13 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ วิคเตอร์ โอซิมเฮน

โอซิมเฮน เกิดวันที่ 29 ธันวาคม 1998 ที่เมือง ลากอส เขาเป็นลูกชายคนเล็กสุดในพี่น้องหกคน พ่อแม่ของเขามีพื้นเพมาจากตอนใต้ของไนจีเรีย

เขาเติบโตมากับแอนดรูว์พี่ชายและพี่น้องอีก 4 คนในโอลูโซซันชุมชนเล็กๆแถวโอเลกันในลากอส

โอซิมเฮน มีเรื่องราวที่น่าสนใจภายใต้ความหมายในนามสกุลของเขา

ในภาษาท้องถิ่น Ishan ชื่อตระกูล “โอซิมเฮน” หมายความว่า “พระเจ้านั้นประเสริฐ”

ตอนทะลุขึ้นมาจากทีมเยาวชน, โวล์ฟสบวร์ก เป็นทีมที่ให้ความสนใจในตัวเขา ก่อนคว้าตัวมาจาก อัลติเมต สไตร์เกอร์ อคาเดมี ทีมท้องถิ่นในลากอส ด้วยค่าตัวราว 3.6 ล้านยูโร

เขาคือหนึ่งนักเตะค่าตัวแพงที่สุดที่ย้ายโดยตรงจากทีมสมัครเล่นในแอฟริกาสู่ยักษ์ใหญ่ของยุโรป

โอซิมเฮน เป็นส่วนสำคัญในการพา ไนจีเรีย คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก U17 ในชิลี, เขาทำ 10 ประตูจาก 7 เกมตลอดทัวร์นาเมนต์

เขาจบทัวร์นาเมนต์ด้วยตำแหน่งดาวซัลโว, คว้ารองเท้าทองคำและลูกบอลเงินไปครอง

ในชิลี, โอซิมเฮนสร้างสถิติทำประตูในฟุตบอลโลก U17 ด้วยการทำ 10 ประตูใน 7 เกมทำลายสถิติอันยาวนานของฟลอรองต์ซินามาปงโกลล์และซูลีย์มาเนคูลิบาลีลงได้สำเร็จ

ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขาในฟุตบอลโลก U17 ยังสานต่อและทำให้เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ CAF ประจำปี 2015 ไปครอง

โอซิมเฮนเติบโตขึ้นมาโดยมี ดิดิเยร์ ดร็อกบา ตำนานเชลซีเป็นไอดอลของเขา

“ดร็อกบาเป็นนักเตะที่ไม่ยอมแพ้และมีจิตวิญญาณนักสู้ นอกจากนี้เขายังมีแพสชั่นที่ยอดเยี่ยม จริงจังเสมอเมื่ออยู่ในสนาม และไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนเขาจะพยายามและทำประตูเพื่อทีมอยู่เสมอ” โอซิมเฮน เผยกับ ESPN

ไม่นานมานี้ดร็อกบาเพิ่งกล่าวชื่นชมผลงานของโอซิมเฮนที่พาทีมบินสูงในเซเรียอาและแชมเปี้ยนส์ลีก

ทุกคนเห็นตรงกันว่า โอซิมเฮน คือหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในยุคนี้ แต่เรื่องราวมันอาจเปลี่ยนแปลงไป

กองหน้าทีมชาติไนจีเรียได้รับความสนใจจากหลายทีมในปี 2015 รวม อาร์เซนอล ที่เขาได้พูดคุยกับ อาร์แซน เวนเกอร์ มาแล้ว

“ผมได้พูดคุยกับ อาร์แซน เกนเกอร์​ หลังทัวร์นาเมนต์จบลง และเขาต้องการให้ผมย้ายไปอาร์เซนอล”

“ผมมีหลายตัวเลือกบาร์เซโลนา, อินเตอร์, แอตเลติโก้มาดริด, ยูเวนตุสและอีกเพียบอาร์เซนอลเป็นตัวเลือกที่ดีแต่ไม่ใช่ดีที่สุดในเวลานั้นผมอยากลงเล่นให้เร็วที่สุดตอนอายุ 18 ปีผมต้องการไปในที่ๆที่ผมจะได้ลงเล่นและพัฒนาศักยภาพโวล์ฟสบวร์กแสดงสิ่งนั้นให้ผมได้เห็น”

ก่อนที่ฤดูกาล 2019/20 จะยกเลิกด้วยโควิด-19, โอซิมเฮน ทำผลงานน่าประทับใจทำ 18 ประตูจาก 38 เกม

ฟอร์มของเขาทำให้เขาได้รางวัล Marc Vivien Foe รางวัลที่มอบให้นักเตะแอฟริกาที่ดีที่สุดในลีกเอิงมอบโดย Radio France International (RFI)

หลังทำประตูเป็นกอบเป็นกำ โอซิมเฮน ได้รับความจาก นาโปลี ทีมในเซเรีย อา

เขาย้ายไปร่วมทีมนาโปลีด้วยค่าตัว 70 ล้านยูโรพ่วงโบนัสถึง 80 ล้านยูโรเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์นักเตะแอฟริกาในเวลานั้น

โอซิมเฮน เป็นขวัญใจคนใหม่ของนาโปลีอย่างรวดเร็ว

ดาวยิงไนจีเรียทำแฮตทริกสองเกมติดต่อกันในสองเกมแรกของเขากับสโมสรในปี 2020 ในเกมปรีซีซั่น

ตามสื่อของอิตาลีอย่าง II Roma แฟนนาโปลีต่างให้ฉายาเขาว่า “มิสเตอร์แฮตทริก”

นับตั้งแต่ประเดิมทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2017, โอซิมเฮน ทำไปแล้ว 15 ประตูจากการลงสนาม 23 เกมให้ ซูเปอร์ อีเกิลส์

นั่นสูงสุดเป็นอันดับเก้าในประวัติศาสตร์ด้วยค่าเฉลี่ยที่ดีที่สุด (0.68 ประตูต่อเกม) ใน 10 อันดับแรก

ในจำนวนนักเตะที่ยังเล่นอยู่เขาตามหลังอาเหม็ดมูซาและโอดิออนอิกาโลที่ยิงไปคนละ 16 ประตูเพียงประตูเดียว

โอซิมเฮน กระหน่ำยิงประตูให้นาโปลีเป็นกอบเป็นกำในฤดูกาลนี้ เขาทำไปแล้ว 21 ประตูในลีก ซึ่งนับเป็น 32.8 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดที่ทีมทำได้ในลีกฤดูกาลนี้

นอกจากนี้เขายังทำไปแล้ว 4 ประตูในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก