
สันติภพ เหลืองอ่อน
ใครเด่น ใครดับ? ฟุตบอล ยูโร 2020 (รอบ 16 ทีมวันที่สี่)
AFPเด่น - ราฮีม สเตอร์ลิง
แม้จะถูกวิจารณ์มากมายเรื่องฟอร์มการเล่น ทว่าแนวรุกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็จัดการสยบข้อครหา ด้วยการเป็นผู้ทำประตูขึ้นนำให้อังกฤษ และยังเป็นนักเตะที่ยิงในยูโร 2020 ได้มากที่สุดถึง 3 ประตูด้วย นับเป็นนักเตะที่ดูเหมือนจะไม่เป็นชิ้นเป็นอันนัก ทว่าหากเผลอเมื่อไหร่ เขาก็พร้อมจะเล่นงานคู่ต่อสู้่ได้ทุกเมื่อเหมือนกัน
Gettyเด่น - แจ็ค กรีลิช
การลงมาเป็นตัวสำรองของกองกลางจากแอสตัน วิลลา ช่วยทำให้เกมรุกของอังกฤษมีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังมีส่วนร่วมกับทั้งสองประตูของสิงโตคำรามด้วย เริ่มจากลูกแรกเป็นคนไหลออกไปทางกราบซ้ายให้ ลุค ชอว์ ตบเข้าเขตโทษต่อให้ ราฮีม สเตอร์ลิง แปตุงตาข่าย ต่อด้วยลูกสองที่เป็นคนแอสซิสต์หยอดบอลให้ แฮร์รี เคน โหม่งไม่เหลือ จนทำให้มีเสียงเรียกร้องมากมายให้แข้งรายนี้ได้โอกาสลงเป็นตัวจริงในเกมรอบ 8 ทีม
Gettyดับ - โธมัส มุลเลอร์
แนวรุกจากบาเยิร์น มิวนิค ถูกเรียกตัวกลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง เพื่อหวังใช้ประสบการณ์ช่วยทัพอินทรีเหล็กในศึกยูโร 2020 ทว่าเขากลับทำผลงานได้น่าผิดหวังมาตลอดทุกเกม โดยเฉพาะในเกมแพ้อังกฤษ 0-2 ซึ่งเขามีโอกาสหลุดเดี่ยวไปยิงจ่อ ๆ ทว่ากลับหวดบอลด้วยขวาหลุดกรอบออกไปอย่างเหลือเชื่อ
ซึ่งหากเขายิงลูกนี้เข้าไปได้ ก็จะให้ทีมตีเสมอเป็น 1-1 อีกด้วย แต่พอทำไม่ได้ ก็มาโดนอังกฤษลงโทษฝังลูกสองปิดเกม พร้อมกับทำให้ มุลเลอร์ มีสถิติสุดย่ำแย่ เมื่อไม่สามารถทำประตูในเกมรอบสุดท้ายของศึกยูโรได้เลยแม้แต่ลูกเดียว ทั้งที่ผ่านประสบการณ์มาถึง 3 สมัย ลงเล่นไปถึง 15 นัด
Gettyดับ - บูกาโย ซาก้า
ดาวรุ่งวัย 19 ปีจากอาร์เซนอล ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงในตำแหน่งตัวรุกด้านขวา ทว่าผลงานกลับแทบจะไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน และไม่สามารถทำอันตรายใส่แนวรับของเยอรมันได้เลย จนทำให้ถูกเปลี่ยนตัวออกแล้วเป็น แจ็ค กรีลิช ลงมาแทน ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกมนี้ทำให้อังกฤษคว้าชัยเหนือเยอรมันอย่างแท้จริง
AFPเด่น - โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้
ดาวเตะจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในเกมรุกของยูเครนในการขยับขึ้นมาเป็นมิดฟิลด์กลางสนาม โดยในเกมนี้เขาเป็นผู้ทำประตูเบิกร่องสุดสวยของเกม ก่อนที่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลังของช่วงต่อเวลาพิเศษ เขาจะเป็นคนถวายพานให้ อาร์เต็ม โดฟบิค โหม่งประตูชัยของเกมนี้
(C)Getty Imagesดับ - มาร์คุส ดาเนียลสัน
ดาเนียลสัน แทบจะไม่มีข้อผิดพลาดในช่วง 90 นาทีปกติของเกมแต่ทว่าในช่วงต้นของการต่อเวลาพิเศษการเข้าปะทะอันตรายของเขา ทำให้ตัวเองต้องโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ซึ่งทำให้เพื่อนร่วมทีมตกเป็นรองและมาเสียประตูชัยจากลูกโหม่งในนาทีสุดท้าย ซึ่งเป็นการประกบที่ผิดพลาดของ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ ฟิลิป เฮแลนเดอร์ ที่ลงมาแทนที่ของเขา
โฆษณา