ใครเด่น ใครดับ? ฟุตบอล ยูโร 2020 (วันที่ 6)

แนวรุกจากอตาลันต้า สร้างความปั่นป่วนให้แนวรับฟินแลนด์ทุกครั้งยามได้บอล โดยเฉพาะการประสานงานกับโรมัน ซอบนิน ทำให้ทางกราบขวาของรัสเซียในเกมนี้โดดเด่นมาก นอกจากนี้ เจ้าตัวยังเป็นคนยิงยิงเสียบเสาไกลแบบสุดสวย พาทัพหมีขาวคว้า 3 แต้มแรกในยูโร 2020 ได้สำเร็จMiranchuk

ฟินแลนด์มีโอกาสขึ้นนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 3 จากจังหวะที่โยเอล โปห์ยานปาโลโหม่งเข้าไปแล้ว แต่ VAR ชี้ว่าล้ำหน้า หลังจากนั้นพวกเขาก็เปิดเกมรุกแลกกับรัสเซียได้อย่างสนุก แต่ทว่าการจบสกอร์ในจังหวะสุดท้ายไปคมพอ ซึ่งดาวยิงจากนอริชคือหนึ่งในผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับผลงานในวันนี้

มิดฟิลด์ของยูเวนตุสยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ทัพมังกรแดงขาดไม่ได้ แข้งวัย 30 ปียังโดดเด่นเรื่องการทำเกมรุก ซึ่งจังหวะวิ่งสอดรับบอลจาก แกเร็ธ เบล ในเขตโทษ แสดงให้เห็นถึงความเข้าขารู้ใจกันเป็นอย่างดี โดยพวกเขาประสานงานแบบเดียวกันนี้ถึง 3 ครั้ง ก่อน แรมซีย์ จะซัดประตูเบิกร่องให้ เวลส์ ขึ้นนำในช่วงท้ายครึ่งแรก

สตาร์ ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกมนี้ เกือบกลายเป็นแพะหากทีมของเขาไม่ได้ 3 คะแนน เพราะการพลาดจุดโทษในช่วงเวลาที่ทีมนำอยู่แค่ลูกเดียว อย่างไรก็ตาม เบล ยังแสดงให้เห็นถึงความอันตรายของเขาตลอดทั้งเกม โดยเฉพาะลูกแอสซิสต์ที่เฉียบขาด ทั้งการวางบอลตัดแนวรับให้ แรมซีย์ ยิงขึ้นนำและการเลี้ยงไต่เส้นหลังเข้าเขตโทษดื้อๆ พร้อมถวายพานให้ คอนนอร์ โรเบิร์ตส์ ยิงปิดกล่องพาทีมชาติเวลส์เก็บ 3 แต้มแรกในศึกยูโร 2020

แบ็คขวาเพื่อนร่วมทีมของ ยิลมาซ ที่ ลีลล์ เกมนี้เขาต้องดวลกับนักเตะเจ้าความเร็วของ เวลส์ ทั้ง แดเนียล เจมส์ , แกเร็ธ เบล รวมถึง อารอน แรมซีย์ ที่สลับกันมาปั่นป่วน แน่นอนว่าแนวรับวัย 24 ปี ฟอร์มเป๋พอสมควร เกมรุกแทบไม่ได้ทำงาน ขณะที่เกมรับเรียกว่าบ่อก็คงไม่ผิด เชลิคเข้าบอลพรวดใส่ เบล จนเสียจุดโทษ แต่โชคดีที่กัปตันทีมชาติเวลส์ยิงไม่เข้า มิเช่นนั้นสกอร์อาจจะไม่ได้จบที่ 2-0

กองกลางจากซาสซูโอโล ถือเป็นดาวเด่นในเกมที่อิตาลีถล่มเอาชนะสวิตเซอร์แลนด์ 3-0 อย่างแท้จริง เมื่อจัดการกดไปสองประตู เริ่มจากลูกแรกซึ่งเขาเป็นคนหวดบอลยาวไปทางกราบขวาให้ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ได้กระชาก แล้วตัวเขาก็สปีดเข้าเขตโทษไปตวัดยิงลูกจ่ายของ เบราร์ดี้ ตุงตาข่าย ส่วนลูกสองก็รับบอลมาจาก นิโกโล บาเรลลา แล้วจัดการสับไกด้วยซ้ายเบียดเสาเข้าไปอย่างเด็ดขาด

หลังจากโชว์ฟอร์มดีและทำประตูได้ในเกมแรกที่สวิตเซอร์แลนด์เสมอเวลส์ 1-1 ทว่าเมื่อกองหน้าจากกลัดบัค ต้องมาเจอบรรดาแนวรับเขี้ยวลากดินของอิตาลี ก็ทำเอาเขาโชว์ฟอร์มไม่ออกเลย จนทำให้หลายครั้งออกอาการหงุดหงิดด้วยการไปตัดฟาวล์ใส่แนวรับของอิตาลีที่คอยตามประกบติด และสุดท้ายก็โดนใบเหลืองติดตัวไปตามระเบียบ