อาแย็กซ์ เป็นหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเนเธอร์แลนด์ และขึ้นชื่อเรื่องการผลิตนักฟุตบอลฝีเท้าดีมาประดับวงการฟุตบอลยุโรป
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่ทีมจอมปั้นเท่านั้น หลายครั้งที่ทีมยอมทุ่มเงินก้อนโตเพื่อเข้ามาเสริมทัพตรงจุดที่ขาด และมักทำกำไรได้มหาศาลเมื่อปล่อยตัวออกไป
นับตั้งแต่เข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ในแต่ละฤดูกาลใครคือนักเตะค่าตัวแพงสุดของ อาแย็กซ์ และพวกเขาใช้เงินไปทั้งสิ้นเท่าไหร่ ลองดูที่ข้อมูลด้านล่าง
ฤดูกาล | นักเตะเซ็นสัญญาแพงสุด | ค่าตัว(ยูโร) | ใช้เงินรวม(ยูโร) |
---|---|---|---|
2022/23 | สตีเฟน เบิร์กไวน์ | 31.25 ล้าน | 105.10 ล้าน |
2021/22 | โมฮาเหม็ด ดารามี | 12 ล้าน | 18.50 ล้าน |
2020/21 | เซบาสเตียน อัลแลร์ | 22.50 ล้าน | 63.20 ล้าน |
2019/20 | ควินซี โพรเมส | 15.70 ล้าน | 59.25 ล้าน |
2018/19 | ดาลีย์ บลินด์ | 16 ล้าน | 52.95 ล้าน |
2017/18 | แม็กซิมิเลียน โวเบอร์ | 8.10 ล้าน | 26.25 ล้าน |
2016/17 | ดาวิด เนเรส | 17.40 ล้าน | 41.40 ล้าน |
2015/16 | เนมานยา กูเดลจ์ | 6 ล้าน | 11.30 ล้าน |
2014/15 | ดาลีย์ ซิงค์กราเวน | 7 ล้าน | 12.80 ล้าน |
2013/14 | ไมค์ ฟาน เดอ ฮอร์น | 3.80 ล้าน | 6.80 ล้าน |
2012/13 | นิคลาส มอยซานเดอร์ | 4 ล้าน | 5.72 ล้าน |
2011/12 | โคลเบอินน์ ซิกธอร์สสัน | 4 ล้าน | 13.28 ล้าน |
2010/11 | มูนีร์ เอล ฮัมดาอุย | 5 ล้าน | 5 ล้าน |
2009/10 | เดมี เดอ ซูว์ | 8 ล้าน | 12.30 ล้าน |
2008/09 | มิราเล็ม ซูเลจ์มานี | 16.25 ล้าน | 34.25 ล้าน |
2007/08 | อัลเบิร์ต ลูเก้ | 8 ล้าน | 26.02 ล้าน |
2006/07 | ยาป สตัม | 3 ล้าน | 9.25 ล้าน |
2005/06 | คลาส-แยน ฮุนเตลาร์ | 9 ล้าน | 15.50 ล้าน |
2004/05 | อันเจลอส ชาริสทีส | 4.90 ล้าน | 7.40 ล้าน |
2003/04 | เวสลีย์ ซองค์ | 6 ล้าน | 11.20 ล้าน |
2002/03 | วิคตอร์ ซิโครา | 4.35 ล้าน | 5.03 ล้าน |
2001/02 | ซลาตัน อิบราฮิโมวิช | 7.80 ล้าน | 15.50 ล้าน |
2000/01 | โทมัส กาลาเซค | 2.70 ล้าน | 5.30 ล้าน |
รวม | 563.3 ล้าน |
อาแย็กซ์ เซ็นสัญญากับ อัลวาเรซ มาในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 ด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร หลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ คลับ อเมริกา
ดาวเตะทีมชาติเม็กซิโกเป็นอีกหนึ่งการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยม โดยเขารับใช้สโมสรไปมากกว่า 100 นัดแล้วในปัจจุบัน
โพรเมส อยู่กับ เซบีญา ได้เพียงฤดูกาลเดียวก็โดน อาแย็กซ์ ดึงตัวมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 15.70 ล้านยูโร
อย่างไรก็ตาม เขาอยู่กับทีมได้แค่ 2 ฤดูกาล ก่อนถูกปล่อยตัวให้ สปาร์ตัก มอสโกว ด้วยค่าตัว 8.50 ล้านยูโร
อาแย็กซ์ เซ็นสัญญากับ อันโตนี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 โดยที่ข้อตกลงเริ่มมีผลตั้งแต่กรกฏาคมปีดังกล่าว
ตลอดระยะเวลา 2 ปีกับ อาแย็กซ์ แนวรุกชาวบราซิลลงเล่น 57 เกม ทำไป 18 ประตู ก่อนจะย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวถึง 97 ล้านยูโร
บลินด์ เติบโตมาจากทีมเยาวชนของ อาแย็กซ์ และลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ไป 102 ก่อนถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 17.50 ล้านยูโร เมื่อปี 2014
หลังค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด 4 ปี อาแย็กซ์ ก็ดึงตัวเขากลับมาอีกครั้งด้วยค่าตัว 16 ล้านยูโร
อาแย็กซ์ ทุ่มเงิน 16.25 ล้านยูโร เพื่อดึงตัว ซูเลจ์มานี มาร่วมทีม เมื่อปี 2008 และดาวเตะเซอร์เบียลงสนามให้ยอดทีมลีกดัตช์ไปมากกว่า 100 นัด ตลอด 5 ปี
ในช่วงปี 2012 เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจนต้องพักยาว จนทำให้ปี 2013 เขาถูกปล่อยให้ เบนฟิก้า แบบไร้ค่าตัว หลังไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ แฟรงค์ เดอ บัวร์ กุนซือในเวลานั้น
บร็อบบีย์ เติบโตมาจากทีมเยาวชนของ อาแย็กซ์ และทำผลงานได้อย่างโดดเด่น แต่แล้วในปี 2021 เขามีปัญหาเรื่องสัญญาใหม่ จนทำให้ต้องย้ายไปอยู่กับ ไลป์ซิก แบบไร้ค่าตัว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 อาแย็กซ์ ได้คว้าตัวดาวโรจน์รายนี้กลับมาร่วมทีมอีกครั้งด้วยค่าตัว 16.35 ล้านยูโร
เนเรส โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับ เซา เปาโล จนทำให้ อาแย็กซ์ ยอมทุ่มเงิน 17.40 ล้านยูโร ดึงตัวเขามาร่วมทีมเมื่อปี 2017
เขาทำผลงานยอดเยี่ยมกับ อาแย็กซ์ ในช่วงแรก ก่อนที่จะโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน รวมถึงการมาของผู้เล่นอย่าง อันโตนี และ โมฮาเหม็ด ดารามี ทำให้บทบาทของเขาน้อยลงไป จนถูกปล่อยตัวให้ ชัคห์ตาร์ โดเน็ตส์ค ไปเมื่อเดือนมกราคมปี 2022
เวสต์แฮม เซ็นสัญญากับ อัลแลร์ ด้วยต่าตัวถึง 50 ล้านยูโร แต่กลับทำผลงานได้ไม่ดีอย่างที่คาดหวัง และยอมปล่อยตัวแบบขาดทุนเกินครึ่งให้ อาแย็กซ์ ด้วยราคา 22.50 ล้านยูโร
อย่างไรก็ตาม อัลแลร์ กลับทำผลงานได้อย่างร้อนแรงกับ อาแย็กซ์ โดยทำไปถึง 47 ประตูจาก 66 นัด ในฤดูกาล 2021-22 ก่อนถูก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คว้าตัวไปร่วมทีมด้วยราคา 31 ล้านยูโร
บาสซีย์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ เรนเจอร์ส โดยมีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมดังแห่งสก็อตแลนด์ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูโรป้าลีก จนทำให้ อาแย็กซ์ ทุ่มเงิน 23 ล้านยูโร คว้าตัวเขามาร่วมทีม
อย่างไรก็ตาม เขามีสะดุดในช่วงออกสตาร์ทเล็กน้อย เมื่อโดนใบแดงโดยตรงหลังลงเล่นไปเพียง 15 นาที ในเกมประเดิมสนามพบ พีเอสวี จนทำให้ทีมพ่ายไป 3-5
เบิร์กไวน์ เป็นหนึ่งนักเตะที่ร้อนแรงที่สุดของลีกดัตช์ตอนที่ยังเล่นอยู่กับ พีเอสวี จนทำให้ สเปอร์ส คว้าตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 30 ล้านยูโร เมื่อปี 2020
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถระเบิดฟอร์มเก่งให้ไก่เดือยทองได้ และในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 ก็เป็น อาแย็กซ์ ที่ดึงตัวเขากลับไปเล่นในเอเรดิวิซีด้วยค่าตัว 31.25 ล้านยูโร
สงวนลิขสิทธิ์ © 2023 Goal (ภาษาไทย) ข้อมูลใดๆ ที่อยู่ใน Goal (ภาษาไทย) ห้ามนำไปตีพิมพ์, ออกอากาศ, แก้ไขหรือผลิตซ้ำ โดยไม่มีการขออนุญาต Goal (ภาษาไทย) อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร