ไขข้อข้องใจ : ทำไมทีมลีกซาอุมีโอกาสเข้าร่วมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ฟุตบอลในตะวันออกกลางได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงขึ้นอย่างมากในรอบปีที่ผ่านมาด้วยฟุตบอลโลก 2022 ที่จัดขึ้นโดยประเทศกาตาร์, ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพที่จะไปแข่งขันกันที่จิดดาห์ในซาอุดิอาระเบียที่จะมีทีมอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้และอัลอิตติฮัดลงแข่งขันโดยมีโอกาสที่เราจะได้เห็นทีมจากลีกซาอุเข้าร่วมการแข่งขันในอนาคตข้างหน้า

ก่อนหน้านี้มีรายงานจากทางฝั่ง อิตาลี เผยว่า สหพันธ์ฟุตบอลซาอุดิอาระเบีย เปิดฉากเจรจากับ ยูฟ่า ในการนำทีมจาก ซาอุดิ โปร ลีก มาร่วมแข่งขันในรายการใหญ่ของยุโรป ในรูปแบบ Wild Card หรือการเทียบเชิญพิเศษ

โดย คาร์โลนอห์ราประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการยืนยันว่าซาอุดิโปรลีกยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของรายการเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีกแต่เขาเองได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับBloombergเอาไว้ถึงข่าวลือเข้าร่วมการแข่งขันยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เอาไว้ “เรากำลังพยายามสิ่งที่แปลกใหม่ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาใดๆที่สามารถแนะนำลีกนี้ได้จะเป็นที่ยอมรับทั้งนั้น" ซึ่งหมายความว่าการไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อาจเป็นการยกระดับพวกเขาด้วยเช่นกัน

ซาอุดิโปรลีกใช้เงินรวมกันไปมากกว่า 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการคว้ายอดนักเตะมาร่วมทืมตามรอยคริสเตียโนโรนัลโด้ที่บุกเบิกการมาค้าแข้งในซาอุดิอาระเบียก่อนที่บรรดาดาวดังจากลีกยุโรปจะตบเท้ามาร่วมทีมอย่างคับคั่งทั้งเนย์มาร์, คาริมเบนเซมาและซาดิโอมาเนเป็นต้นอีกทั้งมีข่าวที่อัลอิตติฮัดพร้อมทุ่มเงินกระชากตัวโมฮาเหม็ดซาลาห์มาร่วมทีมโดยนอห์ราได้พูดถึงโปรเจ็คต์แห่งความทะเยอทะยานของเขาเอาไว้“เรากำลังทำสิ่งที่ไม่ว่าต้องแลกอะไรมาก็ตามเพื่อดึงนักเตะเหล่านี้มาซาอุดิอาระเบียนั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะมีงบแบบไม่อั้นแต่เราไม่สามารถจำกัดตัวเองถ้าเราต้องการดึงยอดนักเตะที่ดีที่สุดมาที่นี่เราจ่ายในเรตที่ไปต่อได้เพื่อคว้าตัวพวกเขามาร่วมทีม”

ซาอุดิอาระเบียเคยคาดหวังที่จะจัดฟุตบอลโลก 2030 ร่วมกับชาติอย่างอียิปต์และกรีซก่อนจะพับโครงการนั้นไปแต่พวกเขายังมีโครงการสำหรับปี 2030 เอาไว้ที่จะดึงดูดบรรดาสตาร์นักเตะชื่อดังมาเพื่อบรรลุเป้าหมายในระยะยาวของพวกเขา