ใครเด่น ใครดับ? ฟุตบอล ยูโร 2020 (วันที่ 1)

ด้วยรูปเกมที่ตุรกีต้องตกเป็นฝ่ายตั้งรับอยู่ตลอด จึงทำให้บรรดาผู้เล่นในแนวรุกแทบจะหายหน้าไปจากเกมนี้ และไม่สามารถสร้างอันตรายให้แก่แนวรับของอิตาลีได้เลย แม้จะมีผู้เล่นฝีเท้าดีอย่าง บูรัค ยิลมาซ กองหน้าจอมเก๋ากัปตันทีมดีกรีแชมป์ลีกเอิงจากลีลล์ รวมถึง ฮาคาน ชัลฮาโนลู กองกลางจากเอซี มิลาน ก็ตาม

แบ็คซ้ายจากโรมา ที่แม้จะถนัดเท้าขวา แต่สามารถเล่นทางริมเส้นฝั่งซ้ายได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีจุดเด่นคือความคล่องตัว รวมถึงความฟิตที่สามารถวิ่งขึ้นวิ่งลงได้ตลอดทั้งเกมแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย อีกทั้งยังมีส่วนร่วมกับประตูขึ้นนำ 2-0 ซึ่งเขาเติมมายิงลูกเปิดของ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ไปติดเซฟผู้รักษาประตูตุรกีมาเข้าทาง ชิโร อิมโมบิเล ตามซ้ำเข้าไปด้วย

แม้จะมีคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟฝีเท้าดีอย่าง ชาลาร์ โซยุนจู จากเลสเตอร์ ซิตี้ รวมถึง เมริห์ เดมิรัล จากยูเวนตุส ทว่ากลับไม่สามารถต้านทานพลังเกมรุกของอิตาลีที่กระหน่ำมาตลอดทั้งเกมได้เลย โดยที่ทาง เดมิรัล ก็สกัดเข้าประตูตัวเองเป็นประตูขึ้นนำของอิตาลี และกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกมนี้ไปเลย ส่วนทางผู้รักษาประตูอย่าง อูกูร์ชาน ชาคีร์ ที่แม้จะมีจังหวะเซฟสวย ๆ อยู่บ้าง ทว่ากลับมีจุดอ่อนคือการเปิดบอลด้วยเท้า และการเตะพลาดของเขาก็เป็นมีส่วนจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทีมเสียประตูที่สามอีกด้วย

แนวรุกจากซาสซูโอโลได้รับบทบาทเป็นกองหน้าทางด้านขวาในระบบ 4-3-3 และสามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น มีส่วนร่วมกับทั้ง 3 ประตูที่อิตาลีทำได้ในเกมนี้ เริ่มลูกแรกที่เปิดไปโดน เมริห์ เดมิรัล สกัดเข้าประตูตัวเอง ส่วนลูกสองก็เปิดให้ เลโอนาร์โด้ สปินาซโซลา ยิงติดเซฟผู้รักษาประตูตุรกีแล้วทาง ชิโร อิมโมบิเล มาตามซ้ำเข้าไป ปิดท้ายด้วยลูกสามที่เขารับส้มหล่นจากการเปิดบอลไม่ดีของผู้รักษาประตูตุรกี ก่อนเป็นจุดเริ่มต้นลำเลียงบอลให้เพื่อนแล้วไปจบด้วยการยิงของ ลอเรนโซ อินซินเญ ปิดกล่องให้อิตาลีเก็บชัยประเดิมยูโร 2020 อย่างสวยงาม