได้เลย

เอ็มบัปเป้ โชว์ฟอร์มระดับโลกให้เราเห็นอยู่บ่อยครั้ง แต่มีเพียงเกมเดียวเท่านั้นที่เขาได้คะแนนความสามารถเต็ม 10 จาก L'Equipe

ดาวเตะเปแอสเช ซัดคนเดียว 4 ประตูช่วยให้ฝรั่งเศสเอาชนะ คาซัคสถาน ขาดลอย 8-0 ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รวมถึงสร้างปัญหาให้แนวรับคู่แข่งตลอดทั้งเกม

เปแอสเช ไม่ค่อยแพ้ในเกมลีกเอิง ซึ่งหากพวกเขาแพ้ก็คาดเดาได้เลยว่าต้องเป็นเกมที่ผู้รักษาประตูของทีมคู่แข่งโชว์ฟอร์มได้สุดยอด

ลาฟงต์ ทำอย่างที่ทุกคนคิด แม้จะเสียไปหนึ่งประตู แต่หากมองถึงโอกาสที่ เปแอสเช มีในเกมนั้น พวกเขาคงแพ้เละเทะหากไม่ได้จอมหนึบรายนี้ช่วยเอาไว้ จนถึงขั้น L’Equipe ต้องยอมมอบ 10 คะแนนเต็มให้

ฮาลันด์ ย้ายมาสร้างความสั่นสะเทือนให้กับพรีเมียร์ลีก และแทบไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวเลยกับลีกที่ได้ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลก

เขาทำแฮตทริคให้ แมนฯซิตี้ ในเกมพบคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนฯยูไนเต็ด และยังทำแอสซิสต์ได้อีกด้วย เชื่อได้เลยว่าเขาจะได้คะแนน 10 เต็ม อีกหลายครั้งในอนาคต

ลิวาโควิช โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในศึกฟุตบอลโลก 2022 โดยเฉพาะในเกมกับ บราซิล ที่เขาเซฟแบบน่าเหลือเชื่อไปถึง 11 ครั้งในเกม

รวมถึงในการดวลจุดโทษเขาเซฟลูกยิงของ โรดริโก้ อย่างเด็ดขาด และช่วยให้โครเอเชียผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ

ฮาลันด์ ทำแฮตทริคที่ห้าของเขาในฤดูกาล 2022-23 ช่วยให้ แมนฯซิตี้ ถล่ม ไลป์ซิก ขาดลอย 7-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกสอง

นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาได้คำแนนความสามารถเต็ม 10 จาก L'Equipe โดยสิ่งเดียวที่เจ้าตัวเสียดายในเกมนี้คือโดน เป๊ป กวาร์ดิโอลา เปลี่ยนตัวออกเร็วไป ทำให้ชวดโอกาสลุ้นทำดับเบิลแฮตทริค