เอซี มิลาน ถือเป็นยักษ์ใหญ่ของทั้งวงการฟุตบอลอิตาลีและยุโรปมาอย่างยาวนาน
พลพรรครอสโซเนรีคว้าแชมป์เซเรีย อาได้ถึง 19 สมัย, โคปปา อิตาเลีย 5 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 7 สมัย รวมถึงแชมป์รายการอื่น ๆ อีกมากมาย
แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จมาหลายยุคสมัย ก็มาจากการลงทุนคว้านักเตะระดับโลกมาเสริมทัพ
และแม้ว่าในช่วง 10 ปีหลังสุด ปีศาจแดงดำอาจจะประสบปัญหาการเงินอยู่บ้าง แต่ด้วยชื่อเสียงของสโมสรก็รยังสามารถดึงดูดแข้งฝีเท้าดีจนสุดท้ายก็สามารถกลับมาอยู่ในจุดสูงสุดได้อีกครั้ง
ส่วนใครจะเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในแต่ละฤดูกาล นับตั้งแต่เข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ติดตามได้ที่ด้านล่าง
ฤดูกาล | นักเตะ | ค่าตัว | เงินที่ใช้ทั้งหมด |
---|---|---|---|
2022-23 | ชาร์เล เดอ เคเตอลาเร | 32 ล้านยูโร | 48.20 ล้านยูโร |
2021-22 | ฟิกาโย โทโมรี | 28.80 ล้านยูโร | 78.70 ล้านยูโร |
2020-21 | ซานโดร โตนาลี | 10 ล้านยูโร | 34.42 ล้านยูโร |
2019-20 | ฟรองค์ เกสซิเย | 32 ล้านยูโร | 122.78 ล้านยูโร |
2018-19 | ลูคัส ปาเกต้า | 38.40 ล้านยูโร | 193.77 ล้านยูโร |
2017-18 | เลโอนาร์โด้ โบนุชชี | 42 ล้านยูโร | 186.48 ล้านยูโร |
2016-17 | กุสตาโว โกเมซ | 9.56 ล้านยูโร | 29.56 ล้านยูโร |
2015-16 | การ์ลอส บักก้า | 33.30 ล้านยูโร | 102.28 ล้านยูโร |
2014-15 | จาโคโม โบนาเวนตูรา | 5.30 ล้านยูโร | 16.90 ล้านยูโร |
2013-14 | อเลสซานโดร มาตรี้ | 11 ล้านยูโร | 43.13 ล้านยูโร |
2012-13 | มาริโอ บาโลเตลลี | 20 ล้านยูโร | 59.62 ล้านยูโร |
2011-12 | ซลาตัน อิบราฮิโมวิช | 24 ล้านยูโร | 65.15 ล้านยูโร |
2010-11 | โรบินโญ | 21 ล้านยูโร | 51.30 ล้านยูโร |
2009-10 | คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์ | 15 ล้านยูโร | 22.10 ล้านยูโร |
2008-09 | โรนัลดินโญ | 24.15 ล้านยูโร | 73.88 ล้านยูโร |
2007-08 | อเล็กซานเดร ปาโต้ | 24 ล้านยูโร | 29 ล้านยูโร |
2006-07 | ริคาร์โด้ โอลิเวรา | 15 ล้านยูโร | 41.40 ล้านยูโร |
2005-06 | อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน | 25 ล้านยูโร | 33.50 ล้านยูโร |
2004-05 | ยาป สตัม | 10.50 ล้านยูโร | 11 ล้านยูโร |
2003-04 | กาก้า | 8.50 ล้านยูโร | 15 ล้านยูโร |
2002-03 | อเลสซานโดร เนสต้า | 31 ล้านยูโร | 71.10 ล้านยูโร |
2001-02 | รุย คอสต้า | 41.32 ล้านยูโร | 145.13 ล้านยูโร |
2000-01 | เฟร์นานโด เรดอนโด้ | 17.50 ล้านยูโร | 42.50 ล้านยูโร |
รวม | 1.51 พันล้านยูโร |
*ตัวเลขทั้งหมดอ้างอิงจาก Transfermarkt
กองกลางชาวเบลเยียม ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ คลับ บรูช เมื่อปี 2019
เดอ เคเตอลาเร ก้าวมาเป็นกำลังสำคัญของ คลับ บรูช จนได้ลงเล่นไปถึง 120 นัด รวมถึงยังถูกเรียกไปติทีมชาติเบลเยียมชุดใหญ่เรียบร้อยแล้ว
กระทั่งช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เอซี มิลาน ก็ตัดสินใจจ่ายเงิน 32 ล้านยูโร เพื่อคว้าตัว เดอ เคเตอลาเร มาเสริมทัพ
ปีศาจแดงดำคว้าตัวกองกลางชาวไอวอรีโคสต์มาจากอตาลันต้าช่วงซัมเมอร์เมื่อปี 2017 ในรูปแบบของสัญญายืมตัว 2 ปี ที่มีเงื่อนไชซื้อขาดด้วย
และหลังจากครบสัญญายืมตัว 2 ปี มิลานก็จ่ายเงิน 32 ล้านยูโร เพื่อซื้อขาด เกสซิเย ในช่วงซัมเมอร์เมื่อปี 2019
เกสซิเย ลงเล่นให้มิลานไปทั้งหมด 223 เกม ก่อนจะทิ้งทวนในฤดูกาลสุดท้าย ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์เซเรีย อา
กระทั่งช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เขาก็เลือกไม่ต่อสัญญากับทีม และย้ายไปอยู่กับบาร์เซโลนาแบบไม่มีค่าตัว
ปีศาจแดงดำตัดสินใจจ่ายเงิน 33.3 ล้านยูโร เพื่อคว้าตัวกองหน้าชาวโคลอมเบียมาจากเซบีญา ในช่วงซัมเมอร์เมื่อปี 2015
บักก้า ยิงได้ 34 ประตู จากการลงเล่นให้มิลาน 77 เกม กระทั่งช่วงซัมเมอร์เมื่อปี 2017 ก็ถูกปล่อยให้บียาร์เรอัลยืมตัวไปใช้งาน
และหลังจากหมดสัญญายืมตัว เขาก็ถูกบียาร์เรอัลซื้อขาดในราคาเพียงแค่ 7 ล้านยูโรเท่านั้น ในช่วงซัมเมอร์เมื่อปี 2018
กองหน้าชาวโปแลนด์โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับเจนัว ในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกของฤดูกาล 2018-19 ด้วยการกดไปถึง 19 ประตู จากการลงเล่น 21 เกม
ทำให้ช่วงเดือนมกราคมเมื่อปี 2019 มิลานตัดสินใจจ่ายเงิน 35 ล้านยูโร เพื่อคว้าตัว ปิออนเท็ค มาเสริมทัพ ซึ่งเขาก็ทำผลงานได้ดียิงไป 11 ประตู จากการลงเล่น 21 เกมให้รอสโซเนรีในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง
ทว่าฤดูกาลต่อมา 2019-20 เขากลับฟอร์มตกลงอย่างน่าใจหาย เมื่อยิงได้แค่ 5 ประตู จากการลงเล่น 20 เกม จนทำให้ช่วงเดือนมกราคมเมื่อปี 2020 ก็ถูกขายขาดให้ แฮร์ธา เบอร์ลิน ในราคา 24 ล้านยูโร
อินซากี้ แจ้งเกิดเต็มตัวจากการเล่นให้อตาลันต้าเมื่อฤดูกาล 1996/97 เมื่อจัดการคว้าดาวซัลโวเซเรีย อา ด้วยการกดไป 24 ประตู
ทำให้ในปี 1997 ยูเวนตุสตัดสินใจจ่ายเงิน 10.30 ล้านยูโร เพื่อคว้าตัวเขามาเสริมความแข็งแกร่งในเกมรุก
ดาวยิงชาวอิตาเลียนค้าแข้งกับม้าลาย 4 ปี กดไป 89 ประตู จากการลงเล่น 165 เกม พร้อมคว้าแชมป์เซเรีย อา 1 สมัย ก่อนจะถูกขายให้กับเอซี มิลานในปี 2001 ด้วยค่าตัว 36.2 ล้านยูโร
การไปอยู่กับปีศาจแดงดำ กลายเป็นว่าทำให้ อินซากี้ ยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นศูนย์หน้าระดับท็อป เมื่อกดไปถึง 126 ประตู จากการลงเล่น 300 เกม พร้อมคว้าแชมป์เซเรีย อา 2 สมัย, โคปปา อิตาเลีย 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย รวมถึงสโมสรโลก 1 สมัย กระทั่งตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2012
ส่วนกับทีมชาติอิตาลี เขาก็ถือเป็นหนึ่งในสมาชิกชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 อีกด้วย
คัลดารา ซึ่งไม่เคยลงเล่นให้ยูเวนตุสแม้แต่นัดเดียว ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของดีลสลับขั้วที่ทาง เลโอนาร์โด้ โบนุชชี ย้ายกลับไปยูเวนตุสอีกครั้งเมื่อช่วงซัมเมอร์ในปี 2018 โดยที่มิลานต้องจ่ายค่าตัวของ คัลดารา ในราคา 36.9 ล้านยูโร
ทว่าการมาอยู่กับปีศาจแดงดำ เขาก็ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับตอนเป็นนักเตะของม้าลาย เพราะเขาได้รับโอกาสไปเพียงแค่ 2 เกมเท่านั้น และต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการไปเล่นแบบยืมตัวให้กับอตาลันต้าอีกครั้งในช่วงปี 2020-2021 ต่อด้วยไปเล่นให้เวเนเซียเมื่อฤดูกาลก่อน และในฤดูกาลนี้ก็ถูกสเปเซียยืมตัวไปใช้งาน
มิลานตัดสินใจจ่ายเงิน 38 ล้านยูโร เพื่อคว้าตัวกองหน้าชาวโปรตุกีสมาจากปอร์โต้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ในปี 2017
ทว่า ซิลวา ได้อยู่กับปีศาจแดงเพียงแค่ในฤดูกาล 2017-18 เท่านั้น ซึ่งเขายิงได้ 10 ประตู จากการลงเล่น 40 เกม
ขณะที่หลังจากนั้นเขาถูกปล่อยให้เซบีญายืมตัวไปใช้งาน 1 ปี ตามด้วยโดนไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ตยืมตัวไปอีก 1 ปี
กระทั่งช่วงซัมเมอร์ในปี 2020 แฟรงค์เฟิร์ตก็ตัดสินใจซื้อขาด ซิลวา ในราคา 24 ล้านยูโร
รอสโซเนรีตัดสินใจจ่ายเงิน 38.4 ล้านยูโร เพื่อคว้าตัวแนวรุกชาวบราซิลมาจากฟลาเมงโก้แบบล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ในปี 2018 ก่อนที่นักเตะจะย้ายมาอยู่กับทีมแบบเต็มตัวในช๋วงเดือนมกราคมของปี 2019
ทว่า ปาเกต้า กลับทำไปแค่ 1 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ ตลอดการลงเล่น 44 เกมให้มิลาน จนทำให้ช่วงซัมเมอร์ในปี 2020 ก็ถูกขายให้โอลิมปิก ลียง ในราคา 20 ล้านยูโร
หลังจากสร้างชื่อมากับฟิออเรนตินาในช่วงยุค 90 ทำให้ในปี 2001 เอซี มิลานตัดสินใจจ่ายเงิน 41.3 ล้านยูโร เพื่อคว้าตัวกองกลางชาวโปรตุกีสมาเสริมทัพ
รุย คอสต้า ลงเล่นให้ปีศาจแดงดำไปเกือบ 200 เกม พร้อมประสบความสำเร็จคว้าได้ทั้งแชมป์เซเรีย อา, โคปปา อิตาเลีย รวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
จากนั้นในปี 2006 เขาตัดสินใจย้ายกลับไปอยู่เบนฟิก้า ซึ่งเป็นต้นสังกัดแรกในชีวิตค้าแข้งอีกครั้ง จนกระทั่งแขวนสตั๊ดในปี 2008 และในปัจจุบัน รุย คอสต้า ก็ได้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานสโมสรของเบนฟิก้าไปแล้วด้วย
ในช่วงซัมเมอร์เมื่อปี 2017 โบนุชชี ทำช็อควงการฟุตบอลอิตาลี เมื่อตัดสินใจย้ายจากยูเวนตุสไปอยู่กับเอซี มิลาน ด้วยค่าตัว 42 ล้านยูโร
แต่หลังจากอยู่กับปีศาจแดงได้แค่ปีเดียว เขาก็ถูกดึงกลับไปร่วมทัพม้าลายอีกครั้งในปี 2018 ด้วยค่าตัว 35 ล้านยูโร
สงวนลิขสิทธิ์ © 2023 Goal (ภาษาไทย) ข้อมูลใดๆ ที่อยู่ใน Goal (ภาษาไทย) ห้ามนำไปตีพิมพ์, ออกอากาศ, แก้ไขหรือผลิตซ้ำ โดยไม่มีการขออนุญาต Goal (ภาษาไทย) อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร