เมื่อลมพัดหวน! 7 โค้ชดังคัมแบ็คคุมทีมเก่ารอบสอง

กุนซือชาวอิตาเลียน เริ่มงานโค้ชกับทีมเยาวชนของปีศาจแดงดำ ก่อนที่จะได้กุมบังเหียนทีมชุดใหญ่ในปี 1987, 1991-1996, 1997-1998 กวาดแชมป์เซเรีย อา 4 สมัย, ซูเปร์โคปปา อิตาเลียนา 3 สมัย และยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์คัพ อย่างละ 1 สมัย

นอกจากนี้ เจ้าตัวยังเคยคุมโลส บลังโกส เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ระหว่างปี 1996-1997 และ 2006-2007 โดยพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ลาลีกาได้ทั้ง 2 ครั้ง

เฮดโค้ชชาวโปรตุกีส สร้างชื่อโด่งดังด้วยการพาปอร์โต้คว้าแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาล 2003/2004 ก่อนจะย้ายมาสานต่อความยิ่งใหญ่กับเชลซี ระหว่างปี 2004–2007 พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับลีกคัพ 2 สมัย พ่วงเอฟเอ คัพ อีก 1 สมัย

หลังจากนั้น เจ้าตัวก็กลับมาคุมสิงโตน้ำเงินครามเป็นคำรบสอง ระหว่างปี 2013–2015 และซิวแชมป์พรีเมียร์ลีก กับลีกคัพ อีกอย่างละ 1 ถ้วย

กุนซือชาวเยอรมันเริ่มต้นกับโบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค ในปี 1979-1987 และ 2006-2007 หลังจากนั้นเขาก็เคยเป็นเฮดโค้ช 2 หน ให้กับแอธเลติก บิลเบา ระหว่างปี 1992-1994 และ 2001–2003

แต่ทีมที่เจ้าตัวสร้างชื่อมากที่สุดคือบาเยิร์นมิวนิค 1987–1991, 2009, 2011–2013 และ 2017–2018 โดยพาเสือใต้กวาดแชมป์เป็นกอบเป็นกำ ประกอบด้วย บุนเดสลีกา 4 สมัย, เยอรมัน ซูเปอร์คัพ 3 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล และยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีกอีกอย่างละ 1 สมัย (เทรเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 2012/13)

"คิง เคนนี" ประสบความสำเร็จกับลิเวอร์พูลตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะ และเมื่อขึ้นมาเป็นเฮดโค้ชของทีมระหว่างปี 1985-1991 เจ้าตัวก็พาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัย เอฟเอ คัพ 2 สมัย

ก่อนที่อีก 20 ปีถัดมา กุนซือชาวสก็อตจะหวนกุมบังเบียน เรด แมชชีน อีกหน และก็ซิวถ้วยลีกคัพไปได้อีก 1 ใบ

ตำนานจอมทัพของสโมสร ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งนายใหญ่ราชันชุดขาวในปี 2016-2018 พร้อมทำสถิติสุดโหด พาทีมคว้าแชมป์ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก 3 ปีติด 

หลังจากนั้น เขาก็หันกลับมารับงานอีกครั้งระหว่างปี 2019-2021 และพาทีมซิวแชมป์ลาลีกาเพิ่ม 1 สมัย, สแปนิช ซูเปอร์คัพ 1 สมัย

กุนซือประสบการณ์สูงคุมทีมเบียงโคเนรี 2 หน คือ 1994-1999 และ 2001-2004 ซึ่งพาทีมประสบความสำเร็จอย่างสูง คว้าถ้วยแชมป์รวมกันทั้งสองครั้งได้ถึง 13 ใบ

นอกจากนี้ เจ้าตัวยังเคยรับงานกับทีมชาติอิตาลีในปี 2004-2006 พร้อมกับคว้าถ้วยแชมป์โลก 2006 มาประดับบารมี หลังจากนั้นช่วงปลายอาชีพ เขามีโอกาสคุมทีมชาติจีนระหว่างปี 2016-2019 ก่อนจะลาออกในเดือน ม.ค. และกลับมารับงานอีกครั้งในอีก 3 เดือนถัดมา และโบกมือลาอีกหนในเดือน พ.ย. ปีเดียวกัน