Getty แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือสองทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างมากของวงการฟุตบอลอังกฤษ และเป็นสองทีมที่ขึ้นชื่อว่ามีชื่อเสียงและร่ำรวยติดอันดับโลก
อย่างไรก็ตาม แม้ชื่อเสียงและรายได้จะเป็นสิ่งดึงดูดใจของนักฟุตบอล แต่ก็มีหลายคนที่เลือกจะปฏิเสธการมาเล่นที่ แมนเชสเตอร์
ขณะที่บางรายย้ายมาเล่นแล้ว แต่ก็ไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตจนต้องย้ายทีม อะไรคือสาเหตุ เราลองมาหาคำตอบไปพร้อมกัน
.jpg?auto=webp&format=pjpg&width=3840&quality=60)
Getty Imagesนักฟุตบอลรายหนึ่งที่เป็นแหล่งข่าวของ GOAL เผยว่าชีวิตในเมือง แมนเชสเตอร์ ค่อนข้างเรียบง่ายและสงบ ซึ่งบางคนอาจชอบ แต่สำหรับนักเตะที่ย้ายมาจากเมืองใหญ่อย่าง ปารีส, มาดริด, มิลาน หรือเมืองใหญ่ในประเทศอื่นๆ หรือแม้กระทั่งจากลอนดอน ที่นี่จะกลายเป็นสถานที่ที่ไร้ชีวิตชีวาไปในทันที
"ไม่มีนักเตะคนใดไม่อยากย้ายไปเล่นให้ แมนซิตี้ หรือ แมนฯยูไนเต็ด พวกเขาคือสโมสรใหญ่ซึ่งบางทีมีอิทธิพลกับนักเตะมากกว่าการใช้ชีวิตในเมือง" แหล่งข่าวเผย
"นักเตะทุกคนอยากไปเล่นในอังกฤษ มันเป็นลีกที่ดีสุดในโลกด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่พวกเขาส่วนใหญ่อยู่แต่ในบ้านไปวันๆเท่านั้น ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำและเน้นไปที่การเล่นฟุตบอลเป็นส่วนใหญ่"
"ถ้าคุณถาม ฮาลันด์ หรือ กรีลิช พวกเขาคงดีใจที่ได้เทรเปิลแชมป์ แต่ผมไม่คิดว่าเมืองนี้จะเหมาะสำหรับนักเตะอายุน้อยสักเท่าไหร่"
FC Barcelonaทำไมสตาร์ดังจาก ลาลีกา หลายราย ถึงมีปัญหาในปรับตัวเข้ากับชีวิตใน แมนเชสเตอร์?
อิลคาย กุนโดกัน กำลังจะย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลนา หลังจากค้าแข้งกับ แมนฯซิตี้ มาเจ็ดปี ซึ่งเชื่อได้เลยว่าเขาจะพบการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้นแน่นอน
"ถ้าคุณอายุยังน้อยและเพิ่งเริ่งต้นอาชีพ ไม่มีใครปฏิเสธการย้ายไป แมนเชสเตอร์ แน่นอน" แหล่งข่าวคนเดิมกล่าว "กุนโดกัน อยู่แมนเชสเตอร์มา 7 ปี ดังนั้นเขาต้องการความท้าทายใหม่ แล้วทำไมเขาถึงจะไม่อยากไปอยู่ไหนสักแห่งที่มีท้องฟ้าสดใส และหาซูชิอร่อยๆกินได้ง่ายๆ"
"แน่นอนว่าเมืองช่วยดึงดูดใจนักเตะได้ คุณไม่สามารถเปรียบเทียบ แมนเชสเตอร์ กับ บาร์เซโลนา เมืองที่มีแสงแดดทั้งวัน, มีอาหารหลากหลายและมีชายหาดที่ทุกคนบนโลกอยากไป ไม่มีเมืองไหนในสหราชอาณาจักรเทียบกับบาร์เซโลนาได้"
"แมนเชสเตอร์ ไม่ใช่เมืองที่แย่ แต่มันไม่ได้อยู่ในระดับที่คุณต้องการ ตอนนี้มันดีขึ้นแล้ว แต่เทียบไม่ได้กับปารีส, บาร์เซโลนา หรือแม้แต่ลอนดอน ซึ่งเป็นนิวยอร์คของยุโรป"
Gettyชื่อเสียงในด้านร้านอาหารของเมือง แมนเชสเตอร์ ดีขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนได้รับเสนอชื่อจาก Lonely Planet ให้เป็นหนึ่งในเมืองที่มีอาหารดีที่สุดของสหราชอาณาจักร
เป๊ป กวาร์ดิโอลา เปิดร้านอาหาร TAST ซึ่งเป็นร้านอาหารคาตาลันสุดหรูใจกลางเมือง แมนเชสเตอร์ นอกจากนี้เรายังสามารถหาร้านอาหารสเปนได้อีกหลายร้านที่กระจายอยู่ทั่วเมือง เช่นเดียวกับอาหารญี่ปุ่นบรรยากาศดี
เออร์ลิง ฮาลันด์ ชอบกินร้านอาหารสตรีทฟู้ดอินเดียอย่าง Dishoom และร้านอาหารอิตาลีชื่อดังของเมือง San Carlo
อย่างไรก็ตาม แม้ร้านอาหารใน แมนเชสเตอร์ จะดีขึ้นมาก แต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน
ภรรยาของ อังเคล ดิ มาเรีย เคยนิยามถึงอาหารท้องถิ่นของ แมนเชสเตอร์ ว่า "น่าขยะแขยง" ในขณะที่ภรรยาของ ดาบิด เด เคอา ก็ไม่เลือกที่จะใช้ชีวิตที่อังกฤษแบบเต็มตัวกับสามี เพราะเหตุผลเรื่องอาหารเช่นกัน
เช่นเดียวกับภรรยาของ กุนโดกัน เคยให้สัมภาษณ์ถึงชีวิตในเมืองแมนเชสเตอร์ไว้ว่า "ฉันพยายามอย่างมากที่จะหาร้านอาหารดีๆ แต่มีแต่อาหารแย่ๆเต็มไปหมด"
"ที่ลอนดอนอาจจะพอมีอยู่บ้าง แต่ที่แมนเชสเตอร์ไม่มีเลย ฉันขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้"
Getty Imagesท้องฟ้าสีเทาและฝนตกหนักของ แมนเชสเตอร์ กลายเป็นเรื่องที่คุณเห็นอยู่เป็นประจำ นี่คือเมืองที่มีฝนตกชุกที่สุดของยุโรปอันดับ 16 แต่ทำไม่เมืองอื่นๆที่มีฝนตกหนักเช่นกันถึงต่างออกไป
โนลิโต้ อดีตนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยให้สัมภาษณ์ว่าการที่เมืองไม่ค่อยมีแสงแดด ทำให้ผิวของลูกสาวของเขาเปลี่ยนสีและเหมือนอาศัยอยู่ในถ้ำ จนแพทย์ต้องแนะนำให้กินวิตามินดีแบบเม็ด
โนลิโต้ ย้ายมาจาก เซลต้า บีโก้ เมืองที่มีฝนตกชุกที่สุดของสเปน โดยปริมาณฝนมากกว่า แมนเชสเตอร์ ด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาน่าจะรับมือได้ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะที่นี่ปัญหาไม่ใช่เพียงแค่ฝน แต่เป็นการขาดแสงแดดด้วย
"เราจะกินข้าวเที่ยงและข้าวเย็นด้วยกัน แต่ที่นี่ถ้าห้าโมงเย็นเริ่มมืด หกโมงเย็นก็จะเหมือนสี่ทุ่ม มันทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยและเริ่มคิดว่า อะไรวะ นี่มันเพิ่งหกโมงเย็นเองนะ!" โนลิโต้ กล่าวกับ The Guardian
.jpg?auto=webp&format=pjpg&width=3840&quality=60)
Gettyโนลิโต้ ปรับตัวเข้ากับชีวิตใน แมนเชสเตอร์ ได้ไม่ดีนัก ขณะที่ เซร์คิโอ อเกวโร ค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ร่วมทศวรรษ จนกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร
ดูเหมือนว่ากองหน้าชาวอาร์เจนตินาสามารถปรับตัวกับชีวิตในอังกฤษได้ แต่จริงๆแล้วไม่เป็นเช่นนั้นเลย
'เอลกุน' ไม่ชอบชีวิตในเมืองแมนเชสเตอร์สักเท่าไหร่ โดยเขาเคยพูดในสารคดี All or Nothing ที่เผยแพร่เมื่อปี 2018 ว่าเขาใช้ชีวิตแบบสุดเหงา ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับตัวเอง ยกเว้นตอนที่ลูกชายและบรรดาพี่น้องเดินทางมาเยี่ยม
นอกจากนี้ อเกวโร มีปัญหาเรื่องการสื่อสารภาษาอังกฤษด้วย โดยในการให้สัมภาษณ์หลังจบเกมเขาจะใช้ภาษาสเปน และให้เพื่อนร่วมทีมเป็นล่ามให้
Getty Imagesเซร์คิโอ อเกวโร ไม่เคยออกมาบ่นเรื่องชีวิตในเมือง แมนเชสเตอร์ ซึ่งแตกต่างกับ คาร์ลอส เตเบซ เพื่อนร่วมชาติของเขา ที่แสดงออกเรื่องนี้อย่างชัดเจน
เตเบซ อาศัยอยู่ที่ แมนเชสเตอร์ 4 ปี เขาบอกว่าเมืองนี้ไม่มีอะไรเลย และยอมรับว่าตัวเองไม่มีเพื่อนใหม่เลยนับตั้งแต่ย้ายมา "ผมจะไม่กลับไปที่ แมนเชสเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดยาวแค่ไหน มันไม่มีอะไรเลย"
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา อดีตกองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินายอมรับว่าเขาปฏิเสธที่จะเรียนภาษาอังกฤษด้วยเหตุผลส่วนตัวบางอย่าง "เจ็ดปีที่อยู่อังกฤษ ผมคิดว่า โอเค ผมมาทำงาน แต่ผมไม่ชินกับวัฒนธรรมอังกฤษเลย ถ้าคุณอยากคุยกับผม คุณก็เรียนภาษาสเปนสิ เพราะผมจะไม่เรียนภาษาอังกฤษ"
Getty Imagesชาวอาร์เจนตินาดูเหมือนจะมีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับชีวิตในอังกฤษ โดยเฉพาะที่แมนเชสเตอร์ เช่นเดียวกับ อังเคล ดิ มาเรีย ที่เคยเป็นเจ้าของสถิตินักเตะค่าตัวแพงสุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2014
ครอบครัวของเขาเจอประสบการณ์เลวร้ายในการใช้ชีวิตที่ แมนเชสเตอร์ เมื่อเคยถูกขโมยขึ้นบ้าน ซึ่ง จอร์เจลินา ภรรยาของ ดิ มาเรีย ยอมรับว่าเธอเกลียดเมืองนี้เป็นอย่างมาก
"ฉันไม่อยากไป แมนเชสเตอร์ เพราะตอนนั้นฉันเป็นเพื่อนกับภรรยาของ เซร์คิโอ อเกวโร เราเคยบินจากมาดริดไปเยี่ยมเขาที่แมนเชสเตอร์สองครั้ง" จอร์เจลินา กล่าว
"มันแย่มาก! ทุกอย่างแย่ไปหมด! เราไปที่บ้านของพวกเขาและจากนั้นก็แบบว่า...แล้วเจอกันใหม่นะ เราไปก่อน"
"เมื่อเราออกมาฉันบอกกับ อังเคล ว่าจะย้ายไปไหนก็ได้ยกเว้นอังกฤษ อย่างไรก็ตามหนึ่งปีหลังจากนั้นเราก็ไปอยู่ที่อังกฤษและมันแย่มาก"
"คนในเมืองก็ประหลาด เมื่อคุณเดินไปตามถนนและรู้สึกว่าผู้คนเหมือนกำลังจ้องจะฆ่าคุณ สาวๆทุกคนแต่งตัวเรียบร้อย แต่งหน้าทำผมเป๊ะมาก ขณะที่ฉันแค่มัดผมและไม่แต่งหน้า"
Gettyมีนักเตะที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตใน แมนเชสเตอร์ เช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ ฮวน มาต้า ที่ย้ายมาอยู่กับ แมนฯยูไนเต็ด เมื่อปี 2014
มาต้า เริ่มเขียนบล็อกของตั้งแต่อยู่ที่ลอนดอน ซึ่งเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตในเมืองหลวง และเมื่อย้ายมา แมนเชสเตอร์ เขาก็เขียนเกี่ยวกับวัฒนธรรมของเมือง
เขาเขียนเกี่ยวกับร้านแผ่นเสียงและพิพิธภัณฑ์ศิลปะต่างๆที่เขาชอบ และแม้จะย้ายออกจากสโมสรเมื่อปี 2022 เจ้าตัวยังรู้สึกผูกพันกับเมืองนี้เสมอ
"แมนเชสเตอร์ คือบ้านของผม ผมรู้จักผู้คนมากมายที่นั่นและผมมั่นใจว่าพวกเขาจะมีความสุขถ้าผมกลับไป และผมเองก็ตั้งตารอจะได้กลับไปเยี่ยมเพื่อนๆที่นั่น มันเป็นเมืองที่ยอดเยี่ยม" มาต้า กล่าวกับ Manchester Evening News.
Getty Imagesมาต้า กำลังเดินตามรอย เอริค คันโตนา ตำนานของ แมนฯยูไนเต็ด ด้วยการเป็นเจ้าภาพจัดนิทรรศการศิลปะในเมือง เพราะเขารู้สึกผูกพันกับ แมนเชสเตอร์
เช่นเดียวกับ แวงซองต์ กอมปานี อดีตตำนานกัปตันของ แมนฯซิตี้ ที่จัดตั้งองค์กรการกุศล Tackle4MCR ไว้คอยระดมเงินช่วยเหลือคนไร้บ้านในเมือง
เขาเคยได้รับการยกย่องจาก แอนดี เบิร์นแฮม นายกเทศมนตรีเมืองแมนเชสเตอร์ ว่าเป็นคนที่เข้าใจถึงความเป็นชาวแมนเชสเตอร์เป็นอย่างดี
"เขาสร้างพลังงานบวกให้กับเมืองแมนเชสเตอร์ เขาเข้าใจสถานที่แห่งนี้และเข้าใจความเป็นชาวเมืองที่นี่"
ไม่น่าแปลกใจที่ กองปานี จะเข้าใจความเป็นแมนเชสเตอร์ได้เป็นอย่างดี เพราะภรรยาของเขา คาร์ลา ฮิกก์ เป็นชาวแมนคูเนียนโดยกำเนิดและยังเป็นแฟนตัวยงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วย
