
Goal
เวทีปั้นดาว : 10 สตาร์แจ้งเกิดจากโอลิมปิก
Getty Imagesเปีป กวาร์ดิโอลา | สเปน | ปี 1992
ในโอลิมปิกปี 1992 ที่บาร์เซโลนา, เป๊ป ถูกเรียกติดทีมชุดโอลิมปิกด้วยวัย 21 ปี และเป็นฤดูกาลแรกที่เขาได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอกับบาร์เซโลนาเท่านั้น โดยทัวร์นาเมนต์จบลงที่เขาและเพื่อนร่วมทีมคว้าเหรียญทอง หลังเอาชนะโคลอมเบียในรอบชิงฯ 3-2
นอกจากนี้ กวาร์ดิโอลา ยังคว้ารางวัล บราโว อวอร์ด ที่มอบให้กับดาวรุ่งที่ทำผลงานโดดเด่นในยุโรป โดยหลังจากนั้นเขาก็โชว์ฟอร์มติดลมบนลงสนามให้ บาร์ซา ต่อมา 382 นัดคว้าแชมป์ 15 รายการ และได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในยุคของเขา
Gettyเฮอร์นาน เครสโป | อาร์เจนตินา | ปี 1996
ในโอลิมปิกปี 1996 ที่แอตแลนต้า, เครสโป ในวัย 21 ปี ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงกดคนเดียว 6 ประตู ซึ่งมันเปิดประตูค้าแข้งสู่ยุโรปของเขา
เขาย้ายมาร่วมทีม ปาร์มา ในอิตาลี ก่อนจะกลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกยุคนั้น หลังย้ายไปร่วมทีม ลาซิโอ ในปี 2000 ด้วยค่าตัว 35.5 ล้านปอนด์
หลังจากนั้น เครสโป ได้ย้ายไปร่วมทีมยักษ์ใหญ่อีกมากมายทั้ง อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน และ เชลซี ก่อนมาแขวนสตั๊ดกับ ปาร์มา ในปี 2012
Gettyโรนัลโด้ | บราซิลl | ปี 1996
โรนัลโด้ อยู่ในทีมชาติบราซิลชุดแชมป์โลก 1994 แต่ทว่าในทัวร์นาเมนต์นั้นเขาไม่ได้มีส่วนร่วมในทีมแม้แต่นัดเดียว
สองปีให้หลังที่ โอลิมปิกปี 1996 โรนัลโด้ กลายเป็นผู้นำเกมรุก กด 5 ประตูพร้อมกับฟอร์มอันโดดเด่นตลอดรายการ แม้ว่าทีมของเขาจะทำได้แค่คว้าเหรียญทองแดงเท่านั้น
หลังจากนั้น โรนัลโด้ ย้ายจาก พีเอสวี ไปร่วมทีม บาร์เซโลนา ก่อนจะสร้างชื่อทั่วยุโรปด้วยการย้ายไปร่วมทีม อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด และ เอซี มิลาน น่าเสียดายที่อาการบาดเจ็บตามเล่นงานเขาไม่เลิกจนกระทั่งในช่วงโค้งสุดท้ายของอาชีพ
Getty Imagesซามูเอล เอโต้ | แคเมอรูน | ปี 2000
ทีมชาติ แคเมอรูน แชมป์เหรียญทองโอลิมปิกในปี 2000 ในปีนั้นพวกเขาสามารถเอาชนะสเปนในชุดของ ซาบี เอร์นาเนเดซ และ การ์เลส ปูโยล คว้าแชมป์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่
เอโต้ ในเวลานั้นเป็นดาวรุ่งของ เรอัล มาดริด หลังจากจบศึกโอลิมปิก เขาย้ายไปแจ้งเกิดกับ มายอร์ก้า และได้ย้ายไปสร้างความยิ่งใหญ่กับ บาร์เซโลนา ด้วยการทำ 133 ประตูจากการลงสนาม 199 นัด ก่อนที่เขาจะย้ายไปเล่นให้อีก 8 สโมสรรวมทั้ง อินเตอร์ มิลาน และ เชลซี ก่อนแขวนสตั๊ดในปี 2019
ALEJANDRO PAGNI/AFP/Getty Imagesคาร์ลอส เตเวซ | อาร์เจนตินา | ปี 2004
ในเส้นทางสู่เหรียญทองโอลิมปิกปี 2004 คาร์ลอส เตเวซ ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นที่สุดของอาร์เจนตินา ด้วยการทำไปถึง 8 ประตูจากการลงสนาม 6 นัด
ด้วยฟอร์มกระฉูดของเขา ทำให้เจ้าตัวได้รับความสนใจจากหลายทีมยักษณ์ใหญ่ของยุโรป ก่อนจบฟุตบอลโลก 2006 เขาจะสร้างเซอร์ไพรส์ย้ายไปร่วมทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด แต่ด้วยฟอร์มที่ยังยอดเยี่ยมทำให้ฤดูกาลต่อมาเขาย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เขาคว้าแชมป์มากมายกับทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อมากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ยูเวนตุส ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ เซียงไฮ้ เสินหัว และ ปัจจุบันกับ โบคา จูเนียร์ในบ้านเกิด
FABRICE COFFRINI/AFP/Getty Imagesอังเคล ดิ มาเรีย | อาร์เจนตินา | ปี 2008
หนึ่งฤดูกาลหลังจากย้ายมาร่วมทีม เบนฟิก้า ดิ มาเรีย ถูกเรียกติดทีมชาติอาร์เจนตินา ไปลุนศึก โอลิมปิก ปี 2008 ที่ประเทศจีน ดิ มาเรีย เป็นผู้ทำประตูสำคัญให้กับทีมด้วยการยิงใส่ เนเธอร์แลนด์ ในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ และโดยเฉพาะประตูชัยพาทีมเอาชนะไนจีเรียในรอบชิงชนะเลิศคว้าเหรียญทองไปครอง
หลังจากแจ้งเกิดบนเวทีทีมชาติเต็มตัว ดิ มาเรีย ย้ายไปประสบความสำเร็จกับ เรอัล มาดริด อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น เขาไปได้ไม่สวยในการย้ายมาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนจะกลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งหลังย้ายไปร่วมทีม เปแอสเช ในปีถัดมา
ความสำเร็จล่าสุดของเขา คือการเป็นฮีโร่อีกครั้งทำประตูใส่บราซิลพาทีมเอาชนะ 1-0 คว้าแชมป์ โคปา อเมริกา 2021 ไปครอง
gettyโมฮาเหม็ด ซาลาห์ | อียิปต์ | ปี 2012
ก่อนเปิดฉาก โอลิมปิก 2012 ทีมชาติ อียิปต์รุ่น U23 เคยดวลกับ บาเซิล ในเกมอุ่นเครื่องและเป็น ซาลาห์ ที่กดสองประตูพาทีมชาติของเขาเอาชนะไป 4-3 ซึ่งต่อมาทำให้ บาเซิล คว้าตัวเข้ามาร่วมทีมทันที
หลังจากนั้น ซาลาห์ ยังโชว์ผลงานบนเวทีทีมชาติต่อเนื่องในโอลิมปิกปี 2012 และพาทีมผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้สำเร็จ แม้ว่าทีมจะตกรอบด้วยน้ำมือญี่ปุ่นแต่มันก็ทำให้เขาเข้าตาหลายทีมในยุโรป จนต่อมาเป็น เชลซี ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีม
ทว่าเขาไม่สามารถแจ้งเกิดได้ ก่อนย้ายไประเบิดฟอร์มกับ โรมา จนถูก ลิเวอร์พูล คว้าตัวกลับมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกและสถาปนาตัวเองเป็นยอดกองหน้าของลีกในยุคนี้
Mowa Pressลูคัส มูรา | บราซิล | ปี 2012
แม้ทำไดเ้เพียงคว้าเหรียญเงินในโอลิมปิกปี 2012 แต่ฟอร์มของ มูรา ในวัย 20 ปีเตะตามหลายสโมสรในยุโรป จนสุดท้ายเป็น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่กระชากตัวเขามาร่วมทีมจาก เซา เปาโล ด้วยค่าตัวสูงถึง 45 ล้านยูโร
ตลอด 5 ฤดูกาลในฝรั่งเศส มูรา ประสบความสำเร็จร่วมกับทีมแห่งเมืองหลวงคว้าแชมป์ไปถึง 16 รายการ ก่อนในปี 2018 เขาจะย้ายมาร่วมทีม ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์
Getty Imagesแซร์จ กนาบรี้ | เยอรมัน | ปี 2016
กนาบรี้ ติดทีมชาติเยอรมันชุดโอลิมปิกในปี 2016 แม้จะมีฤดูกาลที่ล้มเหลวกับเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน แต่ทว่าในรายการนี้มันทำให้เขาพลิกเส้นทางการค้าแข้งของเขากลับคืนมา
เยอรมนี ที่ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นทีมเต็งแชมป์ แต่ทว่าด้วยฟอร์มการเล่นของทั้ง กนาบี้ และ เมเยอร์ ช่วยพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศแต่ทว่าน่าเสียดายที่พวกเขาเป็นฝ่ายแพ้จุดโทษต่อบราซิล แต่ถึงอย่างนั้น กนาบี้ ยังมีฟอร์มส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมทำไปได้ 6 ประตู
11 วันหลังจบโอลิมปิก กนาบรี้ เลือกไม่ต่อสัญญากับ อาร์เซนอล และย้ายไปร่วมทีม แวร๋เดอร์ เบรเมน ซึ่งหลังจากอยู่กับทีมเพียงฤดูกาลเดียวเขาย้ายไปร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิค และกลายเป็นหัวใจสำคัญของทีมเสือใต้และทัพอินทรีเหล็กในปัจจุบัน
Getty Imagesกาเบรียล เชซุส | บราซิล | ปี 2016
นอกจาก เนย์มาร์ และ มาร์ควินญอส, กาเบรียล เชซุส เป็นอีกหนึ่งคนที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมช่วย บราซิล คว้าเหรียญทองโอลิมปิกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยผลงานส่วนตัวของเขาในวัย 19 ปีทำไปได้ 3 ประตู
หนึ่งปีให้หลัง เขาย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนที่จะประสบความสำเร็จร่วมกับทีมในการครองความยิ่งใหญ่ในประเทศ รวมถึงการเป็นตัวหลักในทีมชาติชุดใหญ่ในปัจจุบัน
โฆษณา