ใครเด่น, ใครดับ? เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ นัดที่ 5 (วันที่ 18-19 ธันวาคม 2564)

กองหลังวัย 25 ปี ปักหลักในเกมรับให้ทัพช้างศึกได้อย่างเหนียวแน่น แม้ว่าเพิ่งมีโอกาสลงสัมผัสเกมเป็นครั้งแรก แต่ไม่ทำให้ มาโน โพลกิ้ง ต้องผิดหวัง เมื่อดักสกัดเกมบุกของสิงคโปร์ได้หลายครั้ง ก่อนคว้ารางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง

มิดฟิลด์วัย 25 ปี ประเดิมเกมแรกในนามทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อเป็นฟันเฟืองสำคัญในแดนกลางของทีม คอยขับเคลื่อนเกมได้อย่างไหลลื่น จนมีส่วนช่วยให้ทัพช้างศึกคว้าชัยเหนือสิงคโปร์ได้สำเร็จ นอกจากนั้นยังครองเกมตรงกลางสนามได้อย่างเบ็ดเสร็จตลอด 90 นาที

นี่ไม่ใช่เกมของ อิคห์ซาน ฟานดี้ และเพื่อนร่วมทีมสิงคโปร์อย่างแท้จริง เมื่อเขาไม่สามารถสร้างความอันตรายให้แนวรับของทัพช้างศึกได้เลย ทั้งที่เป็นดาวเตะตัวความหวังของทัพเมอร์ไลออนส์ และแน่นอนว่าเขายิงประตูคู่แข่งไม่ได้มา 3 เกมติดต่อกันแล้ว

แม้ว่ากองกลางกัปตันทีมชาติสิงคโปร์จะออกสตาร์ทเกมนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม เนื่องจากขับเคลื่อนเกมรุกของทีมได้ในช่วงแรก แต่หลังจากที่ทีมเสียประตูแรกให้ทีมชาติไทย ฮาริส ฮารุน กลับหายไปจากเกมอย่างสิ้นเชิง ไม่สามารถตั้งเกมได้ด้วยตัวเอง ก่อนถูกแผงมิดฟิลด์ทัพช้างศึกกลบมิดตลอดทั้งเกม

ดาวยิงวัย 24 ปี เหมาสองประตูช่วยให้เวียดนามถล่มกัมพูชา 4-0 ส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะประตูที่สองของเจ้าตัวที่แสดงให้เห็นถึงความเฉียบขาดในการจบสกอร์

จอมทัพจากฮานอย เอฟซี เป็นนักเตะตัวความหวังแห่งมวลชนเวียดนามมาโดยตลอด ซึ่งในเกมถล่มกัมพูชา 4-0 เป็นอีกหนึ่งนัดที่ เหงียน กวง ไฮ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งการสร้างสรรค์โอกาส ที่สำคัญยังแอสซิสต์และยิงประตูได้ด้วย

กองหน้าวัย 27 ปี กลับเข้าสู่ลูปเดิมอีกครั้งหลังไม่สามารถทำอะไรแนวรับเวียดนามได้เลย ซึ่งปัญหาการรักษามาตรฐานการเล่นให้คงเส้นคงวา ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามของเจ้าตัวมาโดยตลอด ทั้งที่มีประสบการณ์มากกว่าเพื่อนร่วมทีมรายอื่น

เป็นอีกหนึ่งเกมที่ปีกวัย 25 ปี เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยจังหวะเสียประตูแรกสกัดพลาดไปเข้าทางผู้เล่นมาเลเซียจนทำให้ทีมออกสตาร์ทเกมสำคัญด้วยความเสียเปรียบ แต่จากนั้นกลลับทำคนเดียวสองประตูช่วย อินโดนีเซีย กลับมานำ ซึ่งความเร็ว และความคล่องตัวยังเป็นจุดเด่นที่ทำให้สามารถกดดัน มาเลเซีย ได้ตลอดทั้งเกม

แบ็คซ้ายยทีมชาติอินโดนีเซีย โดดเด่นทั้งเกมรับ และรุก ซึ่งมีส่วนสำคัญกับสองประตูที่เกิดขึ้นในเกมนี้ เมื่อยิงไปติดบล็อกกองหลัง มาเลซีย แต่ยังเข้าทางเพื่อนร่วมทีมที่ซัดพาทีมกลับมาแซงขึ้นนำ ก่อนที่เจ้าตัวจะมากดประตู 3-1 ด้วยช็อตซัดไกลนอกกรอบ จนมีส่วนพาอินโดนีเซีย เข้าป้ายด้วยแชมป์กลุ่ม B

อยู่ถูกทที่ถูกทางเสมอในเกมกับ เมียนมา โดยเฉพาะการวิ่งหาพื้นที่เพื่อรับบอลแล้วจบสกอร์ ซึ่งกองหน้าวัย 35 มีทุกอย่างครบเครื่อง และแสดงศักยภาพออกมาให้เห็น ยิ่งกว่านั้นยังมีความเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีมเป็นอย่างดีนำไปสู่แฮตทริคแรกของตัวเองในทัวร์นาเมนต์นี้

ออกสตาร์ทในตำแหน่งปีกขวาที่ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม กับลูกเก่งที่แต่งบอลหักเข้าซ้ายแล้วเปิดโค้งๆเข้าหาประตู ซึ่งเกือบช่วยให้ทีมขึ้นนำตั้งแต่ 13 นาที แรก ก่อนมาทำแอสซิสต์สำเร็จในจังหวะขึ้นนำ 2-0 ยิ่งกว่านั้นยังเล่นเข้าขากับ มาร์ติน สตูเบิล ที่เกมดังกล่าวต้องรับบทแบ็คขวาจำเป็นได้อย่างดี

ปราการหลังหลังทีมชาติเมียนมามีเกมที่ไม่น่าจดจำนักในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อแสดงความผิดพลาดให้เห็นตั้งแต่ต้นเกมที่จ่ายบอลไปเข้าทางผู้เล่นฟิลิปปินส์ จนเกือบเสียประตูแรก ไม่เพียงแต่การออกบอล แต่การยืนตำแหน่งยังทำได้ไม่ดี รวมถึงจังหวะตามประกบที่ปล่อยให้ เอียน แรมซีย์ ได้วางบอลง่ายๆจนทำให้ทีมต้องเสียเปรียบอย่างหนัก

ทำผลงานได้ค่อนข้างน่าผิดหวัง เมื่อทำหน้าที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควรทั้ง การยืนตำแหน่ง จังหวะสกัดดบอลที่ไม่เด็ดขาดพอ และการประกบคู่แข่ง ซึ่งเขามีส่วนรับผิดชอบกับสองประตูที่เสียให้กับ อินโดนีเซียเต็มๆ