ใครได้กี่คะแนน? ประเมินฟอร์มทีมชาติอังกฤษ ฟุตบอลโลก 2022

จอร์แดน พิคฟอร์ด (8/10):

อีกหนึ่งทัวร์นาเม้นท์ที่ พิคฟอร์ด ได้รับเลือกให้เป็นมือหนึ่งของอังกฤษ ซึ่งเข้าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย

เขาโชว์ซูเปอร์เซฟช่วยให้ทีมรอดพ้นการเสียประตูในเกมกับฝรั่งเศส รวมแล้วเก็บคลีนชีทได้ 3 จาก 5 นัด ถือว่าน่าพอใจ แม้จะโดนวิจารณ์อยู่บ้างว่าควรเซฟประตูของ ออเรเลียง ชูอาเมนี ได้

นิค โป๊ป (0/0):

ไม่ได้ลงสนาม

อารอน แรมส์เดล (0/0):

ไม่ได้ลงสนาม

ไคล์ วอล์คเกอร์ (7/10):

มีชื่อติดทีมครั้งนี้แม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวนก่อนเริ่มทัวร์นาเม้นท์ แต่เมื่อกลับมาฟิตสมบูรณ์เขาก็พิสูจน์แล้วว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต ตัดสินใจไม่ผิด

ในเกมกับ ฝรั่งเศส เขารับมือ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ได้ดีและแสดงให้เห็นคลาสในการเล่นเกมรับของเขาอีกครั้ง

คีแรน ทริปเปียร์ (7/10):

ทำผลงานได้อย่างไม่บกพร่องในช่วงที่ วอล์คเกอร์ ยังไม่ฟิตสมบูรณ์ในรอบแบ่งกลุ่ม จนนักวิจารณ์หลายคนบอกว่าเขาโชคร้ายที่ต้องเสียตำแหน่งตัวจริงในรอบน็อคเอาท์

แฮร์รี แม็คไกวร์ (8/10):

แม็คไกวร์ สยบเสียงวิจารณ์ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยฟอร์มการเล่นอันแข็งแกร่ง และไม่เกินไปนักที่จะบอกว่าเขาคือกองหลังที่ดีสุดของอังกฤษในทัวร์นาเม้นท์นี้

จอห์น สโตนส์ (8/10):

สโตนส์ ยังรักษามาตรฐานของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม การจับคู่ของเขากับ แม็คไกวร์ ทำได้อย่างลงตัว

ลุค ชอว์ (8/10):

อีกหนึ่งนักเตะที่มีเครื่องหมายคำถามเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นกับสโมสร แต่เขาทำเช่นเดียวกับ แม็คไกวร์ คือใช้ฟอร์มการเล่นในสนามสยบเสียงวิจารณ์ และตอบแทนความไว้ใจของ เซาธ์เกต ได้อย่างดีเยี่ยม

เอริค ดายเออร์ (6/10):

ได้ลงสนามเป็นตัวสำรอง 2 นัด แต่ยังไม่มีเวลาพิสูจน์ตัวเองได้มากพอ

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (N/A):

ได้ลงสนามไปเพียง 34 นาทีในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ยังไม่สามารถให้คะแนนได้

คอเนอร์ โคอาดี้ (N/A):

ไม่ได้ลงสนาม

เบน ไวท์ (N/A):

เดินทางกลับด้วยเหตุผลส่วนตัว

เดแคลน ไรซ์ (7/10):

อาจจะไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีสุดของเขาในฟุตบอลโลกครั้งนี้ แต่ทำหน้าที่ได้ไม่บกพร่อง

จู๊ด เบลลิงแฮม (9/10):

หนึ่งในดาวเด่นของทีมชาติอังกฤษในทัวร์นาเม้นท์นี้ และจะเป็นกำลังหลักของสิงโตคำรามไปอีกนาน

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (7/10):

เฮนโด้ คือหนึ่งในนักเตะประสบการณ์สูงของทีมชุดนี้ และทุกครั้งที่ได้รับมอบหมายเขาก็ทำหน้าที่ได้ดีตามที่โค้ชต้องการ

เมสัน เมาท์ (6/10):

ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมแรก ก่อนจะเสียตำแหน่งให้ เฮนเดอร์สัน

Jack Grealish (6/10):

ยิงประตูได้ในเกมกับ อิหร่าน แต่ไม่มีเวลามากพอจะสร้างความประทับใจได้

คัลวิน ฟิลลิปส์ (5/10):

ได้ลงสนามเป็นตัวสำรอง 2 นัด และทำแอสซิสต์ให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ในเกมกับเวลส์

เจมส์ แมดดิสัน (N/A):

ไม่ได้ลงสนาม

คอเนอร์ กัลลาเกอร์ (N/A):

ไม่ได้ลงสนาม

แฮร์รี เคน (8/10):

สองประตู กับ สามแอสซิสต์ ถือว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจของ เคน แต่การพลาดจุดโทษในเกมกับฝรั่งเศสคงทำให้เขาฝันร้ายไปหลายวัน

บูกาโย ซาก้า (9/10):

ซาก้า ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในแนวรุกของทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลกครั้งนี้ และมีเครื่องหมายคำถามว่าทำไมถึงโดนเปลี่ยนตัวออกในเกมกับฝรั่งเศส

ฟิล โฟเดน (7/10):

แสดงให้เห็นคลาสในการเล่นเกมรุกของเขาตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม แต่กูรูลูกหนังเมืองผู้ดีหลายรายแอบเสียดายที่ โฟเดน มีอิสระน้อยไปนิดจากระบบการเล่น

มาร์คัส แรชฟอร์ด (8/10):

เป็นทัวร์นาเม้นท์ที่ดีสำหรับ แรชฟอร์ด หลังทำไป 3 ประตู และกลับมาอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดีอีกครั้ง

ราฮีม สเตอร์ลิง (7/10):

ทำประตูได้ในเกมกับ อิหร่าน น่าเสียดายที่มีปัญหานอกสนามมารบกวนสมาธิของเขา จนทำให้ต้องบินกลับอังกฤษชั่วคราว

คัลลัม วิลสัน (5/10):

เล่นได้อย่างวูบวาบเมื่อได้โอกาสลงสนามและทำได้ 1 แอสซิสต์ แต่ได้เวลาพิสูจน์ตัวเองน้อยเกินไป

Gareth Southgate (7/10):

Southgate went into the World Cup under a lot of scrutiny following a poor run of performances, but he showed once again that he can take England deep into a major tournament.

Yes, they didn't go as far as four years ago, but there is no shame in going out against France.

England did look like they have progressed from previous tournaments and showed a lot more attacking intent. They were on the front foot against France and went toe-to-toe with the world champions.

Southgate undoubtedly has the players on his side, but whether he has done enough to get the majority of the England fans back on side remains to be seen.

Again, some of of his in-play substitutions could be called into question. He could have perhaps gone for the kill against France a bit more when England had them on the ropes and brought on someone like James Maddison for Jordan Henderson. His decision to instead take off Bukayo Saka for Raheem Sterling was also slightly baffling, given the problems the Arsenal man was causing.

So questions do still remain over Southgate, but it's tough to say progress hasn't been made performance-wise for England. The tournament ended in disappointment once again, but they now look like they are a match for anybody in world football.