เรื่องน่าปวดหัวของ จู๊ด เบลลิงแฮม : เมื่อ 4 ยักษ์พรีเมียร์ลีกอยากได้ตัวเขาไปร่วมทีม

ก่อนหน้านี้ แมนฯ ยูไนเต็ด อาศัยเหล่าตำนานอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, ไบรอัน ร็อบสัน รวมถึง เอริค คันโตนา ที่พยายามกล่อมให้เขาย้ายมาร่วมทีมจาก เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เมื่อปี 2020  ก่อนที่เขาจะเลือกย้ายไป โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เพื่อโอกาสลงสนาม เหมือนกับ เออร์ลิง ฮาลันด์

ในตอนนี้ เขากลายเป็นนักเตะตัวหลัก และเนื้อหอมมากที่สุดคนหนึ่งของยุโรป เขาสามารถตัดสินใจด้วยตัวเองว่าการย้ายทีมครั้งต่อไปของเขาจะเป็นสโมสรใด

ทำให้ ถ้าหากเขาเลือกจะย้ายไปค้าแข้งต่างแดนต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อทั้ง เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ บาเยิร์น มิวนิค ก็ต่างสนใจในตัวเขา

เบลลิงแฮม ยกระดับการเล่นจากดาวรุ่งมาเป็นสมาชิกชุดใหญ่ของ ดอร์ทมุนด์ รวมถึง ทีมชาติอังกฤษ ได้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้น ๆ

แน่นอนว่าด้วยฟอร์มในตอนนี้ และคาดว่าจะยิ่งพร้อมกว่านี้หลังจบฟุตบอลโลก 2022 และฤดูกาล 2023/23 ที่จะย้ายไปเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่

ความหลากหลายในการเล่นถือเป็นจุดแข็งของ เบลลิงแฮม แต่เขาควรโฟกัสในการไปให้สุดในตำแหน่งที่เขาเล่นได้ดีที่สุด

ในทีมชาติอังกฤษ เขาเล่นร่วมกับ เดแคบน ไรซ์ โดยมีทั้ง เมสัน เมาท์ และ ฟิล โฟเด้น ในทางเลือกที่แตกต่างออกไป

ทว่าด้วยฟอร์มล่าสุดของ สิงโตคำราม เป็นเครื่องหมายคำถามว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต จะช่วยดึงศักยภาพบรรดาแข้งพรสวรรค์ของทีมออกมาได้เต็มที่แค่ไหน?

ค่อนข้างแน่ชัดว่าสองมิดฟิลด์ตัวยืนของ อังกฤษ จะเป็น ไรซ์ และ เบลลิงแฮม ที่กาตาร์ ซึ่งถ้าหาก เซาธ์เกต สามารถทำให้เขาโชว์ฟอร์มได้โดดเด่น อาจทำให้ ดอร์ทมุนด์ สามารถเรียกค่าตัว เบลลิงแฮม ได้มากกว่าเดิมในซัมเมอร์นี้ ซึ่งหากทีมใดต้องการได้ตัวไปคงต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์

หรือว่าเขาจะเป็นนักเตะค่าตัวร้อยล้านปอนด์คนแรกของ ยูไนเต็ด?

เอริค เทน ฮาก น่าจะกลับมาล่ากองกลางในโปร์ไฟล์โดดเด่นเรื่องการพาบอลแบบเขาแน่นอน หลังพลาดมหากาพย์ล่าตัว เฟรงกี้ เดอ ยอง ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา

แม้ว่า ยูไนเต็ด จะยังไม่ล้มแผนคว้า เดอ ยอง แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่หากทีมสบโอกาสคว้ามิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษจาก ดอร์ทมุนด์ ขึ้นมาเมื่อไหร่ ทิศทางในเรื่องนี้อาจเปลี่ยนไปก็ได้

หากย้ายมาร่วมทีม เบลลิงแฮม จะกลายเป็นกระดูกสันหลังของทีมไปอีกหลายปี ในแบบที่ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน, ไบรอัน ร็อบสัน และ เดวิด เบ็คเแฮม รุ่นพี่ทีมชาติอังกฤษเป็นมา

ซึ่งแน่นอนว่าโอกาสจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสำเร็จและทิศทางในทีมของ เทน ฮาก ฤดูกาลนี้

เจดอน ซานโช อาจเป็นทั้งเรื่องดีและไม่ดีในการนำ เบลลิงแฮม สู่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ดาวเตะรายนี้ย้ายจาก ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีม ปีศาจแดงในปี 2021 ทว่าเขาไม่ได้โชว์ฟอร์มเหมือนลงเล่นในบุนเดสลีกา และหลุดทีมชาติในช่วงหลัง

ถึงอย่างนั้น เขาคือแรงบันดาลใจที่ทำให้ เบลลิงแฮม ย้ายออกนอกประเทศไปเล่นกับ เสือเหลือง  และการกลับมาฟอร์มดีอีกครั้งในยุคของ เทน ฮาก อาจทำให้รุ่นน้องรายนี้สนใจย้ายตามมาร่วมงานกันอีกครั้ง

แน่นอนว่า ลิเวอร์พูล ย่อมต้องการได้ เบลลิงแฮม มาอยู่ในแผงมิดฟิลด์ของพวกเขา

เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการนำความสดใหม่เติมแดนกลาง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ทีมฟอร์มกระท่อนกระแท่นในฤดูกาลนี้

คำถามคือ FSG จะพร้อมเทงบให้ หงส์แดง ประมูลแย่งคว้ามิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษรายนี้มาร่วมทีมมากแค่ไหน เมื่อต้องแข่งกับบรรดาคู่แข่งยักษ์ใหญ่ที่พร้อมอัดฉีดกันแบบไม่อั้น

นอกจาก ลิเวอร์พูล ยังมี แมนฯ ซิตี้ ที่จ้องอยู่ไม่ห่าง หลังเพิ่งได้ตัวอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่ย้ายมาโชว์ฟอร์มสุดเปรี้ยงปร้าง

ซิตี้ น่าจะมองหามิดฟิลด์มาเสริมทัพต่อนข้างแน่ หลัง อิลคาย กุนโดกัน เตรียมหมดสัญญา และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ที่อาจถึงเวลาต้องโบกมือลากันจริง ๆ

สำหรับ เบลลิงแฮม คงดึงดูดไม่น้อยที่จะได้ย้ายมาเล่นกับ เควิน เดอ บรอยน์ รวมถึงเพื่อนร่วมทีมชาติอย่าง ฟิล โฟเด้น และที่สำคัญที่สุดการได้มาเป็นลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา

อีกทีมที่มองข้ามไปไม่ได้คือ เชลซี ภายใต้เจ้าของทีมคนใหม่อย่าง ท็อดด์ โบห์ลี และกุนซือคนใหม่ เกรแฮม พ็อตเตอร์

หลังจบฤดูกาลนี้ อาจถึงเวลาที่ทีมต้องแยกทางกับ จอร์จินโญ และ เอ็นโกโล ก็องเต้ ที่จะหมดสัญญากับทีม ในขณะที่เป้าหมายระยะยาวของพวกเขา เดแคลน ไรซ์ ค่าตัวน่าจะแพงระยับที่ 100 ล้านปอนด์ขึ้นไป

ไม่แปลกใจเลยว่า เชลซี จะหมายตา เบลลิงแฮม เข้ามายกเครื่องแผงมิดฟิลด์ในยุคใหม่ของพวกเขา

ตอนนี้การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่ เบลลิงแฮม แล้วเท่านั้น