10 แข้งไม่เกี่ยงงาน เด่นทั้งกองกลางและกองหลัง

ฟาบินโญ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในตำแหน่งแบ็คขวา ก่อนมาโชว์ฟอร์มโดดเด่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับกับโมนาโก

ซึ่งเจ้าตัวก็ย้ายมาสานต่อความยอดเยี่ยมด้วยเป็นกำลังหลักในแผนกองกลาง 3 คน ของลิเวอร์พูลในปี 2018 และพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และพรีเมียร์ลีกได้อย่างยิ่งใหญ่

ทว่าจากการบาดเจ็บของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ในฤดูกาลนี้ ทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องถอยดาวเตะบราซิเลียนไปยืนเป็นกองหลัง ซึ่งแม้จะผ่านไปเพียงไม่กี่นัด แต่เขาก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ

กอมปานี เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในตำแหน่งกองหลังกับอันเดอร์เลชท์ ก่อนย้ายไปร่วมทัพฮัมบูร์กในปี 2006

ในฤดูกาล 2007/08 เขาถูกดันขึ้นไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ และโชว์ฟอร์มโดดเด่นจนถูกแมนฯ ซิตี้ คว้าตัวไปบัญชาเกมแดนกลางในฤดูกาลถัดมา

โดยในปีแรกกับเรือใบสีฟ้า เขาก็ถูกส่งลงสนามในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ทว่าอาการบาดเจ็บบริเวณนิ้วเท้าช่วงต้นฤดูกาล 2009/10 ทำให้เขาถูกถอยกลับไปเป็นกองหลังดั่งเดิม

เมื่อได้เล่นในตำแหน่งที่ถนัดอีกครั้ง ดาวเตะชาวเบลเยียมก็ฉายแววแกร่งยิ่งกว่าเดิม พร้อมรับบทกัปตันที่พาเดอะ ซิตี้เซนท์ส ไล่ล่าความสำเร็จตลอดทศวรรษที่ผ่านมา

คิมมิช สร้างชื่อกับไลป์ซิกในฐานะกองกลางอนาคตไกล ก่อนถูกบาเยิร์นดึงตัวมาปลุกปั้นต่อในปี 2015

ในฤดูกาลแรกกับเสือใต้ เขามักจะถูกส่งลงสนามในฐานะกองหลังตัวกลาง สลับกับกองกลางตัวรับในบางครั้ง และตำแหน่งที่ทำให้ร้อนแรงสุดขีดคือแบ็คขวา ซึ่งเจ้าตัวก็เติมเกมรุกและแอสซิสต์ได้เป็นกอบเป็นกำ

แต่กุนซือคนปัจจุบันอย่าง ฮันซี ฟลิกซ์ มักจะใช้งาน แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ ทางกราบขวามากกว่า ทำให้ดาวเตะชาวเยอรมันต้องกลับไปยืนเป็นมิดฟิลด์ดั่งเดิม แต่เขาก็ยังยึดตัวจริงไม่เปลี่ยนแปลง

มาสเคราโน คือกองกลางพันธุ์แกร่งของลิเวอร์พูล ก่อนย้ายมาสานต่อความยอดเยี่ยมกับบาร์เซโลนาในปี 2010

โดยดาวเตะอาร์เจนไตน์ เริ่มถูกจับไปยืนกองหลังคู่กับ เคราร์ด ปิเก้ เนื่องจาก การ์เลส ปูโยล ได้รับบาดเจ็บหนักช่วงปลายฤดูกาล 2010/11

หลังจากนั้นเขาก็ถูกส่งลงสนามในฐานะกองหลังเป็นหลัก สลับกับกองกลางตัวรับยามจำเป็น จนถึงวันโบกมือลาสโมสรในปี 2018

ชาน ผ่านการค้าแข้งกับทีมบิ๊กเนมมากมายทั้งบาเยิร์น, เลเวอร์คูเซน, ลิเวอร์พูล และยูเวนตุส

โดยภาพจำของเขากับทีมเหล่านี้คือการเป็นกองกลางตัวตัดเกมและวางบอลยาวได้อย่างแม่นยำ

แต่หลังจากดาวเตะชาวเยอรมันย้ายมาสวมเสื้อดอร์ทมุนด์ในตลาดหน้าหนาว 2020 เจ้าตัวก็ถูกเปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นกองหลังฝั่งขวา ในแผนหลัง 3 คนของลูเซียง ฟาฟร์ และยึดตัวจริงของทีมจนถึงปัจจุบัน

มาร์ติเนซ เป็นเด็กปั้นของบิลเบา และสร้างชื่อจากการเป็นกองกลางที่มีจุดเด่นในลูกกลางอากาศและการยิงไกล

เขาเริ่มเล่นเป็นกองหลังครั้งแรกในฤดูกาล 2011/12 โดยจับคู่กับ มิเกล ซาน โฆเซ ในถิ่นซาน มาเมส แต่ก็เป็นฤดูกาลเดียวก่อนที่จะกลับมาเล่นกองกลางตามปกติ

หลังจากนั้นดาวเตะสายเลือดบาสก์ก็ย้ายมาเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค และถูก เป๊ป กวาร์ดิโอลา ส่งลงสนามในตำแหน่งกองหลังตัวหลักของทีม

แต่หลังจากเป๊ปอำลาสโมสร เขาจึงถูกดันกลับไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับอีกครั้งจนถึงปัจจุบัน

โรแบร์โต้ เป็นผลผลิตจากลา มาเซีย และเขาคือกองกลางที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นเกินเพื่อนร่วมรุ่นในทีมเยาวชน ก่อนเดบิวต์กับทีมชุดใหญ่ในปี 2010

แต่ด้วยความที่บาร์เซโลนามีมิดฟิลด์ระดับซูเปอร์สตาร์หลายราย ทำให้เจ้าตัวไม่ได้รับโอกาสมากนัก

จนกระทั่งช่วงท้ายฤดูกาล 2015/16 ดาวเตะสแปนิช ถูก หลุยซ์ เอ็นริเก้ ส่งลงสนามในฐานะแบ็คขวาจำเป็น ซึ่งเขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม จนยึดตัวจริงทางกราบขวาของอาซูลกรานาเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

ไดเออร์ คือนักเตะสารพัดประโยชน์มาตั้งแต่เป็นเยาวชนของสปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งเขาเล่นได้ทั้งแบ็คซ้าย-ขวา, กองหลัง และกองกลาง

หลังย้ายกลับอังกฤษมาเล่นให้สเปอร์สในปี 2014 เจ้าตัวก็ยังคงต้องสลับลงสนามระหว่างกองกลางและกองหลังทุกฤดูกาล แถมบางครั้งยังต้องไปยืนเป็นแบ็คขวาด้วย

จนกระทั่งการเข้ามาของโจเซ มูรินโญ ในปี 2019 ดาวเตะชาวอังกฤษก็กลายเป็นกองหลังแบบเต็มตัว และโชว์ฟอร์มแกร่งจนกลายเป็นคนสำคัญของไก่เดือยทอง

แฟร์นานดินโญ เป็นกองกลางผู้ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะตอนค้าแข้งกับชัคห์ตาร์ โดเน็ตส์ค หรือปัจจุบันกับแมนฯ ซิตี้

โดยจุดเริ่มต้นการเป็นกองหลังของเขาเริ่มต้นในฤดูกาล 2019/20 เมื่อ อายเมริก ลาปอร์กต์ ได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องพักยาว และ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ไม่ได้ซื้อใครมาเพิ่ม

ทำให้ดาวเตะชาวบราซิลต้องถอยไปยืนแทนตลอดทั้งฤดูกาลนั้น และพาสโมสรคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ มาครองได้ด้วย

ไรซ์ เติบโตมาจากอะคาเดมีของเชลซี ก่อนย้ายเข้าสู่ทีมเยาวชนของเวสต์แฮมในปี 2014 ซึ่งเขาเริ่มต้นกับด้วยการเป็นกองหลัง ก่อนที่จะถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัวในฤดูกาล 2017/18

แต่ด้วยจุดเด่นในด้านการเลี้ยงบอลและวางบอลยาว ทำให้ในฤดูกาลถัดมา เจ้าตัวถูกดันขึ้นไปเล่นเป็นกองกลางตัวรับ และโชว์ฟอร์มร้อนแรงกว่าเดิมจนถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษ

หลังจากนั้นดาวรุ่งรายนี้ก็ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับบรรดาทีมบิ๊กเนมเรื่อยมา โดยเฉพาะกับสิงห์บลู ที่มีเพื่อนรักอย่าง เมสัน เมาท์ ค้าแข้งอยู่